คาดเศรษฐกิจสหรัฐเสี่ยงเงินเฟ้อ-เศรษฐกิจชะลอตัวลง หลัง “ทรัมป์” คว้าชัย

กรุงเทพฯ​ 7 พ.ย. – “ทรัมป์” ประกาศชัยชนะเลือกตั้ง คว้าคะแนนเสียงข้างมากทั้ง 2 สภาฯ ตลาดหุ้นสหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์ฯ ตอบรับเป็นบวก แต่ในระยะข้างหน้าเศรษฐกิจสหรัฐ ยังมีความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่เร่งขึ้นและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง


ศูนย์วิจัยกสิกรไทยวิเคราะห์ว่า หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 และพรรครีพับลิกันสามารถครองเสียงส่วนใหญ่ทั้งในสภาบนและสภาล่าง (Republican Sweep) ส่งผลให้นโยบายต่างๆ ที่ทรัมป์เคยหาเสียงไว้มีแนวโน้มที่จะสามารถผลักดันให้ผ่านสภาฯ ได้ไม่ยากนัก ซึ่งหลังจากพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม 2568 นโยบายเร่งด่วนที่คาดว่าจะเห็นใน 100 วันแรก ได้แก่ มาตรการปรับเพิ่มภาษีศุลกากรขาเข้า มาตรการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลและครัวเรือน รวมถึงการต่ออายุมาตรการลดภาษีที่ประกาศใช้ในปี 2560 มาตรการกีดกันแรงงานอพยพ และมาตรการสนับสนุนการผลิตพลังงานฟอสซิลในประเทศ เป็นต้น

หลังผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ออกมา ค่าเงินดอลลาร์ฯ ตอบรับแข็งค่าขึ้น โดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์ฯ แตะระดับสูงสุดที่ 105.44 (6 พ.ย. ณ 20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) หรือแข็งค่าขึ้นราว 1.95% จากระดับปิดวันก่อนหน้า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 4.50% จากแนวโน้มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่มีเพิ่มขึ้น คาดการณ์การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ที่ลดลง และความเสี่ยงทางการคลังที่สูงขึ้น ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐ ตอบรับปรับสูงขึ้นโดยดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 1,300 จุด (6 พ.ย. ณ 20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย)


อย่างไรก็ตาม แนวโน้มความเสี่ยงเงินเฟ้อสหรัฐสูงขึ้น จากมาตรการปรับขึ้นภาษีนำเข้าและมาตรการกีดกันแรงงานอพยพ ตลอดจนการขาดดุลการคลังที่สูงขึ้น ในขณะที่มาตรการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลและมาตรการสนับสนุนการผลิตในประเทศ รวมถึงแนวโน้มที่สหรัฐฯ อาจจะเพิ่มมาตรการกีดกันการค้ากับประเทศที่เป็นฐานการผลิตของจีน อาจช่วยสนับสนุนการลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ได้ ซึ่งกว่าจะเห็นผลคงอาจจะต้องใช้เวลา ในขณะที่ในระยะสั้น อุปสงค์ในประเทศมีแนวโน้มได้รับแรงกดดันจากเงินเฟ้อทรงตัวอยู่ในระดับสูงและอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลงช้า ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เผชิญความเสี่ยงจาก Stagflation สูงขึ้น ซึ่งยังขึ้นอยู่กับมาตรการทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมที่จะออกมาบรรเทาผลกระทบเงินเฟ้อจากภาษีนำเข้าที่สูงขึ้น

นโยบายกีดกันทางการค้าในภาพรวมและผลจากการเปลี่ยนแปลงซัพพลายเชนโลก ยังเป็นความเสี่ยงด้านต่ำต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทยในระยะสั้นๆ ไทยอาจได้รับประโยชน์จากจากการเร่งนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯและการนำเข้าสินค้าจากไทยบางรายการเพื่อทดแทนสินค้าจีน ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์ โซลาร์เซลล์ ถุงมือยาง น้ำผลไม้ อุปกรณ์โทรทัศน์ PCA และของเล่น เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ไปข้างหน้า สินค้าส่งออกของไทยอาจมีความเสี่ยงที่จะถูกมาตรการปรับเพิ่มภาษีศุลกากรขาเข้าของประธานาธิบดีทรัมป์ เนื่องจากไทยมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐ สูงเป็นอันดับที่ 12 (ปี 2566) ในบรรดาคู่ค้าทั้งหมด ซึ่งคงต้องติดตามและผลสุดท้ายน่าจะต้องขึ้นอยู่กับการเจรจาระหว่างทางการไทยกับสหรัฐฯ ด้วย นอกจากนี้ การส่งออกและการท่องเที่ยวของไทยอาจได้รับผลกระทบจากแรงกดดันต่อเศรษฐกิจจีนที่มีมากขึ้น      

ไทยอาจได้อานิสงส์บางส่วนจากการย้ายฐานการผลิต แต่ผลบวกคาดว่าจะไม่เกิดขึ้นเร็ว ดอกผลของการเคลื่อนย้ายเงินลงทุน (FDI) ไปยังประเทศต่างๆ คงจะไม่เกิดขึ้นในทันที และการพิจารณาเข้าไปลงทุนของผู้ประกอบการ ยังขึ้นกับอีกหลายเงื่อนไข ซึ่งนอกจากประเด็นเรื่องต้นทุนและโอกาสในการสร้างรายได้ระยะกลางของแต่ละสินค้าในแต่ละประเทศแล้ว คงอยู่ที่ว่าประเทศนั้นๆ จะถูกเรียกเก็บอัตราภาษีจากสหรัฐฯ เท่าใด และการถูกตรวจสอบว่าเข้าข่ายเป็นบริษัทจีนหรือเกี่ยวข้องกับซัพพลายเชนของจีนมากน้อยเพียงใดด้วย


FDI การผลิตรถยนต์และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในไทย และอีกหลายประเทศในอาเซียน (ตลอดจน เม็กซิโก อินเดีย ยุโรปตะวันออก) แต่รถยนต์ BEV ที่เริ่มลงทุนและผลิตในไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่ายจีน คงจะส่งออกไปสหรัฐฯ (รวมถึงสหภาพยุโรป) ได้ลำบาก รวมถึงการส่งออกไปยังตลาดที่เหลืออย่างเช่นอาเซียนก็คงต้องเผชิญการแข่งขันมากขึ้น ขณะที่การส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ของไทยไปยังสหรัฐฯ ในอนาคตก็อาจเสี่ยงถูกเรียกเก็บภาษีเช่นเดียวกับกรณีแผงโซลาร์เซลล์ ยังไม่นับว่าไทยยังมีอุปสรรคด้านความพร้อมที่จำกัด (พลังงานสะอาด แรงงานทักษะสูง เป็นต้น) ต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีไปสู่ความต้องการชิปอัจฉริยะที่ซับซ้อนขึ้นอย่าง AI, GenAI  

ผู้ผลิตสินค้าไทยในกลุ่มเคมีภัณฑ์ วัสดุก่อสร้าง (เหล็ก) สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม มีแนวโน้มเผชิญการแข่งขันกับสินค้านำเข้าและ/หรือการเข้ามาลงทุนในไทยจากจีนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการผลิตที่มากกว่าความต้องการในประเทศของสินค้าจีน ประกอบกับกำแพงภาษีจากชาติตะวันตก ทำให้จีนต้องหาตลาดส่งออกเพื่อระบายสินค้าและหล่อเลี้ยงการประกอบธุรกิจ จะยิ่งเพิ่มการแข่งขันให้กับสินค้าไทยทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก. -511-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

“ชูวิทย์” เข้าขอโทษ “สนธิ” เคลียร์ใจ มอบพวงมาลัยอวยพรวันเกิด

“ชูวิทย์” เข้าขอโทษ “สนธิ” เคลียร์ใจ มอบพวงมาลัยอวยพรวันเกิด ขณะ “สนธิ” โผกอด ลั่นลืมไปหมดแล้ว อวยพรกลับให้หายป่วยไว ๆ เดินหน้าขับไล่คนชั่วไม่ให้มีที่ยืนในสังคม

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

ประชุมลุ่มน้ำโขง

นายกฯ ยันไทยยึดหลัก 3Cs แชร์ผลสำเร็จ 30 บาทรักษาทุกที่

ไทยแลนด์โดดเด่นบนเวทีผู้นำลุ่มน้ำโขงครั้งที่ 8 เต็มคณะเช้าวันนี้ นายกฯ แพทองธาร ยืนยันไทยยึดหลัก 3Cs “สร้างความเชื่อมโยง เสริมขีดความสามารถ สร้างประชาคมที่ดีขึ้น”