กรุงเทพฯ 13 พ.ค. – สบน.หวังรายย่อยลงทุน G-Token ของรัฐบาล ออมเงินระยะยาว เผยดอกเบี้ยสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาล พร้อมจับมือธนาคาร โบรกเกอร์ Crypto Exchange เริ่มขาย ก.ค.นี้
นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า หลังจาก ครม.เห็นชอบให้กระทรวงการคลัง ออกโทเคนดิจิทัล (Government Token: G-Token) เพื่อเป็นกลไกระดมทุนรูปแบบใหม่ และเป็นประเทศแรกในโลก เพื่อนำเทคโนโลยีประยุกต์ใช้กับเครื่องมือทางการเงิน ทำให้ประชาชนเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ เพิ่มทางเลือกในการกระจายการลงทุนได้หลากหลายมากขึ้น เปิดโอกาสให้ประชาชนรายย่อยออมเงินระยะยาวกับรัฐบาล เพราะมีความมั่นคง และยั่งยืน
การออก G-Token ครั้งนี้ เหมือนกับการออกพันธบัตรรัฐบาลทุกครั้งที่ผ่านมา เพื่อให้รัฐบาลกู้เงินจากระบบ นำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณในแต่ละปี โดยจ่ายผลตอบแทน G-Token อ้างอิงกับตลาดในปัจจุบัน พร้อมบวกเพิ่มให้จากดอกเบี้ยปกติ เหมือนกับพันธบัตรออมทรัพย์ ผลตอบแทนจะสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลทั่วไป

คลังเตรียมหารือร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงาน ก.ล.ต.โบรกเกอร์ ตัวแทนนายหน้าหลักทรัพย์ทุกประเภท ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) หรือ Crypto Exchange เพื่อจัดเตรียมช่องทางการซื้อให้กับประชาชน จากเดิมการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลทุกครั้ง จะขายผ่านแอปเป๋าตัง หรือขายผ่านธนาคารพาณิชย์ ตัวแทนจำหน่าย
สำหรับการออก G-Token เพื่อปิดจุดอ่อนของการออกพันธบัตรที่ผ่านมา คือ 1. มีปัญหาต้นทุนดำเนินการสูง จึงต้องเปลี่ยนให้ต้นทุนการออกพันธบัตรถูกลง 2.การเข้าถึง การซื้อหมดอย่างรวดเร็ว โดนชาวบ้านตำหนิว่าซื้อไม่ทัน พันธบัตรหมดอย่างรวดเร็ว คลังจึงต้องการให้ประชาชนเข้าถึงได้หลายช่องทาง 3.กลุ่มคนซื้อพันธบัตรได้ทัน เป็นกลุ่มเฉพาะและเป็นกลุ่มเดิมๆ จึงต้องแก้ปัญหาให้ประชาชนทุกกลุ่มซื้อได้ อย่างครอบคลุม เช่น คนรุ่นใหม่ คนวัยเริ่มทำงาน กลุ่มต้องการออมเงินอย่างมีคุณภาพ
สำหรับการ G-Token อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.สินทรัพย์ดิจิทัล จะเปิดให้ประชาชนเข้าถึงได้หลายช่องทางมากขึ้น ผ่านบริษัทลูกของธนาคาร ที่มีบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทแลกเปลี่ยนเงินตรา จะเปิดช่องให้ประชาชนเข้าถึงง่ายขึ้น คาดว่าจ่ายดอกเบี้ยผลตอบแทนอิงกับตลาด และสูงกว่าตลาดทั่วไปอย่างแน่นอน หากประชาชนต้องการเงินก่อนครบกำหนด สามารถปล่อยขายในตลาดรอง เพื่อซื้อขายเปลี่ยนมือได้ ผ่านตลาดรอง เพราะถือว่าเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ทำผ่านเครือข่ายดิจิทัล เช่น Digital Exchange หรือ Crypto Exchange
“กระทรวงคลังมั่นใจในการออก G-Token ครั้งแรกของโลก เพราะได้เตรียมการและหารือร่วมกับหลายหน่วยงานมาโดยตลอด สำนักงาน ก.ล.ต. แบงก์ชาติ ตามกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัล จึงทดลองทยอยออก G-Token เพื่อทดลองตลาด วงเงิน 5,000 ล้านบาท อายุ G-Token คงไม่ยาวมากนัก เพราะต้องการทดลองนำล่องระบบ คาดออกได้ในช่วงเดือนกรกฎาคมปี 68 นี้ หากประสบความสำเร็จ จะใช้แนวทางดังกล่าวระดมทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยให้ทันต่อโลกยุคใหม่. -515- สำนักข่าวไทย