หอการค้าฯ จับมือ SME D Bank ดันสินเชื่อใหม่ SMEs

กรุงเทพฯ 25 ก.พ. – หอการค้าฯ ชี้ SMEs ไทยอ่วม เข้าถึงแหล่งทุนไม่ได้ จับมือ SME D Bank ดันสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 3% ต่อปี แก้ปัญหากลุ่มเปราะบางกู้นอกระบบ พร้อมให้สิทธิสมาชิก ลดค่าธรรมเนียมการพิจารณาสินเชื่อ เตรียมเสนอรัฐขยายวงเงินสินเชื่อ Factoring จากเดิม 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท
 
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน ภาคธุรกิจยังไม่สามารถขับเคลื่อนได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากผู้ประกอบการจำนวนมากประสบกับปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อนำมาหมุนเวียนสภาพคล่อง โดยพยายามหาทางรอดด้วยวิธีการต่าง ๆ บางรายหันไปพึ่งแหล่งเงินทุนจากสินเชื่อส่วนบุคคลหรือบัตรเครดิตจาก non bank ยิ่งไปกว่านั้น บางรายพึ่งพาเงินนอกระบบที่คิดดอกเบี้ยสูงมาก ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาจนยากต่อการแก้ไขในอนาคต วันนี้ต้องให้ความสำคัญกับการทำให้สถาบันการเงินสามารถปล่อยสินเชื่อให้ SMEs ได้สะดวกและเข้าถึงง่ายขึ้น เพื่อให้ธุรกิจขนาดเล็กและกลางสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ โดยเฉพาะในภาคการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ ภาคบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งในส่วนของธุรกิจก่อสร้างทั่วไปที่เชื่อมโยงกับหลากหลายอุตสาหกรรม และภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับโครงการของภาครัฐ ซึ่งในบางกรณียังคงมีการเบิกจ่ายที่ล่าช้า ทำให้ผู้ประกอบการเกิดปัญหาสภาพคล่อง หากสามารถเพิ่มสภาพคล่องและการเข้าถึงสินเชื่อให้กับธุรกิจเหล่านี้ได้ ก็จะช่วยให้เศรษฐกิจโดยรวมฟื้นตัวเร็วขึ้น และนำไปสู่การเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน


“หอการค้าไทยและ SME D Bank ได้เล็งเห็นถึงบทบาทสำคัญของภาคการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ และภาคบริการในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในช่วงเวลานี้ จึงได้เสนอให้ขยายวงเงินสินเชื่อ Factoring ของ SME D Bank สำหรับผู้รับเหมาที่มีศักยภาพ จากเดิม 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบมากขึ้น โดยหอการค้าไทยจะนำเสนอแนวคิดดังกล่าวต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังภายในเดือนนี้ เพื่อผลักดันให้มาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมต่อไป” นายสนั่น กล่าว

นายธวัชชัย เศรษฐจินดา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจที่หอการค้าฯ มุ่งเน้นนั้น เป็นกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้กับประเทศ และเกี่ยวเนื่องไปถึงการสร้างรายได้ให้กับภาคประชาชน (แรงงาน) จำนวนมาก เช่น ภาคการท่องเที่ยว มีความเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลายอย่าง แม้ตัวเลขการท่องเที่ยวจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นเป็นลำดับ สะท้อนจากจำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวที่กลับมาเกือบเป็นปกติ แต่ผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยก็ยังประสบกับปัญหาสภาพคล่อง และยังไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ ส่วนภาคการเกษตร ช่วงที่ผ่านมาได้เผชิญปัญหากับปรากฏการณ์เอลนีโญ–ลานีญา และสภาพอากาศที่แปรปรวน รวมทั้ง ราคาปัจจัยการผลิตหลายชนิดยังอยู่ในระดับสูง จึงประสบกับปัญหาด้านต้นทุน การช่วยเหลือผู้ประกอบการในภาคการเกษตรนี้ จะส่งผลดีต่อเนื่องไปยังแรงงานภาคการเกษตรได้อีกมาก ในขณะที่ ภาคก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์นั้น มีผู้ประกอบการจำนวนมากที่มีสัญญารับงานจากภาครัฐ ซึ่งจะเป็นหลักประกันที่ดีอย่างหนึ่งในเรื่องความสามารถในการชำระหนี้ เมื่อมีการขอสินเชื่อ ดังนั้น หากมีกลไกในการคัดกรองผู้ประกอบการที่ยังมีศักยภาพ เพื่อให้ความช่วยเหลือเรื่องการเข้าถึงสินเชื่อแล้ว ก็จะช่วยให้ภาคธุรกิจนี้เติบโตได้ดีอีกครั้ง


นายพิชิต  มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank กล่าวว่า ธนาคารฯ ได้เปิดตัวสินเชื่อ 2 โครงการใหม่ วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการ เปิดรับคำขอจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 นี้ ได้แก่
1) โครงการสินเชื่อ “ปลุกพลัง SME” วงเงินสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายเล็ก ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ในทุกภาคธุรกิจ ที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 2 ล้านบาท สำหรับลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ รวมถึงหมุนเวียน และเสริมสภาพคล่อง
ในธุรกิจ วงเงินกู้ต่อรายสูงสุดไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3%ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ปลอดชำระเงินต้นสูงสุด 12 เดือน และใช้ บสย.ค้ำประกันได้
และ 2) โครงการสินเชื่อ “Beyond ติดปีก SME” วงเงิน 10,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ในทุกภาคธุรกิจ ที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 2 ล้านบาทขึ้นไป สำหรับใช้เสริมสภาพคล่อง ลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ ปรับเปลี่ยนทรัพย์สินหรือเครื่องจักร เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจ วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3%ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ปลอดชำระเงินต้นสูงสุด 12 เดือน ใช้ บสย.ค้ำประกันร่วมได้
สำหรับความร่วมมือกับหอการค้าไทยนั้น นอกจากดอกเบี้ยที่ถูกแล้ว SME D Bank ยังมอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกและเครือข่ายหอการค้าเพิ่มเติม ด้วยการลดค่าธรรมเนียมการพิจารณาสินเชื่อ พร้อมกับการพิจารณาแบบ Fast track รู้ผลไว ไม่ต้องรอนาน ซึ่งกำหนดเป็นนโยบายการปฏิบัติในปัจจุบัน รวมทั้งสิทธิในการรับคำปรึกษา และบริการต่าง ๆ ที่อยู่ในแพลตฟอร์ม DX by SME D Bank (dx.smebank.co.th) ของธนาคารฯ นอกจากนั้น ในอนาคตจะมีการหารือร่วมกันทำแคมเปญพิเศษเป็นช่วง ๆ เพิ่มเติมสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิกหอการค้า รวมทั้งออกแบบผลิตภัณฑ์สินเชื่อให้ตรงกับความต้องการ และแก้ปัญหาการเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนให้กับผู้ประกอบการ SMEs ในแต่ละกลุ่มธุรกิจต่อไป.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย