เปิดตัว “ออมเบอร์ 5” ส่งเสริมออมผ่านกองทุนรวม

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.  – อุตสาหกรรมจัดการลงทุนรวมพลังเปิดตัวโครงการ “ออมเบอร์ 5” ลงทุนในกองทุนรวมแบบ DCA ไม่ต่ำกว่า 500 บาท/ เดือน ต่อเนื่อง 12 เดือน ครบ 5,000 บาท รับโบนัสมูลค่า 500 บาท ตั้งเป้าขยายฐานผู้ถือหน่วยกองทุนหน้าใหม่ ไม่ต่ำกว่า 20,000 ราย  พร้อมสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดี


สมาคมบริษัทจัดการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุน ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทประกันชีวิต  และบริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุนที่เข้าร่วมโครงการ และสมาคมที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวเปิดตัว “โครงการออมเบอร์ 5”  ณ หอประชุมศุกรีย์ แก้วเจริญ ชั้น 3 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนและให้กองทุนรวม เป็นทางเลือกในการออม การลงทุนอย่างต่อเนื่องและการสะสมความมั่งคั่งของผู้ลงทุนและประชาชนทั่วไป เพื่อสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีให้ผู้ลงทุน และส่งเสริมให้ประชาชนไทยมีวินัยทางการเงินเพื่อผลสําเร็จในระยะยาว (Long Term Purpose)  

โครงการออมเบอร์ 5 มีเป้าหมายหลักในการขยายฐานผู้ลงทุนหน้าใหม่โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงาน ให้มี ความพร้อม มีวินัยการออมเพื่ออนาคตผ่านการลงทุนในกองทุนรวมแบบ Dollar Cost Average (DCA: การลงทุนสม่ำเสมอ แบบถัวเฉลี่ยต้นทุน) โดยประชาชนทั่วไปที่สนใจเข้าร่วมโครงการด้วยการเปิดบัญชีกองทุนรวม เริ่มลงทุนสะสมจนครบ 5,000 บาท และร่วมสร้างแผนการลงทุนในกองทุนรวมแบบสม่ำเสมอรายเดือน (DCA) ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 500 บาท  ซึ่งเมื่อลงทุนต่อเนื่องครบ 12 เดือน จะได้รับของสมนาคุณพิเศษเพื่อสนับสนุนการออมเพิ่มเติมมูลค่า 500 บาท  โดยภาคธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 22 แห่ง บริษัทหลักทรัพย์ 14 แห่ง  บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน 2 แห่ง ธนาคารพาณิชย์ 7 แห่ง และบริษัทประกันชีวิต 4 แห่ง


นางวรัชญา ศรีมาจันทร์ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กล่าวสนับสนุนโครงการออมเบอร์ 5 ว่า ก.ล.ต. มีเป้าหมายให้ประชาชนมีสุขภาพทางการเงินที่ดี โดยการสะสมเงินออมและลงทุน ในตลาดทุนเพื่อตอบสนองความต้องการใช้เงินในระยะยาว และเห็นว่า “โครงการออมเบอร์ 5” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสมาคมบริษัทจัดการลงทุน บริษัทจัดการลงทุน ตัวแทนขายหน่วยลงทุนและสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย และ ก.ล.ต. เป็นโครงการที่สามารถช่วยให้ผู้ลงทุนในวงกว้างสามารถเข้าถึงการลงทุนในกองทุนรวมได้ ด้วยเงินลงทุนไม่มาก และมีวินัยในการลงทุนแบบสม่ำเสมอและต่อเนื่องเพื่อความสำเร็จในระยะยาว โดยมีผู้จัดการกองทุนคอยบริหารจัดการเงินลงทุนให้อย่างมืออาชีพ ก.ล.ต. จึงสนับสนุนการให้ความรู้ รวมถึงการประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าว ในวงกว้าง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า “โครงการออมเบอร์ 5” นี้ จะเป็นทางเลือกให้ประชาชนสามารถใช้ในการเข้าถึงการลงทุนได้ต่อไป

ดร.รินใจ ชาครพิพัฒน์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวสนับสนุนโครงการว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ส่งเสริมให้เกิดการขยายฐานผู้ลงทุนผ่านกองทุนรวมมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับโครงการออมเบอร์ 5 นับเป็นโครงการที่ดี ที่ช่วยกระตุ้นให้คนไทยเกิดความตื่นตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนวัยทำงานรุ่นใหม่ที่ควรส่งเสริมให้เกิดวินัยการออมและลงทุนอย่างสม่ำเสมอ โดยพร้อมสนับสนุนโครงการฯ อย่างเต็มที่ในทุกด้าน ทั้งการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเรื่องกองทุนรวมผ่านสื่อโดยเฉพาะช่องทางดิจิทัล อีกทั้ง ยังได้ร่วมกับสมาคมฯ ภายใต้โครงการให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวม จัดมหกรรมกองทุนรวม “Fund Wealth Fair” ขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 17 ก.ย.นี้ ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะมีกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กชอปหลากหลายหัวข้อเกี่ยวกับกองทุนรวม และการออกบูธเพื่อให้คำแนะนำและให้บริการลงทุนโดยตัวแทนจาก บลจ. เพื่อให้ผู้สนใจได้ศึกษาข้อมูลและสามารถเริ่มต้นออมสม่ำเสมอกับโครงการออมเบอร์ 5 ได้อย่างมั่นใจ

นางชวินดา หาญรัตนกูล  นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) ในฐานะตัวแทนบริษัทจัดการลงทุน แนะนำโครงการออมเบอร์ 5  ว่า กองทุนรวมเป็นเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับคนไทยในการออมและการลงทุนเพื่ออนาคต อย่างไรก็ดีพบว่าจำนวนผู้ลงทุนบุคคลในกองทุนรวมมีจำนวนเพียง 1.7 ล้านคนในปี 2565 ถือว่ามีสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรของประเทศ ดังนั้น AIMC จึงได้ริเริ่มโครงการด้วยหลักคิดเรื่องความเพียงพอของเงินออมของคนไทย โดยออกแบบเครื่องมือลงทุนในกองทุนรวมที่ไม่ซับซ้อนเข้าถึงง่าย ด้วย Key Message “ออมเงินแบบคนมีความสุขต้อง “555” กับโครงการออมเบอร์ 5 ที่มาพร้อมกับกระบวนการง่ายๆ เพื่อให้การลงทุนประสบผลสำเร็จ ได้แก่ การตัดสินใจเพื่อเริ่มต้นออมและลงทุนที่ไม่ยากด้วยยอดเงินเริ่มต้นที่ไม่สูงจนเกินไปนัก  การเปิดบัญชีกองทุนรวมที่ไม่เสียเวลาอย่างที่เคยคิด  การสร้างวินัยจากการออมที่จะพาไปสู่เป้าหมายในระยะยาวและการส่งเสริมกำลังใจและของสมนาคุณเมื่อมีวินัยลงทุนครบตามเงื่อนไข ทั้งนี้ ถ้าโครงการบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย คาดว่าจะได้ผู้ลงทุนหน้าใหม่รวมไม่ต่ำกว่า 20,000 ราย  โดยจะเป็นผู้ลงทุนที่มีคุณภาพ มีวินัยการลงทุนที่ดี ซึ่งจะเป็นฐานผู้ออมใหม่ที่มีคุณภาพในระยะยาวต่อไป


นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย ได้กล่าวสนับสนุนโครงการ ในฐานะตัวแทนบริษัทหลักทรัพย์ ที่มีบทบาทสำคัญอันหนึ่งคือส่งเสริมผู้ลงทุนในการลงทุนระยะยาวในหลักทรัพย์เพื่อการออม  การออมโดยการลงทุนผ่านกองทุนรวมเป็นแนวทางที่สำคัญทางหนึ่งที่จะสนับสนุนการออมโดยเฉพาะกับคนที่พึ่งเริ่มต้นการออมผ่านตลาดทุน และในปัจจุบันมากกว่าครึ่งหนึ่งของบริษัทหลักทรัพย์ได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์เหล่านี้พร้อมจะช่วยสนับสนุนโครงการอย่างเต็มที่ด้วยรูปแบบต่างๆ อาทิ กลั่นกรองและคัดเลือกกองทุนที่โดดเด่นที่เหมาะสมกับการออมและลงทุนระยะยาว ให้คำแนะนำและปรึกษาการลงทุนในกองทุนรวม หรือร่วมสนับสนุนรางวัลของสมนาคุณ เชื่อว่าการออมและลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้ประชาชนไทย และการสนับสนุนให้เกิดผู้ลงทุนรายใหม่ สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านช่องทางนี้เช่นกัน

นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวว่าการลงทุนระยะยาวแบบประกันชีวิตจะช่วยให้ตลาดทุนไทยพัฒนาเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ ที่ผ่านมาเราให้ความสำคัญกับการสร้างบุคลากรในธุรกิจประกันชีวิตให้มีความรู้ความเข้าใจ ในผลิตภัณฑ์ตลาดทุน สามารถให้คำแนะนำและวางแผนการลงทุนใน Investment Link Insurance Products (“ILP”) ซึ่งได้แก่ กรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน (“Unit Linked”) เพื่อเพิ่มทางเลือกในการออมและลงทุน และให้โอกาสของผลตอบแทนในระยะยาวที่สูงขึ้น เชื่อมั่นว่าโครงการออมเบอร์ 5 จะช่วยสนับสนุนให้เกิดการเติบโตของผลิตภัณฑ์ unit linked และช่วยให้เกิดการต่อยอดกับกลุ่มลูกค้าประกันชีวิตที่มีอยู่เดิมและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้มากขึ้น

ในด้านธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นช่องทางการขายกองทุนรวมที่เข้มแข็งด้วยสาขาของธนาคารรวมถึงระบบโมบายแบงค์กิ้งแอปที่เข้าถึงผู้ลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น

นางกิตติยา โตธนะเกษม ผู้อำนวยการสถาบันธนาคารไทย สมาคมธนาคารไทย กล่าวว่าธนาคารพาณิชย์ไทยให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่องเพื่อแนะนำทางเลือกการออมเงินที่เหมาะสมกับลูกค้าและระดับการรับความเสี่ยงที่ต่างกัน และยังได้ให้ความรู้เรื่องการออมสู่ประชาชนเสมอมา มั่นใจว่าสาขาของธนาคาร รวมถึงบริษัทจัดการลงทุน ที่อยู่ในเครือ ซึ่งมีผู้แนะนำการลงทุนหลายหมื่นคน จะร่วมกันช่วยส่งเสริมสุขภาพทางการเงินที่ดีแก่ประชาชนทั่วไป

นายชลเดช เขมะรัตนา ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน กล่าวว่า  บลน. พร้อมสนับสนุนโครงการออมเบอร์ 5 ให้เกิดผลรูปธรรมอย่างเต็มที่เช่นกัน ด้วยจุดแข็งที่ บลน. สามารถขายกองทุนรวมของบริษัทจัดการต่าง ๆ ได้ในแพลทฟอร์มเดียว รวมทั้งมีนักกลยุทธ์การลงทุนที่สามารถให้คำแนะนำการลงทุนในกองทุนรวม ช่วยแนะนำผสมผสานกองทุนรวมที่โดดเด่นจาก บลจ.ต่าง ๆ เพื่อสร้างพอร์ตโฟลิโอได้ดังใจผู้ลงทุนพร้อมความเสี่ยงที่ยอมรับได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง-ตกหนักบางแห่ง

กทม. 3 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนมรสุมพัดปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้ยังมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]