หอการค้าฯ จับมือ SME D Bank ดันสินเชื่อใหม่ SMEs

กรุงเทพฯ 25 ก.พ. – หอการค้าฯ ชี้ SMEs ไทยอ่วม เข้าถึงแหล่งทุนไม่ได้ จับมือ SME D Bank ดันสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 3% ต่อปี แก้ปัญหากลุ่มเปราะบางกู้นอกระบบ พร้อมให้สิทธิสมาชิก ลดค่าธรรมเนียมการพิจารณาสินเชื่อ เตรียมเสนอรัฐขยายวงเงินสินเชื่อ Factoring จากเดิม 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท
 
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน ภาคธุรกิจยังไม่สามารถขับเคลื่อนได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากผู้ประกอบการจำนวนมากประสบกับปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อนำมาหมุนเวียนสภาพคล่อง โดยพยายามหาทางรอดด้วยวิธีการต่าง ๆ บางรายหันไปพึ่งแหล่งเงินทุนจากสินเชื่อส่วนบุคคลหรือบัตรเครดิตจาก non bank ยิ่งไปกว่านั้น บางรายพึ่งพาเงินนอกระบบที่คิดดอกเบี้ยสูงมาก ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาจนยากต่อการแก้ไขในอนาคต วันนี้ต้องให้ความสำคัญกับการทำให้สถาบันการเงินสามารถปล่อยสินเชื่อให้ SMEs ได้สะดวกและเข้าถึงง่ายขึ้น เพื่อให้ธุรกิจขนาดเล็กและกลางสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ โดยเฉพาะในภาคการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ ภาคบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งในส่วนของธุรกิจก่อสร้างทั่วไปที่เชื่อมโยงกับหลากหลายอุตสาหกรรม และภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับโครงการของภาครัฐ ซึ่งในบางกรณียังคงมีการเบิกจ่ายที่ล่าช้า ทำให้ผู้ประกอบการเกิดปัญหาสภาพคล่อง หากสามารถเพิ่มสภาพคล่องและการเข้าถึงสินเชื่อให้กับธุรกิจเหล่านี้ได้ ก็จะช่วยให้เศรษฐกิจโดยรวมฟื้นตัวเร็วขึ้น และนำไปสู่การเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน


“หอการค้าไทยและ SME D Bank ได้เล็งเห็นถึงบทบาทสำคัญของภาคการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ และภาคบริการในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในช่วงเวลานี้ จึงได้เสนอให้ขยายวงเงินสินเชื่อ Factoring ของ SME D Bank สำหรับผู้รับเหมาที่มีศักยภาพ จากเดิม 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบมากขึ้น โดยหอการค้าไทยจะนำเสนอแนวคิดดังกล่าวต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังภายในเดือนนี้ เพื่อผลักดันให้มาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมต่อไป” นายสนั่น กล่าว

นายธวัชชัย เศรษฐจินดา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจที่หอการค้าฯ มุ่งเน้นนั้น เป็นกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้กับประเทศ และเกี่ยวเนื่องไปถึงการสร้างรายได้ให้กับภาคประชาชน (แรงงาน) จำนวนมาก เช่น ภาคการท่องเที่ยว มีความเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลายอย่าง แม้ตัวเลขการท่องเที่ยวจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นเป็นลำดับ สะท้อนจากจำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวที่กลับมาเกือบเป็นปกติ แต่ผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยก็ยังประสบกับปัญหาสภาพคล่อง และยังไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ ส่วนภาคการเกษตร ช่วงที่ผ่านมาได้เผชิญปัญหากับปรากฏการณ์เอลนีโญ–ลานีญา และสภาพอากาศที่แปรปรวน รวมทั้ง ราคาปัจจัยการผลิตหลายชนิดยังอยู่ในระดับสูง จึงประสบกับปัญหาด้านต้นทุน การช่วยเหลือผู้ประกอบการในภาคการเกษตรนี้ จะส่งผลดีต่อเนื่องไปยังแรงงานภาคการเกษตรได้อีกมาก ในขณะที่ ภาคก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์นั้น มีผู้ประกอบการจำนวนมากที่มีสัญญารับงานจากภาครัฐ ซึ่งจะเป็นหลักประกันที่ดีอย่างหนึ่งในเรื่องความสามารถในการชำระหนี้ เมื่อมีการขอสินเชื่อ ดังนั้น หากมีกลไกในการคัดกรองผู้ประกอบการที่ยังมีศักยภาพ เพื่อให้ความช่วยเหลือเรื่องการเข้าถึงสินเชื่อแล้ว ก็จะช่วยให้ภาคธุรกิจนี้เติบโตได้ดีอีกครั้ง


นายพิชิต  มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank กล่าวว่า ธนาคารฯ ได้เปิดตัวสินเชื่อ 2 โครงการใหม่ วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการ เปิดรับคำขอจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 นี้ ได้แก่
1) โครงการสินเชื่อ “ปลุกพลัง SME” วงเงินสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายเล็ก ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ในทุกภาคธุรกิจ ที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 2 ล้านบาท สำหรับลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ รวมถึงหมุนเวียน และเสริมสภาพคล่อง
ในธุรกิจ วงเงินกู้ต่อรายสูงสุดไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3%ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ปลอดชำระเงินต้นสูงสุด 12 เดือน และใช้ บสย.ค้ำประกันได้
และ 2) โครงการสินเชื่อ “Beyond ติดปีก SME” วงเงิน 10,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ในทุกภาคธุรกิจ ที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 2 ล้านบาทขึ้นไป สำหรับใช้เสริมสภาพคล่อง ลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ ปรับเปลี่ยนทรัพย์สินหรือเครื่องจักร เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจ วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3%ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ปลอดชำระเงินต้นสูงสุด 12 เดือน ใช้ บสย.ค้ำประกันร่วมได้
สำหรับความร่วมมือกับหอการค้าไทยนั้น นอกจากดอกเบี้ยที่ถูกแล้ว SME D Bank ยังมอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกและเครือข่ายหอการค้าเพิ่มเติม ด้วยการลดค่าธรรมเนียมการพิจารณาสินเชื่อ พร้อมกับการพิจารณาแบบ Fast track รู้ผลไว ไม่ต้องรอนาน ซึ่งกำหนดเป็นนโยบายการปฏิบัติในปัจจุบัน รวมทั้งสิทธิในการรับคำปรึกษา และบริการต่าง ๆ ที่อยู่ในแพลตฟอร์ม DX by SME D Bank (dx.smebank.co.th) ของธนาคารฯ นอกจากนั้น ในอนาคตจะมีการหารือร่วมกันทำแคมเปญพิเศษเป็นช่วง ๆ เพิ่มเติมสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิกหอการค้า รวมทั้งออกแบบผลิตภัณฑ์สินเชื่อให้ตรงกับความต้องการ และแก้ปัญหาการเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนให้กับผู้ประกอบการ SMEs ในแต่ละกลุ่มธุรกิจต่อไป.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยยื่นหนังสือถึงสหประชาชาติปมชายแดนไทย-กัมพูชาเช่นกัน

5 ก.ค. – โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงไทยยื่นหนังสือถึงสหประชาชาติเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาเช่นกัน เพื่อชี้แจงท่าทีของประเทศไทย ตามที่มีการสอบถามจากสื่อต่าง ๆ เรื่องในสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับหนังสือของเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรกัมพูชา ณ นครนิวยอร์ก ถึงเลขาธิการสหประชาชาติต้องการจะฟ้องร้องประเด็นชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาต่อ ICJ หรือศาลยุติธรรมระหว่างประเทศนั้น นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า

ปลัด อบต. ถูกหลอกลงทุน สูญ 4 ล้าน

บุรีรัมย์ 5 ก.ค. – ปลัด อบต.สาวชาว ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นหมอเกษียณ ทักมาจีบ แล้วหลอกร่วมลงทุนอ้างผลตอบแทนสูง หลงเชื่อสูญ 4 ล้าน นำที่ดินไปจำนอง รถเข้าไฟแนนซ์ นส.ปลา ปลัด อบต.สาว แห่งหนึ่ง ในจังหวัดศรีสะเกษ นำข้อความแชตสนทนาและรูปโปร์ไฟล์ของชายคนหนึ่งอ้างตัวเป็นแพทย์ รพ.ชื่อดัง ชื่อ เจ ซึ่งปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้วออกมาร้องสื่อมวลชน ในจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อขอความช่วยเหลือโดยอ้างว่า ถูก นายแพทย์คนดังกล่าวหลอกลวง ด้วยวิธีการทักเฟซบุ๊กมาจีบ เมื่อ 21 พ.ย.67 ก่อนจะขอแอดไลน์ระหว่างนั้นมีการพูดคุยวิดีโอคอนสานสัมพันธ์กัน ผ่านไปไม่นานก็หลอกล่อให้ร่วมลงทุนผ่านแอปฯ อ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูงยิ่งลงทุนมากยิ่งผลตอบแทนมาก จนหลงเชื่อร่วมลงทุน     ครั้งแรก หมอเจ ชักชวนให้ลองลงทุน เป็นเงิน 50,000 บาท มีการเติมเงินเข้าระบบ และลองเล่นที่ห้องที่ 1 ตามที่หมอเจแนะนำ จนเสร็จสิ้นขั้นตอนการเล่น ปรากฏว่าได้ผลตอนแทน เป็นเงิน 54,000 บาทจริง ต่อมาหมอเจ ก็โน้มน้าวต่อ หากอยากเล่นแบบมีรายได้เยอะกว่านี้ ก็ให้เติมเงินเข้าระบบไปเล่นที่ห้อง 2-10 ตนเห็นว่าครั้งแรกได้เงินจริง […]

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

เด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่

กทม. 5 ก.ค. – สั่งเด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่ ขณะที่เช้านี้เจ้าหน้าที่คุมตัว 72 นักพนัน ไปฝากขังศาลแขวงดอนเมือง พบส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.2 รรท.ผบก.น.2 ลงนามในคำสั่ง กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ที่ 183/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเมื่อวันที่ 4 ก.ค.68 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าทำการสืบสวนสถานที่ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าเป็นบ่อนการพนัน บริเวณอาคารพาณิชย์ กลางซอยพหลโยธิน 52 แยก 3 แขวงคลงถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และได้จับกุมผู้ต้องหากับพวกในข้อหา “ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันไฮโล เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต”และ “ร่วมกันเข้าเล่นหรือเล่นการพนันโฮโลเพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของสน.บางเขน เพื่อให้การบริหารงานในภาพรวมของ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเรียบร้อย […]