ส่งออกโตต่อเนื่อง 2 เดือนติด ส.ค.ขยายตัว 7.0%

กรุงเทพฯ 25 ก.ย. – การส่งออก ส.ค.มีมูลค่า 26,182 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 7% จากที่ตลาดคาดโต 6% ขณะที่การนำเข้า มีมูลค่า 25,917 ล้านดอลลาร์ฯ เพิ่มขึ้น 8.9% ส่งผลให้ในเดือน ส.ค.นี้ ไทยเกินดุลการค้า 264.9 ล้านดอลลาร์ฯ


นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) แถลงว่ายอดส่งออก ส.ค.ที่เพิ่มขึ้น 7 % ดังกล่าวส่งผลให้ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ส.ค.67) การส่งออกของไทย มีมูลค่ารวม 197,192 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4.2% ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 203,543 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5% ส่งผลให้ 8 เดือนแรกปีนี้ ไทยยังคงขาดดุลการค้า 6,351 ล้านดอลลาร์

สำหรับการส่งออกเดือนสิงหาคม 67 ที่ขยาย 7% หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย การส่งออกขยายตัวที่ 6.6% การส่งออกขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนที่ผ่านมา โดยขยายตัวในทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่ขยายตัวสูง ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมก็เติบโตได้ดี มีปัจจัยสนับสนุนจากสภาพภูมิอากาศที่ผันผวนในหลายประเทศ ประกอบกับการฟื้นตัวของภาคบริการในตลาดสำคัญ ส่งผลให้เกิดความต้องการสินค้าเกษตรและอาหารเพิ่มขึ้น ประกอบกับสถานการณ์เศรษฐกิจของสหภาพยุโรปเริ่มกลับมาฟื้นตัวจากภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น กระตุ้นความต้องการสินค้าจากไทย


“เงินบาทที่แข็งค่า อาจจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทยในช่วงไตรมาส 4/2567 แต่ยังไม่มีผลให้ สนค.ปรับเป้าหมายการส่งออกของไทยในปีนี้ ที่โต 1-2 % มูลค่าราว 290,700 ล้านดอลลาร์ และมองว่ามีโอกาสจะขยายตัวได้มากกว่า 2% เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าฟื้นตัว ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อจากประเทศคู่ค้าหลักเพิ่มขึ้น”นายพูนพงษ์กล่าว

ด้านนายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า จากสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้น ถือเป็นปัจจัยที่ผู้ส่งออกต้องเฝ้าระวังสูงสุด โดยเฉพาะสินค้าเกษตร เพราะมีปัจจัยเสี่ยงสูงมาก และแม้ว่าในเดือน ก.ค.-ส.ค.67 การส่งออกของไทยจะขยายตัวได้ดี ก็ตาม โดยจะมีผลต่อการเจรจาส่งมอบและรับคำสั่งซื้อใหม่ ตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.ต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 1/68 และด้วยเงินบาทที่แข็งในขณะนี้ เป็นไปได้ว่าผู้ส่งออกอาจไม่กล้ารับคำสั่งซื้อ และมีผลต่อยอดการส่งออกได้ และด้วยภาวะเช่นนี้ ก็ขอให้รัฐบาลพิจารณาเลื่อนการปรับขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 400 บาททั่วประเทศออกไปก่อน เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการและผู้ส่งออก.-511-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา