กรุงเทพฯ 24 พ.ย. – บจ. รายงานผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2566 ภาพรวมรายได้และกำไรสุทธิลดลงกว่าปีก่อน โดยถูกกดดันจากหมวดธุรกิจพลังงาน และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ขณะที่หากไม่รวมธุรกิจพลังงาน ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ บจ. จะมีผลประกอบการคงตัว โดยได้ปัจจัยบวกจากกลุ่มธุรกิจธนาคาร การท่องเที่ยว และเทคโนโลยี
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) จำนวน 815 บริษัท คิดเป็น 97.26% จากทั้งหมด 836 บริษัท (รวม SET และ mai ที่มีกำหนดส่งงบการเงิน ณ สิ้นงวด 30 ก.ย. 2566 และไม่รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน) นำส่งผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2566 พบว่ามี บจ. รายงานกำไรสุทธิ 614 บริษัท คิดเป็น 73.27% ของ บจ. ที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด
ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2566 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บจ. ใน SET มียอดขาย 12,729,782 ล้านบาท ลดลง 3.4% ต้นทุนการผลิตปรับลดลง 2.9% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มสูงขึ้น 5.8% ซึ่งส่งผลให้ บจ. มีกำไรจากการดำเนินงานหลัก (Core profit) 1,249,191 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 740,814 ล้านบาท ลดลง 16.0% และ 10.6% ตามลำดับ สำหรับฐานะการเงินของกิจการ ณ 30 ก.ย. 2566 บจ.ไทยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน หรือ D/E ratio (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ระดับ 1.55 เท่า ลดลงจาก 1.58 เท่าของงวด 9 เดือน ปี 2565
“ภาพรวมผลประกอบการที่อ่อนตัวลงทั้งยอดขายและกำไรสุทธิ เป็นผลกระทบจากราคาน้ำมันและการชะลอตัวของเศรษฐกิจต่างประเทศ ซึ่งส่งผลลบต่อธุรกิจพลังงาน ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ รวมถึงธุรกิจที่มีการส่งออก ทั้งนี้ หากไม่รวมธุรกิจดังกล่าว ภาพรวมมีผลประกอบการทรงตัว โดยมีปัจจัยบวกจากหมวดธุรกิจธนาคารซึ่งเติบโตตามอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ธุรกิจประกันภัยฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด ธุรกิจท่องเที่ยวจากการเปิดประเทศ และธุรกิจเทคโนโลยีที่มีความต้องการสูงในยุคดิจิทัล” นายแมนพงศ์ กล่าว
ด้านผลการดำเนินงานของ บจ. ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) งวด 9 เดือน ปี 2566 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มียอดขายรวม 145,338 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2% ต้นทุนการผลิต 107,737 ล้านบาท ลดลง 0.3% ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 28,319 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.4% ส่งผลให้มีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 9,282 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 5,479 ล้านบาท ลดลง 12.9% และ 35.0% ตามลำดับ.-สำนักข่าวไทย
Top Viewed • อ่านมากสุด
ดูทั้งหมด
ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”
ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท
วันนี้ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดี “แอม ไซยาไนด์” วางยา “ก้อย”
แม่ก้อยเหยื่อ “แอม ไซยาไนด์” สะอื้น เข้าฟังคำพิพากษาขอให้ชนะคดีทวงความยุติธรรม ไม่อยากให้ลูกตายฟรี
นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก
นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.
ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน
ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่
ข่าวแนะนำ
“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่
หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย
กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น
“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย
“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก
นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์
“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงินหมื่นเฟส 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่นจุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”