เร่งช่วยสวนทุเรียนขาดน้ำ ผลแตกคาต้น

กรุงเทพฯ 4 พ.ค.- รมว. ธรรมนัสห่วงชาวสวนทุเรียนภาคตะวันออก ร้อนจัด-ขาดน้ำ ทำให้ผลทุเรียนแตกคาต้น สั่งกรมวิชาการเกษตรและกรมส่งเสริมการเกษตรให้คำแนะนำแก้ไขปัญหาสวนทุเรียนและสวนผลไม้กระทบภัยแล้ง พร้อมให้กรมชลประทานส่งรถบรรทุกน้ำสนับสนุนต่อเนื่อง ไม่อยากให้เกษตรกรเพิ่มต้นทุนซื้อน้ำรดทุเรียน ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า เป็นห่วงชาวสวนผลไม้ภาคตะวันออก โดยเฉพาะสวนทุเรียนที่กำลังเริ่มตัดผลผลิตได้ โดยสภาพอากาศที่ร้อนจัดและบางพื้นที่ขาดน้ำทำให้ผลทุเรียนแตกคาต้น ได้รับรายงานว่า เกษตรกรต้องซื้อน้ำไปรดไม้ผล จึงสั่งการให้กรมชลประทานนำรถบรรทุกน้ำช่วยเหลือเกษตรกรจนกว่าสถานการณ์จะเป็นปกติ นอกจากนี้ยังให้กรมวิชาการเกษตรและกรมส่งเสริมการเกษตรให้คำแนะนำชาวสวนในการแก้ปัญหาไม้ผลได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ล่าสุดกรมวิชาการเกษตรออกประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง แนวทางแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภัยแล้งของทุเรียนและผลไม้อื่นในภาวะฉุกเฉินแล้ว นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าวว่า ได้เร่งประสานกับกรมส่งเสริมการเกษตรเพื่อให้สำนักงานเกษตรจังหวัดและเกษตรอำเภอสำรวจความเสียหายของไม้ผล พร้อมเร่งให้ความรู้ทางวิชาการและคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาในภาวะฉุกเฉิน สำหรับแนวทางดูแลทุเรียนที่กำลังออกผลผลิต แต่ประสบปัญหาขาดน้ำและกระทบอุณหภูมิอากาศสูง จะต้องเพิ่มความชื้นในทรงพุ่ม โดยการให้น้ำปริมาณอย่างน้อย 200 ลิตรต่อต้นต่อวัน ด้วยการพ่นน้ำ หรือติดสปริงเกอร์บนต้นทุเรียนซึ่งต้องให้น้ำในช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ ในช่วงเช้ามืดเวลา 6.00-8.00 น. หรือช่วงเย็น เวลา 15.00-17.00 น. และเพิ่มเวลาการให้น้ำมากกว่าในช่วงเวลาปกติ เพื่อเป็นการระบายความร้อน ลดอุณหภูมิของอากาศ และเพิ่มความชื้นให้กับต้นทุเรียน นอกจากนี้ต้องรักษาความชื้นในดิน โดยการคลุมดินด้วยเศษหญ้าหรือวัสดุคลุมโคนต้นทุเรียน ห้ามให้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูงเพราะจะกระตุ้นให้พืชแตกใบอ่อนส่งผลให้มีการใช้น้ำมากขึ้น จำนวนผลที่ไว้ต่อต้นต้องเหมาะสม ถ้าติดผลมาก ต้องตัดทิ้งบางส่วนเพื่อให้ต้นอยู่รอด รวมทั้งตัดแต่งใบภายในทรงพุ่มออกเพื่อลดการคายน้ำ สามารถพ่นด้วยสารที่ช่วยลดความรุนแรงจากอากาศร้อนและแล้งเช่น […]

“ธรรมนัส” ห่วงสถานการณ์น้ำ สั่งช่วยเกษตรกรทุกพื้นที่

กรุงเทพฯ 4 พ.ค.- รมว. ธรรมนัสเรียกประชุมด่วน กำชับกรมชลประทานเร่งช่วยเหลือเกษตรกร บรรเทาปัญหาภัยแล้ง ย้ำใช้ “ศูนย์พิรุณราช” ทุกจังหวัดเป็นศูนย์รับแจ้งความเดือดร้อนของเกษตรกร เหตุกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ฤดูฝนจะเริ่มสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนพ.ค. และอาจเกิดฝนทิ้งช่วง ด้านกรมชลประทานวางแผนบริหารจัดการน้ำฤดูฝน พร้อมรับทั้งภาวะน้ำน้อย-น้ำมาก ส่วนค่าความเค็มที่จุดสูบน้ำดิบสำแล ดีขึ้นตามลำดับ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประชุมด่วนที่กรมชลประทานเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ โดยมีนายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทานรายงานแผนบริหารจัดการน้ำ รวมถึงการบรรเทาภัยแล้งในพื้นที่ต่างๆ ร้อยเอกธรรมนัสสั่งการให้กรมชลประทานเร่งแก้ไขสถานการณ์น้ำแบบเชิงรุกเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดตลอดฤดูแล้งส่งผลให้หลายพื้นที่ซึ่งอยู่ในช่วงที่ผลผลิตกำลังจะออก ได้รับน้ำไม่เพียงพอ จึงให้ช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเร่งด่วน โดยระดมเครื่องจักร เครื่องมือ และบุคลากรแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรอย่างเต็มกำลัง จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้ ให้ใช้ “ศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช” ทุกจังหวัด เป็นศูนย์รับแจ้งความเดือดร้อนของเกษตรกรจากภัยแล้ง โดยเน้นย้ำให้ขึ้นป้ายชัดๆ โดยเมื่อได้รับแจ้งแล้ว ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาทันที พร้อมกันนี้ยังได้เน้นย้ำให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝนอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุดอีกด้วย นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า พืชฤดูแล้งเก็บเกี่ยวแล้ว 100 % สำหรับแผนบริหารจัดการน้ำฤดูฝน 2567 เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมและสิ้นสุด […]

คพ.ห่วงน้ำปนเปื้อนกรด-ไอระเหย เหตุไฟไหม้โกดังภาชี

คพ. ตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมี อ.ภาชี พบน้ำปนเปื้อนกรดจำนวนมาก เสี่ยงไหลล้นออกสู่พื้นที่ด้านนอก รวมถึงพบไอระเหยสารคลอรีนและสารแอมโมเนียซึ่งอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน

ปลัดเกษตรฯ เปิดส่งน้ำทำนาปีที่ลุ่มต่ำเจ้าพระยา แนะปลูกข้าวเปียกสลับแห้ง

ชัยนาท 2 พ.ค. – ปลัดเกษตรฯ Kick Off เปิดการส่งน้ำเพื่อเตรียมความพร้อมการทำนาปี 2567 สำหรับพื้นที่ลุ่มต่ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา พร้อมแนะเกษตรกรปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง ส่งเสริมปลูกพืชหลังนา พืชใช้น้ำน้อย เพิ่มรายได้แก่เกษตรกร นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่เปิดการส่งน้ำเพื่อเตรียมความพร้อม การทำนาปี 2567 โดยมีนายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทานรายงานถึงความพร้อมส่งน้ำให้นาปีที่ลุ่มต่ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยเปิดประตูระบายน้ำเพื่อส่งน้ำเข้าระบบชลประทาน 3 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 ปากคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลเทพ, จุดที่ 2 ประตูระบายน้ำปากคลองส่งน้ำ 1 ซ้าย โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาสามชุก  จุดที่ 3 ประตูระบายน้ำปากคลองส่งน้ำ 1 ขวา พร้อมแนะแนวทางการเพาะปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้งแก่ชาวนาเพื่อประหยัดน้ำในการเพาะปลูก สำหรับการทำนาปีนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอให้ใช้น้ำฝนเป็นหลัก โดยการส่งน้ำให้ช่วงนี้ เป็นการส่งให้สำหรับเกษตกรในทุ่งลุ่มต่ำเพื่อจะเก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนช่วงน้ำหลาก ส่วนนาในที่ดอนขอให้รอฝนตกสม่ำเสมอก่อนจึงค่อยเตรียมแปลง แล้วใช้น้ำชลประทานสนับสนุนซึ่งเป็นการวางแผนการใช้น้ำภาพรวมให้เพียงพอตลอดฤดูการเพาะปลูกข้าวนาปี 2567 ขณะเดียวกัน หน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องในพื้นที่พร้อมสนับสนุน ส่งเสริมองค์ความรู้แก่เกษตรกรในด้านต่างๆ  ทั้งด้านพืช ประมง และปศุสัตว์ได้แก่ […]

อุตุฯ ชี้ ฤดูร้อนนี้ อุณหภูมิเฉลี่ยสูงขึ้น 0.7-1.1 องศาฯ ทำลายสถิติ 41 พื้นที่

กรุงเทพฯ 2 พ.ค.- กรมอุตุนิยมวิทยาระบุ สภาวะอากาศประเทศไทย จะไม่ร้อนไปกว่านี้ เนื่องจากมีสัญญาณเปลี่ยนฤดูกาล จากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว โดยอุณหภูมิเฉลี่ยปี 67 สูงกว่าค่าปกติ 0.7-1.1 องศาเซลเซียส ส่วนเหตุรางรถไฟในภาคใต้คดงอ เหตุจากร้อนจัด ทำให้เหล็กยืดตัว เป็นไปได้เนื่องจากภาคใต้ร้อนสะสมเพราะปริมาณฝนน้อยมาก นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองตรวจและเฝ้าระวังสภาวะอากาศกล่าวว่า ทิศทางลมที่ปกคลุมประเทศไทยเริ่มแปรปรวนเป็นสัญญาณการเปลี่ยนฤดูกาล จากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูฝน ระหว่างวันนี้จนถึงวันที่ 11 พฤษภาคมต้องเฝ้าระวังพายุฤดูร้อนเนื่องจากลมระดับล่าง มีหลายกระแสพัดเข้าหากัน ส่วนระดับบนมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน เมฆและฝนเพิ่มขึ้น โดยจะตกในเวลาสั้นๆ ช่วงเย็นถึงค่ำ แต่ยังไม่ตกทั่วถึงทุกพื้นที่ สิ่งที่ต้องระวังคือ มีลมกระโชกแรงและลูกเห็บเกิดขึ้นได้ อาจเกิดความเสียหายได้ โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กทม. และปริมณฑล เมื่อมีฝนตกลงมาจะช่วยทำให้อากาศที่ร้อนจัดคลี่คลายบ้าง กรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่า ประเทศจะเข้าสู่ฤดูฝนในสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนพฤษภาคม ดังนั้นช่วงที่ร้อนที่สุดผ่านไปแล้ว อุณหภูมิจะไม่สูงไปกว่านี้ โดยอุณหภูมิสูงสุดของฤดูร้อน 2567 อยู่ที่ 44.2 องศาเซลเซียสที่อำเภอเถิน จังหวัดลำปางเมื่อวันที่ 22 เมษายนซึ่งยังไม่ทำลายสถิติที่เคยบันทึกได้ 44.6 […]

“ธรรมนัส” สั่งคุมเข้มการส่งน้ำ รับแล้ง-ฝนทิ้งช่วง

กรุงเทพฯ 2 พ.ค. – รมว. เกษตรฯ สั่งชลประทานคุมเข้มการจัดสรรน้ำรับแล้งช่วงโค้งสุดท้าย เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดจะประกาศเข้าสู่ฤดูฝนปลายเดือนพ.ค. ย้ำจะต้องลดการส่งน้ำในพื้นที่เก็บเกี่ยวข้าวนาปรังแล้ว พร้อมจัดรอบเวรรับน้ำอย่างเคร่งครัด กรมชลประทานขออย่าทำนาปรังรอบ 2 เหตุต้องสงวนสำหรับอุปโภคบริโภค พร้อมเร่งแก้ค่าความเค็มจุดสูบน้ำดิบสำแลที่ส่งน้ำเข้าระบบประปาของกทม. และปริมณฑล ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า สั่งการให้กรมชลประทานคุมเข้มการจัดสรรน้ำในระยะนี้เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า จะประกาศเข้าสู่ฤดูฝนในสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนพฤษภาคมซึ่งช้ากว่าค่าปกติ 1-2 สัปดาห์ ขณะนี้อุณหภูมิหลายพื้นที่ยังสูงอยู่มาก อีกทั้งภาวะโลกเดือดส่งผลให้อุณหภูมิเฉลี่ยของทั่วโลกสูงขึ้นซึ่งไทยได้รับผลกระทบด้วย ดังนั้นคนไทยต้องปรับตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการเพาะปลูกในฤดูแล้งซึ่งต้องปรับเปลี่ยนมาปลูกพืชใช้น้ำน้อยหรือทำเกษตรประเภทอื่นทดแทนการทำนาซึ่งใช้น้ำมาก โดยกระทรวงเกษตรฯ จะส่งเสริมเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อรายได้ ตั้งแต่เข้าสู่ฤดูแล้ง ได้ขอความร่วมมือมาตลอดว่า เมื่อเก็บเกี่ยวข้าวนาปรังแล้ว ขอความร่วมมืองดทำนาปรังรอบ 2 โดยเฉพาะลุ่มเจ้าพระยาเนื่องจากกรมชลประทานจะลดการส่งน้ำเข้าระบบเพื่อสงวนน้ำไว้ใช้สำหรับรักษาระบบนิเวศและอุปโภคบริโภค เมื่อฝนจะมาช้าอาจต้องพิจารณาจัดรอบเวรรับน้ำเพื่อให้มีน้ำต้นทุนเพียงพอจนกว่าจะเข้าสู่ฤดูฝน รวมถึงสำรองกรณีฝนทิ้งช่วงด้วย นอกจากนี้ยังสั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรเร่งทำฝนหลวงในพื้นที่ที่สภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการปฏิบัติการ ขณะที่กรมพัฒนาที่ดินต้องเร่งเจาะบ่อจิ๋วเพื่อคลี่คลายภัยแล้งด้วย สำหรับระยะนี้เป็นช่วงท้ายของสภาวะเอลนีโญ โดยในฤดูฝนจะเข้าสู่สภาวะลานีญาทำให้ปลายฤดูจะมีฝนตกมากกว่าค่าปกติ นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งขุดลอกแหล่งน้ำเพื่อรองรับฝนที่จะตกลงมาเพื่อเก็บกักไว้เป็นน้ำต้นทุนสำหรับฤดูแล้งต่อไป นายธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยากล่าวว่า ชาวนาทุ่งลุ่มต่ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา 11 ทุ่งสามารถทำนาปีได้แล้วตั้งแต่วานนี้ (1 พ.ค.) แต่พื้นที่ดอน ขอให้รอน้ำฝนเป็นหลัก นอกจากนี้ยังพบว่า […]

“ธรรมนัส” มั่นใจรมช. ใหม่ เด็กปั้นร่วมขับเคลื่อนงานเกษตรฯ

กรุงเทพฯ 1 พ.ค.- รมว. ธรรมนัสนำรมช. เกษตรฯ คนใหม่ ร่วมประชุมผู้บริหารกระทรวง เชื่อฝีมือเด็กปั้นจากพรรคพลังประชารัฐ จากนี้การขับเคลื่อนงานกระทรวงเกษตรฯ จะชัดเจนและไปในทิศทางเดียวกัน ย้ำนโยบายเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร 3 เท่า ใน 4 ปี “อรรถกร” เผยพร้อมทำงานเต็มที่ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยนำนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าร่วมรับฟังการมอบนโยบายด้วย พร้อมระบุว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ คนใหม่จะทำงานได้ หลังจากเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว ทั้งนี้ช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรฯ สามารถขับเคลื่อนงานและสร้างผลงานได้อย่างชันเจนและเป็นรูปธรรม ภายใต้ข้อจำกัดด้านงบประมาณ เมื่อสามารถนำงบประมาณประจำปี 2567 มาใช้ได้แล้ว เชื่อมั่นว่า การปฏิบัติงานต่างๆ มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีและนโยบายรัฐบาลที่สำคัญ 9 ข้อซึ่งต้องการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร 3 เท่า ภายในระยะเวลา 4 ปี ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวว่า มั่นใจในฝีมือของนายอรรถกรซึ่งเป็นโฆษกพรรคพลังประชารัฐ โดยสร้างผลงานในการทำงานในสภาผู้แทนราษฎรอย่างโดดเด่นมาแล้ว อีกทั้งปั้นมากับมือ เมื่อมาทำหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการจะทำให้จากนี้การขับเคลื่อนงานของกระทรวงเกษตรฯ […]

ตั้งทีม “ปะ ฉะ ดะ” เอาผิดนายทุนสวมสิทธิ์ส.ป.ก. ทั่วประเทศ

กรุงเทพฯ 30 เม.ย. – รมว. ธรรมนัสสั่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบและพิจารณาความผิดในเขตปฏิรูปที่ดิน มอบ “ธนดล” ตรวจสอบนายทุนรายใหญ่สวมสิทธิ์ส.ป.ก. ทั่วประเทศ รวมทีมปะ ฉะ ดะ “อัจฉริยะ-มงคลกิตติ์-เอกภาพ–ทักษิณ” ลุยทั่วไทย kick off ภูเก็ต – กาญจนบุรีเร็วๆ นี้   นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้เป็นประธานการประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดินนัดแรก โดยเป็นคณะทำงานที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งขึ้น ให้มีหน้าที่และอำนาจให้คำปรึกษาและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับการถือครองที่ดินและใช้ประโยชน์ในที่ดินโดยมิชอบ ตามที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ส่งมาเพื่อให้ความเห็นในการดำเนินการเกี่ยวกับความผิดที่เกี่ยวกับการถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ส่งมอบให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินคดีแพ่งและอาญาต่อไป ตลอดจนทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ในการสืบสวนสอบสวน ร้องทุกข์ กล่าวโทษ ข้าราชการ หรือผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน เมื่อพบการกระทำความผิดอาญา สำหรับองค์ประกอบของคณะทำงานชุดนี้ ประกอบด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน นายสุรชัย ยุทธชนะ รองเลขาธิการ ส.ป.ก. เป็นรองประธานคณะทำงาน และมีคณะที่ปรึกษาประกอบด้วย […]

เร่งช่วยชาวสวนมะพร้าว ภัยแล้ง-หนอนหัวดำระบาดกระทบผลผลิต

ประจวบคีรีขันธ์ 30 เม.ย. – รมว. เกษตรฯ ห่วงเกษตรกรชาวสวนมะพร้าว สั่งเร่งควบคุมการระบาดหนอนหัวดำมะพร้าวที่เกิดมาตั้งแต่ 63 โดยปัจจุบันใช้ทั้งแตนเบียน ควบคู่กับสารเคมี พร้อมสั่งกรมฝนหลวงฯ และกรมชลประทานช่วยบรรเทาภัยแล้งให้แหล่งปลูกมะพร้าวสำคัญ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า สั่งการให้กรมส่งเสริมการเกษตรและกรมวิชาการเกษตรเร่งถ่ายทอดความรู้ในการป้องกันและกำจัดหนอนหัวดำมะพร้าวซึ่งเป็นศัตรูที่สำคัญของมะพร้าว ทั้งนี้ได้รณรงค์ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ซึ่งเป็นแหล่งปลูกมะพร้าวแหล่งใหญ่ พร้อมมอบแตนเบียนบราคอนสำหรับควบคุมกำจัดหนอนหัวดำแก่เกษตรกร 8 อำเภอในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ การระบาดของหนอนหัวดำมะพร้าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2563 – ปัจจุบัน โดยพบการระบาดของหนอนหัวดำ ใน 28 จังหวัด พื้นที่ 16,039.99 ไร่ นอกจากนี้ยังพบการระบาดของแมลงดำหนามร่วมด้วยใน 25 จังหวัด พื้นที่ 14,953.76 ไร่ จังหวัดที่พบการระบาดสูงสุด 5 จังหวัดได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี ชลบุรี เพชรบุรี และสมุทรสงคราม สำหรับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบการทำลายของหนอนหัวดำเพิ่มขึ้นช่วงต้นปี 2567 ในพื้นที่ 2 อำเภอได้แก่ อำเภอทับสะแกและอำเภอบางสะพาน กรมวิชาการเกษตรได้เผยแพร่ความรู้ในการป้องกันกำจัดศัตรูมะพร้าวแบบผสมผสานที่ใช้ทั้งแตนเบียนและสารเคมี โดยกรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้เร่งนำศัตรูธรรมชาติของหนอนหัวดำ 4 […]

รมช.เกษตรฯ คนใหม่เข้ากระทรวงวันแรก

กรุงเทพฯ 30 เม.ย. – “อรรถกร” เข้าดูห้องทำงานที่กระทรวงเกษตรฯ ข้าราชการแสดงความยินดี นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คนใหม่เดินทางมายังกระทรวงเพื่อดูห้องทำงาน โดยจะใช้ห้องทำงานเดิมของนายอนุชา นาคาศัย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ในการเดินทางมายังกระทรวงเกษตรฯ ในวันแรก มีข้าราชการกระทรวงนำโดยนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรฯ และผู้บริหารระดับสูงมอบกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดีในการรับตำแหน่งใหม่ นายอรรถกรกล่าวขอบคุณ ข้าราชการที่มาต้อนรับในการที่จะเข้ามาทำงานร่วมกันในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ   ทั้งนี้นายอรรถกรยังไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ เนื่องจากเป็นเพียงการเข้ามาดูห้องทำงานอย่างไม่เป็นทางการเท่านั้น การเริ่มทำงานจะต้องเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตว์ปฏิญาณก่อน จึงจะปฏิบัติหน้าที่ได้. 512 – สำนักข่าวไทย

กรมชลฯ เฝ้าระวังพื้นที่เกษตร ปลายฤดูแล้ง

กรุงเทพฯ 29 เม.ย. – รมว. เกษตรฯ กำชับกรมชลประทานช่วยเหลือพื้นที่เกษตรช่วงปลายฤดูแล้ง ย้ำผลผลิตต้องไม่เสียหาย น้ำอุปโภคบริโภคต้องเพียงพอ วอนอย่าทำนาปรังรอบ 2 ส่วนการปลูกข้าวนาปีใน 11 พื้นที่ลุ่มต่ำลุ่มเจ้าพระยาจะเริ่มเพราะปลูกได้ 1 พ.ค. แต่พื้นที่ดอนขอให้รอน้ำฝนเป็นหลัก ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า สั่งการให้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำช่วงปลายฤดูแล้งตามแผนที่วางไว้ โดยพื้นที่เพาะปลูกต้องไม่เสียหาย พร้อมให้ระดมเครื่องจักรเครื่องมือเช่น เครื่องสูบน้ำ เครื่องกำจัดวัชพืช รถบรรทุกน้ำ เป็นต้น ประจำทุกพื้นที่เสี่ยงเพื่อให้พร้อมแก้ไขปัญหาให้ประชาชนและเกษตรกร ที่สำคัญคือ น้ำอุปโภคบริโภคต้องจัดสรรให้อย่างเพียงพอ ขณะนี้ได้สั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรปฏิบัติการทำฝนควบคู่ไปด้วย มั่นใจว่า ผลผลิตทางการเกษตรในฤดูแล้งไม่ลดลง ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทานระบุว่า ฤดูแล้งตามแผนบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทานจะสิ้นสุดในวันที่ 30 เมษายนนี้ จากนั้นจะเป็นการบริหารจัดการน้ำในฤดูฝน ยืนยันว่า น้ำต้นทุนทั่วประเทศมีเพียงพอ รวมถึงในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาและอีอีซีด้วย โดยขณะนี้ได้สำรองน้ำไว้ หากเกิดฝนทิ้งช่วงในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ทั้งนี้สำนักงานชลประทานทุกพื้นที่ โดยเฉพาะลุ่มเจ้าพระยาได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือเกษตรกรไม่ทำนาปรังรอบ 2 เนื่องจากพบว่า เกษตรกรต้องการปลูกข้าวหลายรอบเพราะข้าวราคาดี แต่กรมชลประทานได้ลดปริมาณการส่งน้ำลงในพื้นที่ที่เก็บเกี่ยวข้าวนาปรังหมดแล้ว ดังนั้นนาปรังรอบที่ 2 จึงเสี่ยงที่จะเสียหายจากภัยแล้ง นอกจากนี้เกษตรกรที่ทำนาปรังรอบ […]

สทนช. เผยภัยแล้งไม่ขยายวงกว้าง ประกาศเขตภัยพิบัติ 4 จังหวัด

เลขาธิการ สทนช. ระบุภัยแล้งปี 67 ถือว่าไม่ขยายวงกว้าง โดยมีพื้นที่ที่ประกาศเขตภัยพิบัติแล้งเพียง 4 จังหวัด ส่วนสถานการณ์น้ำภาคตะวันออก ได้ประสานงานในการระบายน้ำให้เกษตรกรเพิ่มขึ้น

1 10 11 12 13 14 307