กรุงเทพฯ 30 พ.ค.-เงินบาทแข็งค่า-ทองโลกบวก หลังผู้เล่นในตลาดเลือกจะเดินหน้าเทขายเงินดอลลาร์อีกครั้ง ท่ามกลางความไม่แน่นอน หลังศาลอุทธรณ์ ระงับคำตัดสินของศาลการค้าระหว่างประเทศ ที่ได้ระงับการใช้มาตรการภาษี “ทรัมป์” ส่งผลให้มาตรการภาษีนำเข้าของรัฐบาล Trump 2.0 ยังคงมีผลบังคับใช้
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.53 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 32.71 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) พลิกกลับมาทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง (แกว่งตัวในกรอบ 32.51-32.78 บาทต่อดอลลาร์) หลังจากที่เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นในช่วงบ่ายวันก่อนหน้า ตามการย่อตัวลงบ้างของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำ สัญญาณ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 21.50 ดอลลาร์ หรือ 0.65% ปิดที่ 3,343.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ทว่า เงินบาทก็ได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าขึ้นเพิ่มเติม หลังผู้เล่นในตลาดเลือกจะเดินหน้าเทขายเงินดอลลาร์อีกครั้ง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ หลังล่าสุดศาลอุทธรณ์ ได้ระงับคำตัดสินของศาลการค้าระหว่างประเทศ (CIT) ที่ได้ระงับการใช้มาตรการภาษีนำเข้าก่อนหน้า เป็นการชั่วคราว ส่งผลให้มาตรการภาษีนำเข้าของรัฐบาล Trump 2.0 ยังคงมีผลบังคับใช้ พร้อมกันนี้ศาลอุทธรณ์ยังได้ให้เวลาฝ่ายโจทก์และฝ่ายรัฐบาลสหรัฐฯ ตอบสนองต่อคำสั่งดังกล่าวภายในวันที่ 5 มิถุนายน และ 9 มิถุนายน ตามลำดับ
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังถูกกดดันจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด อย่าง ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) ที่ออกมาแย่กว่าคาด ทำให้โดยรวมผู้เล่นในตลาดได้เพิ่มโอกาสที่เฟดจะสามารถลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้ง ในปีนี้ เป็น 100% จากเดิมที่ผู้เล่นในตลาดเชื่อว่า เฟดมีโอกาสราว 70% และนอกเหนือแรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ เงินบาทยังได้รับอานิสงส์จากการรีบาวด์ขึ้นเข้าใกล้โซนแนวต้านอีกครั้งของราคาทองคำ
ในส่วนตลาดบอนด์สหรัฐ ผลบอนด์ยีลด์ 10 ปี ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 4.43% อย่างไรก็ตาม มองว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังมีความเสี่ยงผันผวนสูงขึ้นบ้าง โดยเฉพาะในจังหวะที่ตลาดกลับมากังวลแนวโน้มเสถียรภาพการคลังของสหรัฐฯ อีกครั้ง ทำให้ เราคงย้ำมุมมองเดิมว่า หากบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ก็จะเปิดโอกาสในการทยอยเข้าซื้อสะสม (Buy on Dip) ได้ โดยเฉพาะโซนสูงกว่าระดับ 4.50%
สำหรับเงินบาทจะพอได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าขึ้นบ้างในช่วงคืนที่ผ่านมา แต่การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทก็อาจเป็นไปอย่างจำกัดได้ เนื่องจากผู้เล่นในตลาดบางส่วน อย่างฝั่งผู้นำเข้า อาจยังคงมีความต้องการทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์อยู่ในช่วงปลายเดือน นอกจากนี้ การรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำก็อาจเป็นไปอย่างจำกัดได้ หากไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม ทำให้ ราคาทองคำก็มีโอกาสที่จะย่อตัวลงมาบ้าง และช่วยชะลอการแข็งค่าขึ้นของเงินบาท มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.40-32.75 บาท/ดอลลาร์.-511.-สำนักข่าวไทย
