เอกชน 3 จว.ชายแดนใต้ฝากรัฐทบทวน-ขยายมาตรการช่วยเหลือ

กรุงเทพฯ 19 ธ.ค.-ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเผยข้อเสนอภาคเอกชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ วอนภาครัฐทบทวน-ขยายมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่จะหมดลงในเร็วๆนี้ เพื่อให้เอกชนสามารถกู้เงินมาดำเนินธุรกิจต่อเนื่องได้


นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมประชุมรับฟังข้อเสนอจากผู้ประกอบการ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่จากเหตุการณ์ความไม่สงบและจูงใจให้ผู้ประกอบการลงทุนในพื้นที่ต่อเนื่อง ที่มีวัตถุประสงค์เป็นเงินทุนหมุนเวียนและการลงทุน ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2548 ในรูปแบบสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน โดยให้ดอกเบี้ยเงินกู้ ร้อยละ 1.5 ต่อปี และรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยในวงเงินกู้ทั้งหมด 25,000 ล้านบาท ให้สถาบันการเงินร้อยละ 2 ต่อปี ซึ่งปัจจุบันมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดลงตามมติ ครม. และจะต้องชำระเงินกู้มทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2568 

ทั้งนี้ จะแตกต่างกันตามวงเงินที่ได้รับทำให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ได้สะท้อนปัญหามายังหอการค้าไทยว่าผู้ประกอบการที่ได้รับวงเงินสินเชื่ออยู่ในปัจจุบันจำนวนมาก อาจไม่สามารถเตรียมพร้อมในการชำระเงินคืนได้ทัน ส่งผลให้มีภาระต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้น 2 – 3 เท่าทันทีจากการประเมินพบว่ามีผู้ประกอบการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อไปแล้ว( ณวันที่ 31 ธ.ค. 2565) ประมาณ 4,890 ราย รวมวงเงิน 20,872 ล้านบาท จากวงเงินโครงการทั้งหมด 25,000 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นว่ารัฐบาลชดเชยต้นทุนดอกเบี้ยให้กับสถาบันการเงินในวงเงินที่ไม่มากและอยู่ภายใต้กรอบเดิมที่ตั้งไว้ หากเทียบกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ผู้ประกอบการไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อกำหนดนี้ได้ จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อสถานการณ์หนี้เสีย (NPL) และกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการในพื้นที่


ทั้งนี้ จากการหารือร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการในจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส กับหอการค้าไทยได้มีการส่งข้อเสนอเปิดผนึกไปถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ในวันที่ 19 ธ.ค. เพื่อพิจารณาทบทวนแนวทางการช่วยเหลือ ดังนี้ 

1. ข้อเสนอระยะเร่งด่วน – ขอให้ ครม. มีมติพิจารณาชะลอนโยบายการชำระสินเชื่อเพื่อลดวงเงินกู้ยืมทั้งในส่วนของวงเงินไม่เกิน 50 ล้านบาท ภายในวันที่ 31 ธ.ค. 66 และวงเงินไม่เกิน 20 ล้านบาท ภายในวันที่ 31 ธ.ค. 67 ออกไปอย่างน้อย 1 ปี เพื่อแก้ไขปัญหาและกำหนดแนวทางการชำระเงินกู้ให้สอดคล้องกับความสามารถของผู้ประกอบการ ผ่านคณะกรรมการบริหารการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำตามมาตรการส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดชายแดนใต้ (สินเชื่อ Soft Loan) ที่ประกอบไปด้วยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง สถาบันการเงิน และภาคเอกชนในพื้นที่

2. ขอให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนขยายระยะเวลาชำระหนี้ทั้งหมดจากภายในปี 68 เป็น ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2570 โดยระหว่างนี้ให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบการร่วมกันหารือ เพื่อวางแผนการชำระหนี้ และเจรจาปรับอัตราดอกเบี้ยตามข้อตกลงที่เห็นพ้องกันทั้งสองฝ่าย ต่อไป


อย่างไรก็ตาม หอการค้าไทยเชื่อว่าข้อเสนอดังกล่าวจะช่วยเติมทุนและขยายโอกาสให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ให้ยังสามารถดำเนินธุรกิจภายใต้เศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก จึงจำเป็นต้องอาศัยได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลและสถาบันการเงินในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเดินหน้าธุรกิจ และสร้างการจ้างงานในพื้นที่ต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้เกิดการกระจายรายได้และลดความเหลื่อมล้ำใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ดียิ่งขึ้นด้วยด้วย

นายสนั่นกล่าวว่า จากมติ ครม.เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 (ก่อนยุบสภา) พิจารณาทบทวน มติ ครม. 20 ธันวาคม 2565 
ตามข้อเสนอเพื่อขยายระยะเวลาการชำระหนี้ของผู้ประกอบการในโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยงต่ำตามมาตรการส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดชายแดนใต้ (สินเชื่อ Soft Loan) และได้การกำหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติม ดังนี้

1. ผู้เข้าร่วมโครงการ ที่มีวงเงินกู้เกินกว่า 50 ล้านบาท ต้องลดลงให้เหลือไม่เกิน 50 ล้านบาท ภายใน 31 ธันวาคม 2566

2. ผู้เข้าร่วมโครงการ ที่มีวงเงินกู้เกินกว่า 20 ล้านบาท ต้องลดลงให้เหลือไม่เกิน 20 ล้านบาท ภายใน 31 ธันวาคม 2567

3. ผู้เข้าร่วมโครงการ ทั้งหมด ชำระคืนเงินกู้ทั้งหมด ภายใน 30 มิถุนายน 2568 เป็นต้น.-514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ช่วยผู้รอดชีวิตรายแรก เหตุตึก สตง.แห่งใหม่ ถล่ม

กทม. 28 มี.ค. – ช่วยได้แล้ว 1 ราย ผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคาร สตง.แห่งใหม่ พังถล่ม เป็นคนงานที่ติดอยู่ในช่องลิฟต์ เร่งนำส่ง รพ. อัปเดตตัวเลขผู้เสียชีวิต ณ เวลา 19.25 น. เพิ่มขึ้นเป็น 4 ราย บาดเจ็บ 9 ราย สูญหาย 117 ราย .-สำนักข่าวไทย

ระดมค้นหา 94 ชีวิต เหตุตึกถล่มย่านจตุจักร

เกาะติดเหตุอาคาร สตง.แห่งใหม่ พังถล่มจากแผ่นดินไหว จนท.ยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต ตัวเลข ปภ. คาดมีคนงานติดอยู่ในซาก 94 ราย ยังไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่ยืนยันผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 3 ราย ด้านนายกฯ ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ก่อนเดินทางไปยังศูนย์บัญชาการแผ่นดินไหว กทม.

กรมอุตุฯ เฝ้าระวังอาฟเตอร์ช็อก เขย่าแล้ว 21 ครั้ง

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานอาฟเตอร์ช็อกแล้ว 21 ครั้ง นักวิชาการระบุ พลังงานของแผ่นดินไหวลดลงตามลำดับ แต่ที่น่าห่วงคือ โครงสร้างของอาคารต่างๆ โดยเฉพาะอาคารสูงในกรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่บนชั้นดินอ่อน ต้องมีการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง

นายกฯ ยันไม่เกิดสึนามิแน่ เหตุเป็นแผ่นดินไหวบนบก

นายกฯ เผยสถานการณ์แผ่นดินไหวคลี่คลาย ประชาชนกลับเข้าที่พัก-อาคารสูงได้ พร้อมเปิดพื้นที่สวนสาธารณะให้อยู่ ขณะรถไฟฟ้าเปิดให้ บริการอีกครั้งวันพรุ่งนี้ สั่งเร่งทยอยนำคนออกจากตึกถล่ม จตุจักร ก่อนลงพื้นที่ด่วน ยันไม่เกิดสึนามิแน่ เหตุเป็นแผ่นดินไหวบนบก