BANPU คาดครึ่งหลังธุรกิจขยายโต หวังรัฐบาลใหม่สานต่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

กรุงเทพฯ 15 ส.ค.-BANPU คาดครึ่งปีหลังภาพรวมธุรกิจเติบโตขึ้น จากราคาขายก๊าซและถ่านหินปรับตัวสูง ส่วน รัฐบาลใหม่ของไทย คาดหวังเร่งสานต่อแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เปิดเผยกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลง ผู้นำประเทศทั้งไทยและสหรัฐก็มีผลต่อธุรกิจ ก็คาดหวังรัฐบาลใหม่ จะผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว


โดยในส่วนของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ในเดือน พ.ย.นี้ ก็มีผลต่อความคืบหน้าการนำ BKV บริษัทย่อยของบ้านปูในสหรัฐฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น New York Stock Exchange (NYSE) บริษัทมีความพร้อมแล้ว แต่ยังรอให้สถานการณ์ตลาดหุ้น ซึ่งหากเศรษฐกิจสหรัฐไม่ถดถอยก็คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า

โดยก่อนหน้านี้ BKV ได้ขายสินทรัพย์ในธุรกิจต้นน้ำและกลางน้ำบางส่วนที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักในแหล่งก๊าซธรรมชาติมาร์เซลลัส (Marcellus) ในรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐฯ มูลค่าประมาณ 132 ล้านเหรียญสหรัฐ การขายสินทรัพย์ในครั้งนี้ทำให้ BKV ยังคงวินัยทางการเงินที่ดีและสามารถมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทรัพย์สินที่มีผลตอบแทนสูงกว่า


สำหรับทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก พบว่าราคาขายทั้งก๊าซและถ่านหินปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งล่าสุดราคาตลาดจรขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 150 เหรียญสหรัฐต่อตัน เทียบกับครึ่งปีแรกอยู่ที่ 135 เหรียญสหรัฐต่อตัน ในขณะที่ความต้องการใช้ก๊าซฯในช่วงครึ่งปีหลังของสหรัฐ คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น จากการเข้าสู่ฤดูหนาว ประกอบกับซัพพลายก๊าซในตลาดลดลง ส่งผลให้ราคาก๊าซปรับตัวสูงขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่ 2 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู

“มองว่าราคาก๊าซและถ่านหินที่ดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรก อดขายถ่านหินปีนี้จะเป็นไปตามเป้าที่ 40.8 ล้านตัน ประกอบกับบริษัทมุ่งควบคุมประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อคงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสด รวมถึงการลดต้นทุน จะทำให้ภาพรวมของบ้านปูฯ ในช่วงปีหลังดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก” นายสินนท์กล่าว

สำหรับผลประกอบการครึ่งแรกปี 2567 มีรายได้จากการขายรวม 2,441 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 88,425 ล้านบาท กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) รวม 650 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 23,547 ล้านบาท) และกำไรสุทธิ 69 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,489 ล้านบาท)


โดยผลการดำเนินงานของ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ในช่วงครึ่งปีแรก แบ่งเป็น ธุรกิจแหล่งพลังงาน มุ่งควบคุมประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อคงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสด โดยตั้งเป้าลดต้นทุนในธุรกิจเหมืองที่ 1.5 – 3.0 เหรียญสหรัฐต่อตัน และในธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่ 0.06 – 0.07 เหรียญสหรัฐต่อพันลูกบาศก์ฟุต ในธุรกิจก๊าซธรรมชาติ BKV Corporation (BKV) ได้ลงนามในข้อตกลงซื้อขายก๊าซธรรมชาติที่มีคาร์บอนเป็นกลางกับ ENGIE Energy Marketing NA, Inc. และ Kiewit Infrastructure South Co. โดยคาร์บอนเครดิตที่ได้มาพร้อมกับก๊าซธรรมชาติที่มีคาร์บอนเป็นกลางของ BKV มาจากการดำเนินโครงการ CCUS และเมื่อได้รับการรับรองจาก American Carbon Registry แล้ว คาดว่าจะสามารถส่งมอบก๊าซดังกล่าวได้ภายในสิ้นปี 2567

สำหรับกลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน ยังคงสร้างผลกำไรได้อย่างแข็งแกร่ง โดยในธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อน โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I และ II ในสหรัฐฯ มีรายได้จากการขายไฟฟ้า เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งในจีน ญี่ปุ่น เวียดนาม และออสเตรเลีย ยังสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างสม่ำเสมอ

ส่วนกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน ในครึ่งแรกของปี 2567 ธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา ได้ลงนามสัญญาใหม่เพื่อผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับพันธมิตรในประเทศไทยในหลากหลายอุตสาหกรรม กำลังผลิตรวม 1.9 เมกะวัตต์ และมีกำลังผลิตที่ดำเนินการแล้วเพิ่มขึ้น 4.1 เมกะวัตต์ ปัจจุบันมีกำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุนรวม 100 เมกะวัตต์ ขณะที่มีการเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop PPA) ในอินโดนีเซีย จำนวน 10 เมกะวัตต์ ธุรกิจแบตเตอรี่และระบบกักเก็บพลังงาน เริ่มเดินหน้าสายการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนของโรงงาน SVOLT Thailand และส่งมอบแบตเตอรี่ลิเธียมนิกเกิลแมงกานีสโคบอลต์ออกไซด์ (NMC) ชุดแรกให้กับผู้ให้บริการรถบัสรายใหญ่ที่สุดในไทย.-511.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ