กรุงเทพฯ 10 พ.ค.-เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 3 เดือนที่ 33.62 ก่อนจะกลับมาปรับตัวอยู่ที่ระดับ 33.65 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเช้าวันนี้ (09.35 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 33.70 บาทต่อดอลาร์สหรัฐ
นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทยกล่าวว่า เงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ยังขาดแรงหนุน หลังจากมีรายงานข่าวระบุว่า การเจรจาเพื่อเพิ่มเพดานหนี้ระหว่าง นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดี กับประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จากพรรครีพับลิกัน และผู้นำในสภาคองเกรสหลายราย ยังคงไม่ได้ข้อสรุปและจะต้องมีการนัดหารือกันใหม่ในวันศุกร์นี้ นอกจากนี้ตลาดยังคงอยู่ระหว่างรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐ ในคืนนี้อย่างใกล้ชิดด้วยเช่นกัน
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 33.55-33.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ปัญหาเพดานหนี้ และข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน เม.ย. ของสหรัฐ
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มค่าเงินบาท ในช่วงคืนที่ผ่านมา แม้ว่าเงินดอลลาร์จะทยอยแข็งค่าขึ้น ตามภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาด แต่โฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบโซนแนวต้าน ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนให้เงินบาทเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นใกล้โซน 33.70 บาทต่อดอลลาร์ อีกครั้ง
ส่วนในวันนี้ ประเมินว่าเงินบาทอาจแกว่งตัว sideways ในกรอบกว้างได้ โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดทยอยรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐ (เวลาประมาณ 19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย) ซึ่งประเมินว่าหากอัตราเงินเฟ้อ โดยเฉพาะ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ไม่ได้ชะลอลงชัดเจนหรือออกมาสูงกว่าคาด ก็อาจกดดันให้ผู้เล่นในตลาดทยอยปรับสมมติฐานใหม่ ว่า เฟดอาจคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% ได้นานกว่าคาด ทำให้เงินดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้บ้าง (แต่อาจยังติดโซนแนวต้านแถว 101.8-102 จุด สำหรับ ดัชนีเงินดอลลาร์ DXY)
ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างวันก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงรับรู้อัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐ เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้นต่อได้บ้าง ตามโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ รวมถึงฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งอาจจะยังคงเป็นฝั่งซื้อสุทธิบอนด์ ขณะที่ฝั่งหุ้น นักลงทุนต่างชาติอาจยังไม่รีบเข้าซื้อ จนกว่าจะรู้ผลการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ดี เงินบาทอาจไม่ได้แข็งค่าไปมาก จนหลุดโซนแนวรับในกรอบสัปดาห์ที่ประเมินไว้แถว 33.50-33.60 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจาก ผู้เล่นบางส่วนในตลาดอาจรอจังหวะเงินบาทแข็งค่าในการทยอยขายทำกำไรสถานะ Long THB (มองเงินบาทแข็งค่า) นอกจากนี้ ผู้นำเข้าบางส่วนก็อาจรอจังหวะที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นในการเข้าซื้อเงินดอลลาร์ อีกทั้งในช่วงนี้ก็ยังมี โฟลว์จ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย