จัดแข่งขันด้านวาณิชธนกิจในตลาดทุนครั้งแรกในไทย

กรุงเทพฯ 30 ส.ค.- IB Club ร่วมกับพันธมิตร  จัดแข่งขันด้านวาณิชธนกิจในตลาดทุนครั้งแรกในไทย เตรียมความพร้อมนิสิตนักศึกษา เข้าสู่สายอาชีพด้านวาณิชธนกิจ (IB)


ชมรมวาณิชธนกิจ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (IB Club) ร่วมกับ บริษัท ฟินน์คอร์ป แอดไวซอรี่ จำกัด จัดงานCapital Market Case Competition in Investment Banking (“CMCC”) การแข่งขันด้านวาณิชธนกิจในตลาดทุนครั้งแรกในไทย หัวข้อ “ทางเลือกใหม่ของการระดมทุน (Alternative Ways of fundraising)” สนับสนุนให้เยาวชนนิสิต นักศึกษา พัฒนาความรู้ เตรียมความพร้อมเข้าสู่สายอาชีพด้านวาณิชธนกิจ (IB) ภายใต้การดูแลและการให้คำแนะนําจากผู้เชี่ยวชาญ ผ่านเข้ารอบ 5 ทีม ลุ้น Final Round วันที่ 10 ก.ย. 2566 ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า250,000 บาท

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานกรรมการชมรมวาณิชธนกิจ เปิดเผยว่า ชมรมวาณิชธนกิจ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (IB Club) และ บริษัท ฟินน์คอร์ป แอดไวซอรี่ จำกัด ร่วมกันจัดงาน Capital Market Case Competition in Investment Banking (“CMCC”) การแข่งขันด้านวาณิชธนกิจในตลาดทุนครั้งแรกของประเทศไทย ภายใต้หัวข้อ “ทางเลือกใหม่ของการระดมทุน(Alternative Ways of fundraising)”


การจัดโครงการ CMCC มีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาและดึงดูดนิสิตนักศึกษาที่มีความสามารถเข้าสู่เวทีการแข่งขัน และสนับสนุนให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันมีโอกาสพัฒนาความรู้เกี่ยวกับตลาดทุนเพิ่มเติมในประเด็นที่ตนเองสนใจ รวมถึงแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้บริหารในสายงานวาณิชธนกิจ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่สายอาชีพด้านวาณิชธนกิจหรือที่ปรึกษาการเงินในตลาดทุน สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) ในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดทุน การลงทุนและการพัฒนาตลาดทุน ให้แก่ผู้ลงทุน ประชาชน หน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้อง

“ในช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมา จำนวนบริษัทจดทะเบียนและมูลค่าตลาดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดเอ็มเอไอ (mai) มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นความสนใจของกิจการที่ต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เช่นเดียวกับตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีจำนวนตราสารและมูลค่าที่เสนอขายต่อนักลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขณะที่จำนวนผู้ที่เข้ามาทำงานและสอบผ่านหลักสูตรที่ปรึกษาทางการเงินรวมถึง ผู้ควบคุมการปฏิบัติงานที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. กลับมีจำนวนเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่น้อยกว่ามาก ส่งผลให้ปัจจุบันบุคลากรด้านวาณิชธนกิจมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดทุน

เพื่อมิให้เกิดข้อจํากัดทางด้านบุคลากรด้านวาณิชธนกิจหรือที่ปรึกษาการเงินในตลาดทุน ในการให้คำปรึกษาต่อกิจการ ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมการระดมทุนในรูปแบบต่างๆ  การควบรวมกิจการ รวมถึงการทำรายการสำคัญของบริษัทจดทะเบียน ชมรมวาณิชฯ  จึงดำเนินการจัดโครงการ CMCC ขึ้นเป็นครั้งแรก และคาดหวังว่าจะสามารถดึงดูดนักศึกษาให้เกิดความเข้าใจและสนใจเข้ามาทำงานด้านวาณิชธนกิจ อันจะเป็นการสร้างบุคลากรให้มีเพียงพอต่อความต้องการของตลาดทุน และสามารถเชื่อมโยงความต้องการของบริษัทสมาชิกของชมรมวาณิชธนกิจ” นายสมภพ กล่าว


นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะประธานกรรมการจัดงาน กล่าวเสริมว่า โครงการ CMCC อยู่ภายใต้การดูแลและการให้คำแนะนําจากคณะกรรมการโครงการ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากคณะกรรมการชมรมวาณิชธนกิจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และบริษัทฟินน์คอร์ป แอดไวซอรี่ จำกัด รวมทั้ง ได้รับการสนับสนุนการดำเนินการจากองค์กรต่าง ๆ ในภาคตลาดทุน มหาวิทยาลัย ทั่วประเทศ และองค์กร AIESEC in Thailand โดยในปีนี้ทางโครงการได้รับความอนุเคราะห์จากบริษัทฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (FMART) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนที่นำมาใช้เป็นโจทย์สำหรับการแข่งขันกรณีศึกษาในรอบสุดท้าย

นอกจากนี้ โครงการ CMCC ยังได้มีการจัดทำ Ed-Tech E-Learning Platform ที่สามารถให้บุคลากรในอุตสาหกรรมและนิสิตนักศึกษาสามารถเข้าเรียนรู้ ได้ตลอดเวลา โดยทีมงานมีการพัฒนาเนื้อหาหลักสูตรใหม่ ๆ ในPlatform ให้เป็นปัจจุบันและสอดคล้องกับยุคสมัยอยู่เสมอ รวมทั้ง เปิดหลักสูตรการเรียนรู้ต่าง ๆ มากกว่าแค่เรื่องการเงิน เช่น หลักสูตรการทำ Finance-UX/UI หลักสูตรกฎหมายตลาดทุนไทย เป็นต้น รวมทั้ง องค์กรที่เข้ามาใช้บริการ Platform จะสามารถเข้าถึงเครือข่ายเยาวชนที่สนใจหางานในอุตสาหกรรมผ่าน Platform ด้วย

“โครงการนี้จะเกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย ทั้งบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน นิสิต นักศึกษา ผู้จบการศึกษาใหม่ที่อยากจะเข้ามาทำงานในสายอาชีพนี้ รวมถึงจะช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านวาณิชธนกิจ และเชื่อมโยงความต้องการที่ตรงกันของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินและเยาวชนไทย โดยในท้ายสุดจะเกิดประโยชน์กับตลาดทุนโดยรวมจากการที่มีบุคลากรที่เหมาะสมและเพียงพอ” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายพรพุทธ ริจิรวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุน ฟินน์คอร์ป ในฐานะผู้อำนวยการจัดงานและผู้รับผิดชอบโครงการ CMCC กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันโครงการ CMCC ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้ ได้ผ่านกระบวนการคิด กลั่นกรอง เพื่อให้ได้แนวทางที่เหมาะสมและชัดเจนที่สุด โดยโจทย์การแข่งขันในปี2023 คือ “Alternative ways of Fund Raising ทางเลือกใหม่ของการระดมทุน สำหรับบริษัทจดทะเบียน” เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องมือทางการเงินและคิดค้นกลยุทธ์ที่บริษัทจดทะเบียนขนาดกลาง โดยให้ผู้เข้าแข่งขันร่วมมือกันเสนอแนวคิดและแนวทางใหม่ ๆ แก่บริษัทที่เป็นกรณีศึกษา ในการพัฒนาแนวคิดการระดมทุนและขยายกิจการของบริษัท

ปัจจุบัน ได้ดำเนินการแข่งขัน และคัดเลือกเหลือ 5 ทีมเรียบร้อยแล้ว โดยการแข่งขันในรอบที่ 3 จะมีขึ้นในช่วง 27 สิงหาคม จนถึง 10 กันยายน 2566 ซึ่งโจทย์คือ “Work with your Mentor, Do anything to win the competition – CMCC 2023!” เป็นการนำผลงานในรอบที่ 2 มาปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์และดีที่สุดเพื่อนำเสนอ On Stage โดยเปรียบเสมือนการที่ได้เข้า Pitch งานจริงกับลูกค้า ผู้เข้าแข่งขันจะต้องมีแนวทางการนำเสนอที่ตื่นเต้น น่าฟัง และโน้มน้าวคนฟังได้อย่างน่าสนใจ

ผู้เข้าแข่งขันแต่ละทีม นอกจากจะได้รับความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ และมิตรภาพจากการเข้าร่วมแข่งขันแล้ว ผู้เข้าร่วมทุกคนยังมีโอกาสได้รับเลือกให้เข้าทำงานกับบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินชั้นนำของไทย มากไปกว่านั้น ผู้เข้าร่วมการแข่งขันยังมีโอกาสได้ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 250,000 บาท.-สำนักข่าวไทย        

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บ.เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงเหตุไฟไหม้เรือด่วน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

14 ก.ย. – บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงการณ์เหตุเพลิงไหม้เรือด่วน มีเรือได้รับความเสียหายหนัก 2 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 18.36 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือด่วนที่จอดเรียงติดกัน จำนวน 3 ลำ โดยมีเรือที่ได้รับความเสียหายหนักจำนวน 2 ลำ และได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่เรือได้จอดเลิกงานตามปกติแล้ว บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ไม่มีผู้โดยสารหรือพนักงานอยู่บนเรือ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าที่ต่อจากท่าเรือไปชาร์จแบตเตอรี่ในเรือต้นเพลิงลัดวงจร โดยเรือทั้งหมดได้เข้ามาจอดเลิกงานเวลา 18.15 น. และไม่ได้อยู่ระหว่างให้บริการ เมื่อเกิดเหตุ พนักงานประจำพื้นที่ได้เข้าดับเพลิงเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในระยะเวลา 45 นาที ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อวางมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น […]

ตรวจสอบแล้วไม่พบบ่อน หลังโซเชียลโพสต์แฉเปิดห่าง สน.ห้วยขวาง 500 ม.

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วไม่พบบ่อน หลังโซเชียลโพสต์ระบุเปิดห่าง สน.ห้วยขวาง เพียง 500 เมตร ด้านเจ้าของสถานที่ยืนยันไม่เคยปรับเปลี่ยนพื้นที่เป็นบ่อน การมีคนโพสต์ทำนองนี้ทำให้ได้รับความเสียหาย หลังจากหลายเพจโพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับการเปิดบ่อนพนันห่างจาก สน.ห้วยขวาง เพียง 500 เมตร ผู้สื่อข่าวได้โทรสอบถามไปยัง พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับ สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า เมื่อวาน (13 ก.ย.) ตอนที่เห็นหลายๆ เพจโพสต์ ขณะนั้นอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจพิเศษ พอรับทราบได้แจ้งตำรวจสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบทันที ผลการตรวจสอบรอบแรกปรากฏว่าเป็นจุดเดิมที่เคยมีการตรวจสอบและจับกุม ลักษณะเป็นห้องเล็กๆ และไม่พบว่ามีการใช้พื้นที่ดังกล่าว จึงตรวจสอบใหม่อีกรอบในเวลาเที่ยงคืน พบว่าห้องยังคงอยู่ในลักษณะเดิม ไม่พบการลักลอบเล่นหรือมีการใช้ห้อง โดยเรื่องการกระทำผิดโดยเฉพาะเรื่องบ่อน ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยสั่งการให้ทุก สน. กวดขันเข้มงวดในเรื่องนี้ และทาง สน.ห้วยขวาง มีการกวดขันมาโดยตลอด หลังจากนี้ถ้าประชาชนมีเบาะแสสามารถแจ้งมาได้ และตำรวจจะลงพื้นที่ตรวจสอบเป็นระยะ ด้านเจ้าของสถานที่ ระบุว่า ห้องดังกล่าวเดิมเคยเป็นที่เก็บของของร้านเหล้าที่อยู่ด้านหน้า เช่าไว้เก็บโต๊ะ เก้าอี้ สตอกเบียร์ โดยเช่าพื้นที่ของตนตั้งแต่ปี 2558 และเพิ่งยกเลิกเช่าเมื่อ […]

หนุ่มถูกจับได้แอบถ่ายใต้กระโปรง โดดห้างหนี เสียชีวิตแล้ว

นนทบุรี 13 ก.ย. – หนุ่มวัย 21 ที่กระโดดห้างดังย่านบางใหญ่ หลังถูกจับได้ว่าแอบถ่ายใต้กระโปรงสาว เสียชีวิตแล้ว ด้านแม่บอกลูกชายโทรหา ยอมรับถ่ายจริง แต่ถูกคนข่มขู่แบล็กเมล บังคับให้ทำ จากกรณี นายปุณณภพ อายุ 21 ปี กระโดดจากชั้น 4 ศูนย์การค้าชื่อดังแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลบริเวณศีรษะด้านหลังขนาดใหญ่ ข้อเท้าด้านขวาหักผิดรูป โดยเจ้าหน้าที่พยาบาลของศูนย์การค้าฯ และแพทย์ที่มาใช้บริการในศูนย์การค้าฯ พยายามช่วยกันทำ CPR ก่อนรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ล่าสุดมีรายงานว่า นายปุณณภพ เสียชีวิตแล้ว ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายฟ่าง อายุ 29 ปี ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตนกับกลุ่มเพื่อนเดินเล่นอยู่ในห้างดังกล่าว สังเกตเห็นผู้ก่อเหตุ มีพฤติกรรมแปลกๆ ถือ iPad คว่ำหน้า และแหงนกล้องขึ้นด้านบน อยู่หลังเด็กนักเรียนหญิงที่สวมใส่ชุดนักเรียนขณะกำลังขึ้นบันไดเลื่อน ตนและเพื่อนจึงได้มีการเดินตามเพื่อเข้าไปสอบถาม ผู้ก่อเหตุพยายามเดินหนี ระหว่างนั้นมีการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ รปภ. กระทั่งขึ้นไปอยู่ด้านบนชั้น 4 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

แบงก์ชาติเตรียมแถลงบ่ายนี้ ปมผลกระทบ “บัญชีม้า”

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)-สมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูลบ่ายวันนี้ กรณีปัญหาผลกระทบประชาชน จากการระงับธุรกรรมเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้า ด้านนักวิเคราะห์ เปรียบเทียบปัญหาไทย-จีน หวังรัฐบาลใหม่เอาจริง ธปท.แจ้งว่า บ่ายวันนี้ เวลา 13.00-14.30 น. ธปท.จะมีการชี้แจงรายละเอียดการระงับธุรกรรมในเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้าให้แก่สื่อมวลชน ณ ห้องแถลงข่าว อาคาร 2 ธปท. โดยนางดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน นางสาวอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ธปท. และนายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูล การชี้แจงดังกล่าว ก็เป็นเรื่องต่อเนื่องจากวานนี้ที่มีการประชุมร่วมกันของหน่วยงานรัฐ-ธปท.-สมาคมธนาคารไทย เพื่อร่วมปลดล็อกปัญหา ปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต หลังจากมีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ตามขั้นตอน ทางธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย