ทำเนียบฯ 27 ธ.ค.-ครม. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติครั้งที่ 1/2565 และ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2566 – 2570) และ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมพืชกัญชงสู่เชิงพาณิชย์ (พ.ศ. 2566 – 2570)
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.มีมติเมื่อวันที่27 ธันวาคม 2565 เห็นชอบรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ (กอช.) ครั้งที่ 1/2565 ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมติที่ประชุมฯ รวมทั้งรับทราบ(ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2566 – 2570) และ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมพืชกัญชงสู่เชิงพาณิชย์ (พ.ศ. 2566 – 2570) และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะฯ เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิตอุปกรณ์และระบบอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะในอาเซียน และมีเทคโนโลยีเป็นของตนเองภายในปี 2570 ประกอบด้วย 3 มาตรการหลัก ได้แก่ (1) ยกระดับศักยภาพการแข่งขันอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เดิมโดยดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ต้นน้ำและยกระดับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เดิมไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง (2) กระตุ้นอุปสงค์เพื่อสร้างตลาดการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะในประเทศ และ (3) สร้างและพัฒนาระบบนิเวศสำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ โดยพัฒนาระบบและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ โดยให้ปรับกรอบระยะเวลาเป็น พ.ศ. 2566 – 2570
2. (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมพืชกัญชงฯ เพื่อให้ไทย เป็นศูนย์กลางพืชกัญชงเชิงอุตสาหกรรมแห่งอาเซียนภายใน 5 ปี ประกอบด้วย 4 มาตรการหลัก ได้แก่ (1) สนับสนุนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ตลอดห่วงโซ่กัญชง โดยต่อยอดการผลิตเชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรมผ่านการพัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีและการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงงานวิจัย สู่ภาคอุตสาหกรรม (2) ส่งเสริมการผลิตและแปรรูปเชิงพาณิชย์โดยยกระดับ ขีดความสามารถของผู้ประกอบการและส่งเสริมการยกระดับผลิตภัณฑ์ ให้ได้มาตรฐานสากล (3) ส่งเสริมด้านการตลาด โดยสร้างโอกาสทางธุรกิจ ทั้งในประเทศและต่างประเทศผ่านช่องทางที่เหมาะสม และ (4) สร้างปัจจัยสนับสนุน ให้เอื้อต่อการประกอบการ โดยลดปัญหาอุปสรรคในการประกอบธุรกิจ
ในส่วนการส่งเสริมและแก้ไขปัญหาอุปสรรคเพื่อพัฒนาภาคอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน มีแนวทางดำเนินงาน ได้แก่ (1) จัดทำแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) โดยได้กำหนดเป้าหมายพื้นที่ที่จะพัฒนาเข้าสู่ การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ รวม 54 พื้นที่ 39 จังหวัด ในปี 2570 และ (2) จัดตั้งกองทุนอุตสาหกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย โดยมีวัตถุประสงค์ เช่น ฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อนที่เกิดจากการประกอบกิจการโรงงาน เยียวยาผู้ได้รับความเสียหายหรือความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการโรงงานและช่วยเหลือและอุดหนุนกิจการที่เกี่ยวกับการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีมติมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดำเนินงานร่วมกัน โดยที่ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะฯ มีการดำเนินการ เช่น ปรับสิทธิประโยชน์สำหรับนักลงทุนที่มีเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงในอุตสาหกรรมเป้าหมาย สร้างกลไกการถ่ายทอดเทคโนโลยี ให้สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ลงทุนด้านอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ส่งเสริมให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะสามารถขึ้นบัญชีนวัตกรรมได้ และสนับสนุนการประยุกต์ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะในภาคการเกษตร โดยคำนึงถึงความยั่งยืนในการส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตและแปรรูปสินค้าเกษตรเชิงพาณิชย์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภาคอุตสาหกรรม และให้ความสำคัญกับการพัฒนาและเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานอย่างครบวงจรเพื่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในชุมชนทั้งในภาคเกษตรอุตสาหกรรม และบริการ เพื่อให้เกิดการสร้างอาชีพและกระจายรายได้แก่ชุมชนและนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและประชาชน รวมทั้งลดความเหลื่อมล้ำในสังคม.-สำนักข่าวไทย