พาณิชย์ MOU โครงการ Family Business Thailand

กรุงเทพฯ 4 เม.ย. -พาณิชย์-สภาหอการค้าฯ- ม.หอการค้าไทย โครงการ Family Business Thailand เสริมศักยภาพธุรกิจครอบครัว ประเดิมโครงการแรกสมัครแล้ว 51 ธุรกิจ ทั้งกลุ่มผลิตสินค้าและบริการ


กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ลงนาม MOU จัดโครงการ Family Business Thailand สร้างธุรกิจครอบครัวของไทยให้มีความเข้มแข็ง ทายาทมีความรู้ในการบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างเป็นระบบ เพราะกว่า 80% ของธุรกิจในประเทศไทยคือธุรกิจครอบครัว การสืบทอดธุรกิจจึงต้องใช้ความรู้ความเข้าใจและการสื่อสารในครอบครัวที่ดี เข้าใจถึงความแตกต่างของคนแต่ละช่วงวัย และเปิดใจให้คนรุ่นใหม่นำเทคโนโลยีมาช่วยบริหารธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ โครงการนี้จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจครอบครัวสามารถส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้ไม่รู้จบ

นายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานและพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจโครงการ “Family Business Thailand กระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดพิธีลงนาม MOU โครงการ Family Business Thailand โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างศักยภาพการบริหารจัดการธุรกิจครอบครัวอย่างมืออาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มทายาทธุรกิจ SME รายเล็ก สมาชิกเครือข่าย YEC ทั่วประเทศ 


ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับการเร่งพัฒนาธุรกิจ SME ไทยให้มีความพร้อมในการแข่งขัน โดยเฉพาะการสืบทอดธุรกิจครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่นซึ่งมีอยู่ในทุกประเทศมาอย่างยาวนาน รวมถึงในประเทศไทยด้วย ปัจจุบันมีสัดส่วนราว 80% ของธุรกิจทั้งหมดในประเทศไทย นับเป็นหน่วยขับเคลื่อนที่สำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี พบว่าธุรกิจครอบครัวต้องเผชิญกับปัญหาด้านการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด การบริหารความขัดแย้งที่มักจะเกิดจากความเห็นที่แตกต่างกันของคนในครอบครัวซึ่งมีประสบการณ์อยู่ในแต่ละยุคสมัย และการขาดองค์ความรู้ในการบริหารธุรกิจครอบครัวอย่างแท้จริง ดังนั้น MOU ฉบับนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่จะเชื่อมโยงให้ธุรกิจครอบครัวมีองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจ และการพัฒนาตลาดด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมทั้งกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่างๆ อันจะนำมาซึ่งข้อมูลที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ในการสร้างโอกาสทางการค้า ประกอบกับบริหารเครือข่ายให้แก่ธุรกิจครอบครัวสามารถสืบทอดต่อไปได้ อีกทั้งขับเคลื่อนและพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ SME ได้อย่างเป็นรูปธรรมสอดรับกับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่มุ่งผลักดันให้ SME เพิ่ม GDP ให้ได้ไม่น้อยกว่า 40% ภายในปี 2570

จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า ประเทศไทยมีธุรกิจครอบครัวที่เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จำนวนทั้งสิ้น 1,526 บริษัท หรือคิดเป็นร้อยละ 77.58 ของบริษัททั้งหมด และมีเพียงร้อยละ 30 ของธุรกิจครอบครัวเท่านั้นที่สามารถดำเนินธุรกิจให้อยู่รอดและส่งผ่านไปสู่รุ่นที่ 2 ได้สำเร็จ และเพียงร้อยละ 12 สามารถส่งผ่านไปสู่รุ่นที่ 3 และมีเพียงร้อยละ 3 เท่านั้นที่รอดไปสู่รุ่นที่ 4 ตามลำดับ จึงเป็นความท้าทายของทายาทธุรกิจในการพาธุรกิจของตระกูลให้สืบทอดต่อไปได้

อย่างไรก็ดี ความร่วมมือภายใต้ MOU ครั้งนี้จะช่วยพัฒนาให้ธุรกิจครอบครัวสามารถบริหารจัดการธุรกิจให้อยู่รอดอย่างแข็งแรงได้ ถือเป็นมิติใหม่ที่สำคัญและมาถูกทาง เพราะที่ผ่านมามีการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบต่างๆ แต่ยังไม่ครอบคลุมถึงธุรกิจครอบครัวเท่าไหร่นัก การ MOU ในครั้งนี้จะช่วยเข้าไปเสริมความเข้มแข็งธุรกิจได้เดินหน้าต่อ รวมถึงสะท้อนถึงอุปสรรคเชิงลึกที่ธุรกิจครอบครัวจะต้องพบทำให้ภาครัฐและเอกชนสามารถนำมาวางแผนการส่งเสริมธุรกิจเพื่อแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดในอนาคต


นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า การลงนาม MOU โครงการ Family Business Thailand นับเป็นความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ เป็นความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่ร่วมแรงร่วมใจส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการไทย โดยใช้ศักยภาพของแต่ละหน่วยงานเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย สำหรับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะทำหน้าที่ในการสนับสนุนข้อมูลธุรกิจเพื่อวางแผนการพัฒนาธุรกิจครอบครัวให้เข้มแข็ง ประกอบกับจัดอบรมในหัวข้อที่เกี่ยวข้องและวิทยากรให้ความรู้ด้านการทำธุรกิจแบบมืออาชีพ ซึ่งกิจกรรมแรกจะเริ่มจัดอบรมหลักสูตร Family Business Thailand ระหว่างวันที่ 8-9 พ.ค. 2567 ณ ศูนย์ประชุม 1 ศตวรรษ ชั้น 6 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 26 เม.ย.2567 อบรมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ขณะนี้มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 51 ธุรกิจ ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวที่หลากหลายทั้งกลุ่มที่ผลิตสินค้าและการให้บริการ

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่าที่ผ่านมา ธุรกิจครอบครัวขนาดเล็ก และขนาดกลางได้รับผลกระทบจากภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับยังขาดองค์ความรู้ในการบริหารจัดการธุรกิจอย่างเหมาะสม ทำให้ธุรกิจครอบครัวไม่สามารถปรับตัวได้ทันภายใต้สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้น การ MOU ในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพทางการแข่งขันให้กับธุรกิจครอบครัวอย่างรอบด้าน สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะที่เป็นองค์กรเอกชนที่มีนักธุรกิจมากด้วยประสบการณ์และความสามารถ พร้อมสนับสนุนบุคลากรเพื่อให้คำปรึกษา แนะนำ และจัดหาวิทยากรเพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านบริหารจัดการธุรกิจครอบครัว ผนวกความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชนและสถาบันศึกษาพร้อมส่งต่อธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อให้ธุรกิจครอบครัวมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยเพิ่มเติมว่า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมและพัฒนาหลักสูตรต่างๆ ในโครงการ Family Business Thailand ทั้งหลักสูตรระยะสั้น และหลักสูตรระยะยาว (Degree & Non-Degree) กับเจ้าของธุรกิจครอบครัว ตลอดจนทายาท เพื่อนำองค์ความรู้สำหรับการเร่งสร้างการเติบโต ควบคู่ไปกับการปรับใช้เทคโนโลยีในธุรกิจ พร้อมทั้งใช้ประโยชน์จากเครือข่ายธุรกิจครอบครัว เพื่อต่อยอดธุรกิจให้เติบโตและส่งต่อธุรกิจได้จากรุ่นสู่รุ่น

รศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล ผู้รับผิดชอบโครงการ Family Business Thailand ได้สะท้อนมุมมองในฐานะที่เป็นปรึกษาธุรกิจครอบครัวว่า ธุรกิจครอบครัวถือเป็นนักรบทางเศรษฐกิจที่สำคัญของระบบเศรษฐกิจไทย โดยสามารถสร้างรายได้ประมาณ 60-70% ของ GDP ทว่า ส่วนใหญ่มักจะประสบปัญหาในการสืบทอดธุรกิจ จนมีคำกล่าวว่า ธุรกิจครอบครัวมักจะส่งต่อกันได้ไม่ถึงรุ่นที่ 3 เนื่องจากศาสตร์การบริหารธุรกิจครอบครัวเป็นศาสตร์เฉพาะด้านที่มีการบ่มเพาะ ถ่ายทอดกันในวงจำกัด ดังนั้น การผนึกกำลังกันระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนสถาบันการศึกษาเป็น “สามประสาน” จึงถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ประเทศไทยจะสามารถขยายฐาน “กองทัพนักรบทางเศรษฐกิจ” ที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างเป็นระบบ

ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถติดตามและสมัครเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่จัดร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้ทางเว็บไซต์ www.dbd.go.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  กองธุรกิจบริการ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร. 02 5475985 หรือสายด่วน 1570 ได้.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ราชทัณฑ์ ย้าย “ทักษิณ” เข้าเรือนจำกลางคลองเปรม

คลองเปรม 9 ก.ย.- ราชทัณฑ์ ย้าย “ทักษิณ” จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เข้าเรือนจำกลางคลองเปรม ขณะอยู่ในรถคุมขัง “ทักษิณ” ยิ้มเล็กน้อย พร้อมชูนิ้วโป้งขวาให้นักข่าวที่ตะโกนถาม ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งบังคับโทษ นายทักษิณ ชินวัตร 1 ปี และส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ล่าสุด เมื่อเวลา 17.10 น. ที่ผ่านมา ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีขบวนรถตู้เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร สีขาว จำนวน 3 คัน คันแรก ทะเบียน 1 นฉ 1576 กรุงเทพมหานคร คันที่สอง ทะเบียน 1 นง 7412 กรุงเทพมหานคร และคันที่สาม ทะเบียน 1 นฉ 1977 โดยทั้งหมดได้เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังเรือนจำกลางคลองเปรม โดยรถตู้คันที่สอง ทะเบียน 1 นง 7412 กรุงเทพมหานคร เป็นรถตู้คันที่นายทักษิณ […]

“พล.อ.ณัฐพล” เข้าพรรคภูมิใจไทย “อนุทิน” พาโชว์ตัวนั่ง รมว.กลาโหม

พรรคภูมิใจไทย 9 ก.ย.- “พล.อ.ณัฐพล” มาตามนัด เข้าพรรคภูมิใจไทย “อนุทิน” พาโชว์ตัวนั่ง รมว.กลาโหม ประกาศให้อำนาจเต็ม ก่อนบินประชุม GBC พรุ่งนี้ ให้กัมพูชารู้ว่าเป็น “เจ้ากระทรวงปืนใหญ่” ด้าน “บิ๊กเล็ก” มั่นใจแก้ปัญหาชายแดนเร็วที่สุด ปัดตอบอึดอัด ทำหน้าที่ด้านการทหารกับรัฐบาลที่แล้ว พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าพรรคภูมิใจไทย ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เพื่อพบกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงกรอบแนวทางการทำงาน โดยเฉพาะประเด็นการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังที่ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวปรากฎชื่อในโผอนุทิน 1 นั่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” ในสัดส่วนคนนอก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยหลังจากการหารือร่วมกัน นายอนุทิน ได้พา พล.อ.ณัฐพล มาโชว์ตัว และให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวอย่างเป็นทาง ถึงการรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน กล่าวว่า นี่เป็นสิ่งที่ตนปฏิบัติมาโดยตลอดช่วง 2-3 วันนี้ เมื่อตนได้เชิญผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่เป็นบุคคลภายนอก จะนำมาแนะนำให้กับประชาชนได้รับทราบ ตนได้ใช้เวลาในการหารือ ในที่สุดขอเชิญรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลชุด นส.แพทองธาร […]

“อนุทิน” ส่งรายชื่อ ครม. ตรวจประวัติครบแล้ว

พรรคภูมิใจไทย 9 ก.ย.-“อนุทิน” ส่งรายชื่อ ครม. ตรวจประวัติครบแล้ว ลั่นส่งเกินด้วย ย้ำใครไม่ผ่านก็แต่งตั้งไม่ได้ พร้อมแจงเหตุผลเลือก “บวรศักดิ์” นั่งรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย เตรียมยกร่าง รธน. ไม่กดดัน มีเวลาทำงาน 4 เดือน บอกถนัดอยู่แล้ว แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง เผยคุย “บิ๊กเล็ก” วันนี้ เตรียมข้อมูลประชุมจีบีซี พรุ่งนี้ พร้อมทลายหลายข้อจำกัด ย้ำจุดยืนแก้ปัญหาชายแดนทุกมิติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้ส่งรายชื่อ บุคคลที่จะเสนอเป็นรัฐมนตรีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณสมบัติทุกครบทุกคนแล้ว โดยยังไม่ได้ระบุตำแหน่ง ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ส่งไปแล้ว พร้อมหัวเราะ และบอกว่า “ส่งเกินด้วย” ซึ่งคุณสมบัติ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ต้อง เป็นคนยุติธรรม พร้อมยอมรับว่าได้ทาบทามพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ และได้เชิญมาพูดคุยที่พรรคภูมิใจไทย ว่าท่านมีแนวทางดำเนินการอย่างไร เพราะวันพรุ่งนี้จะต้องเดินทางไปประชุม จีบีซี ที่กาะกง ส่วนเหตุผลที่เลือกพลเอกณัฐพล นายอนุทินกล่าวว่าเพราะต้องการให้งานของกระทรวงกลาโหม สืบเนื่องต่อไป ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าไม่เปลี่ยนม้ากลางศึกใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่ามีคำพังเพยอยู่ เรามองเรื่องประเทศชาติเป็นสำคัญ แต่เราอาจจะมีแนวทางใหม่ให้ท่าน […]

โคราชอ่วม! น้ำท่วมหลายจุด เร่งอพยพประชาชน

9 ก.ย. – โคราชอ่วม! น้ำท่วมหลายจุด บางพื้นที่ต้องอพยพประชาชนออกจากบ้านเรือน เพื่อความปลอดภัย ขณะที่พบแล้วศพหนุ่มพิมายขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำป่าซัดตกท่อระบายน้ำข้างกำแพงโรงเรียน คลิปวิดีโอที่ชาวบ้านบันทึกไว้ได้เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (8 ก.ย.) ขณะน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมถนนในพื้นที่บ้านรังกาใหญ่ ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หลังจากมีฝนตกหนัก ระดับน้ำท่วมสูงและเชี่ยวกราก มีชายคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวกรากไปบริเวณสี่แยกกลางหมู่บ้าน บ้านตะปัน ต.รังกาใหญ่ แม้ชาวบ้านจะเตือนและพยายามตะโกนห้ามแล้วแต่ไม่ฟัง สุดท้ายถูกน้ำป่าซัดทั้งรถและคนลอยหายไปกับกระแสน้ำ กระทั่งช่วงเที่ยงคืนวันนี้ (9 ก.ย.) ระดับน้ำเริ่มลดลง ชาวบ้านพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง มีกุญแจเสียบคาอยู่ พร้อมกับถังน้ำมัน ลอยมาติดกำแพงโรงเรียนพิมายสามัคคี 1 ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต ชื่อนายสมชาย อายุ 35 ปี ถูกน้ำป่าซัดตกลงไปในท่อระบายน้ำข้างกำแพงโรงเรียน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา ก่อนนำส่งโรงพยาบาลพิมาย เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต นาทีน้ำป่าไหลซัดคนลอยออกจากบ้านคลิปนาทีน้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน บ้านตะปัน หมู่ 5 ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (8 ก.ย.) โดยจะเห็นว่าน้ำป่าที่ไหลมาจากพื้นที่ อ.ห้วยแถลง หลังจากมีฝนตกติดต่อกันนานหลายชั่วโมง ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน […]