กรุงเทพฯ 23 ก.พ.-ปี 66 กลุ่มบางจากฯ สร้างประวัติศาสตร์ EBITDA 41,680 ล้านบาท ทำสถิติรายได้และกำไรสูงสุด ด้าน BAFS รายได้พุ่งจากนักท่องเที่ยวเพิ่ม
กลุ่มบริษัทบางจาก รายงานผลการดำเนินงานปี 2566 หลังจากปิดดีลประวัติศาสตร์ในการเข้าซื้อหุ้นของบริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC (ชื่อเดิม บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)) มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 385,853 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 จากปี 2565) EBITDA 41,680 ล้านบาท และมีกำไรสำหรับงวดปี 2566 ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 13,233 ล้านบาท สูงสุดสร้างสถิติใหม่นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 9.27 บาท คณะกรรมการ บริษัทอนุมัตินำเสนอจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดครึ่งปีหลังของปี 2566 ในอัตรา 1.50 บาทต่อหุ้น โดยวันให้สิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อรับสิทธิในการรับเงินปันผลเป็นวันที่ 7 มีนาคม 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 เมษายน 2567
สำหรับไตรมาส 4 ปี 2566 มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 142,922 ล้านบาท EBITDA 10,247 ล้านบาท ทั้งนี้ หากไม่รวมรายการพิเศษที่เกิดขึ้นในไตรมาส บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไร 1,347 ล้านบาท อย่างไรก็ดี มีรายการพิเศษหลักจากการบันทึกรายการด้อยค่าสินทรัพย์ของ OKEA ซึ่งรับรู้ผลขาดทุนทางบัญชีตามสัดส่วนการถือหุ้นหลังจากหักภาษีจากแหล่งผลิต Statfjord 2,040 ล้านบาท และ Inventory Loss 993 ล้านบาท แต่มีกำไรจากตราสารอนุพันธ์ 1,266 ล้านบาท สามารถชดเชยผลขาดทุนที่เกิดจาก Inventory Loss ได้ทั้งหมด ส่งผลให้ไตรมาส 4 ปี 2566 มีผลขาดทุนที่ 977 ล้านบาท
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าปี 2567 บางจากฯ พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนการขยายธุรกิจจากการลงทุนขนาดใหญ่ มีเป้าหมาย EBITDA Synergy ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจอื่น ๆ ยังมีแผนขยายอย่างต่อเนื่อง และบริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญในธุรกิจต้นน้ำ เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงาน โดยจะพิจารณาโอกาสในการเติบโตเพิ่มเติมจากแหล่งปิโตรเลียมที่มีศักยภาพอื่น ๆ ต่อไป ในขณะเดียวกัน ก็มุ่งมั่นร่วมบรรเทาวิกฤติสภาพภูมิอากาศ สร้างโลกยั่งยืน ด้วยการเป็นโรงกลั่นแรกและโรงกลั่นเดียวในประเทศไทยที่ผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) ภายในไตรมาสแรกของปี 2568 ด้วยกำลังการผลิต 1,000,000 ลิตรต่อวัน
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทบางจากมีกำลังการผลิตติดตั้งของโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งรวมอยู่ที่ 294,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงที่สุดในประเทศ กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด ภายใต้การดำเนินงานโดยบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) มีการขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ขยายการลงทุนในคลังน้ำมัน ท่าเทียบเรือ และท่อขนส่งน้ำมันในจังหวัดเพชรบุรี เพื่อสร้างรายได้จากทรัพย์สินต่อเนื่อง ช่วยบรรเทาผลกระทบการสิ้นสุด Adder ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศ โดยในปี 2566 มี EBITDA รวม 4,219 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 34 จากปี 2565
กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ภายใต้การดำเนินงานโดยบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) มี EBITDA รวม 667 ล้านบาทในปี 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากปี 2565 ได้รับประโยชน์จากปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไบโอดีเซลและเอทานอลที่เพิ่มขึ้นจากคำสั่งซื้อของ BSRC
กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและธุรกิจใหม่ มี EBITDA รวม 19,671 ล้านบาทในปี 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากปี 2565 จากปริมาณจำหน่ายของ OKEA ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 74 จากปีก่อนหน้า
ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท เชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินการของ BAFS GROUP ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผลประกอบการไตรมาส 4/2566 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 803 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2565 จากนโยบายส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวสะสมตลอดทั้งปีจำนวนกว่า 28 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 2.5 เท่าจากปีก่อน และจากปริมาณขนส่งน้ำมันรวมทุกผลิตภัณฑ์ของโครงการระบบท่อส่งน้ำมันภาคเหนือ (NFPT) ที่เติบโตขึ้นมากกว่า 100% จากการทำธุรกิจเชิงรุก รวมทั้งจากการขยายการลงทุนในกลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทน.-511-สำนักข่าวไทย