สำนักงาน ก.ล.ต. -8 โบรกเกอร์ ยื่นหนังสือ ก.ล.ต. ปรับเกณฑ์ ป้องกันทุบหุ้น MORE บทเรียนราคาแพง ก.ล.ต. เร่งเอาผิด เผยรายย่อยหยุดเทรดหุ้นส่งสัญญาณคัดค้านภาษีหุ้น
นายพิเชษฐ์ สิทธิอำนวย นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) กล่าวว่า บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) 8 แห่ง ยื่นหนังสือและหารือกับนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กรณีปัญหาหุ้นบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE เพื่อต้องการให้ ปรับเงื่อนไขกฎเกณณฑ์ ควบคุมดูแลป้องกันขบวนการปั่นหุ้น ทุบหุ้น เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับนักลงทุนรายย่อย และตลาดหลักทรัพย์โดยรวม
“สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย พร้อมทำงานร่วมกับสำนักงาน ก.ล.ต. แม้จะเกิดปัญหากับเคสทั่วไป สำนักงานก.ล.ต.ได้ขอข้อมูลจาก สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย เพื่อศึกษาข้อมูลร่วมกัน เมื่อมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้น จึงต้องทบทวนกฎเกณฑ์ต่างๆร่วมกัน เช่น กรณีโอนหุ้นข้ามชื่อ ปัจจุบันทำไม่ได้อีกแล้ว หากโอนต้องเป็นชื่อเดียวกัน คนเดียวกันยอมรับว่าที่ผ่านมาเปิดช่องให้ทุจริตได้ จึงต้องหาทางอุดช่องโหว่” นายพิเชษฐ์ กล่าว
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า สำนักงาน ก.ล.ต. ต้องพิจารณา 3 ประเด็นหลัก คือ 1.การกระทำผิดอาจเข้าข่าย “การกระทำไม่เป็นธรรม” หรือไม่ 2.บริษัทหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ จะร่วมพัฒนาลาดทุนอย่างไร 3. การสร้างคุณภาพหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ และทำอย่างไรให้หุ้นขนาดเล็กมีคุณภาพมากขึ้น
สำหรับความคืบหน้าทางคดี ขณะนี้ทางสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(บก.ปอศ.) กำลังพิจารณาเรื่องการกระทำผิดที่อาจเข้าข่าย “การกระทำไม่เป็นธรรม” หากได้รับข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมนำมาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลททางคดี เตรียมรายงานแจ้งความคืบหน้าในที่ประชุมคณะกรรมการร่วมทำคดี จัดขึ้นเป็นประจำทุกสัปดาห์ โดยเรื่องนี้สำนักงาน ก.ล.ต. ได้มอบหมายให้นายเอนก อยู่ยืน ผู้ช่วยเลขาธิการ สายบังคับใช้กฎหมาย เป็นประธานคณะทำงานกรณีหุ้น MORE เป็นผู้ดำเนินการ
นายพิเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีนักลงทุนรายย่อย นัดหยุดซื้อขายหุ้นในวันนี้ แสดงความเห็นคัดค้านการเก็บภาษีจากการขายหุ้น เป็นการส่งสัญญาณของนักลงทุนรายย่อย ยอมรับว่าแนวทางจัดเก็บภาษีจากการขายหุ้นทำให้สภาพคล่องในตลาดน้อยลง โดยเฉพาะกลุ่มซื้อเช้า ขายช่วงบ่าย ต้องมีต้นทุนในการทำรอบ
ในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีนักลงทุนหลายกลุ่ม ทั้งรายย่อย สถาบัน ต่างชาติ การถือหุ้นมีทั้งระยะสั้น ระยะยาว ตลาดหลักทรัพย์ไทย เกิดจากความหลากหลายทางความคิด บรรยากาศการซื้อขาย มีทั้งคนต้องการซื้อ และความต้องการขายหุ้น หุ้นตัวไหน มีสภาพคล่องดี แสดงถึงความโปร่งใสในการบริหาร นักลงทุนจึงสนใจเข้ามาลงทุนมากขึ้น แนวทาง ไม่ได้กระทบเฉพาะรายย่อยลงทุนรายย่อย แต่ขยายวงกว้างไปยังนักลงทุนสถาบัน นักลงทุนรายย่อยจึงส่งสัญญาแสดงออกเพื่อคัดค้าน เมื่อรายย่อยกระทบทำให้สภาพตลาดลดลง ส่งผลต่อภาพรวมดึงดูดนักลงทุนน้อยลง.-สำนักข่าวไทย