“ธรรมนัส” ห่วงสถานการณ์น้ำ สั่งช่วยเกษตรกรทุกพื้นที่

กรุงเทพฯ 4 พ.ค.- รมว. ธรรมนัสเรียกประชุมด่วน กำชับกรมชลประทานเร่งช่วยเหลือเกษตรกร บรรเทาปัญหาภัยแล้ง ย้ำใช้ “ศูนย์พิรุณราช” ทุกจังหวัดเป็นศูนย์รับแจ้งความเดือดร้อนของเกษตรกร เหตุกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ฤดูฝนจะเริ่มสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนพ.ค. และอาจเกิดฝนทิ้งช่วง ด้านกรมชลประทานวางแผนบริหารจัดการน้ำฤดูฝน พร้อมรับทั้งภาวะน้ำน้อย-น้ำมาก ส่วนค่าความเค็มที่จุดสูบน้ำดิบสำแล ดีขึ้นตามลำดับ


ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประชุมด่วนที่กรมชลประทานเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ โดยมีนายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทานรายงานแผนบริหารจัดการน้ำ รวมถึงการบรรเทาภัยแล้งในพื้นที่ต่างๆ

ร้อยเอกธรรมนัสสั่งการให้กรมชลประทานเร่งแก้ไขสถานการณ์น้ำแบบเชิงรุกเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดตลอดฤดูแล้งส่งผลให้หลายพื้นที่ซึ่งอยู่ในช่วงที่ผลผลิตกำลังจะออก ได้รับน้ำไม่เพียงพอ จึงให้ช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเร่งด่วน โดยระดมเครื่องจักร เครื่องมือ และบุคลากรแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรอย่างเต็มกำลัง จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ


นอกจากนี้ ให้ใช้ “ศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช” ทุกจังหวัด เป็นศูนย์รับแจ้งความเดือดร้อนของเกษตรกรจากภัยแล้ง โดยเน้นย้ำให้ขึ้นป้ายชัดๆ โดยเมื่อได้รับแจ้งแล้ว ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาทันที

พร้อมกันนี้ยังได้เน้นย้ำให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝนอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุดอีกด้วย

นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า พืชฤดูแล้งเก็บเกี่ยวแล้ว 100 % สำหรับแผนบริหารจัดการน้ำฤดูฝน 2567 เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมและสิ้นสุด 31 ตุลาคม 2567 ทั้งเพื่อการรักษาระบบนิเวศ การอุปโภคบริโภค การเกษตร และอื่นๆ ทั้งประเทศรวมทั้งสิ้น 14,821 ล้านลบ.ม. เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีแผนจัดสรรน้ำไว้ประมาณ 4,949 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งกรมชลประทานส่งน้ำสนับสนุนการเพาะปลูกข้าวนาปีในพื้นที่ลุ่มต่ำ เพื่อให้เกษตรกรสามารถเริ่มเพาะปลูกข้าวได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมและเก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนฤดูน้ำหลากจะมาถึงเพื่อลดผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมผลผลิต


ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝนในช่วงสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนพฤษภาคมและในช่วงกลางเดือนมิถุนายนจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม อาจเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงหรือฝนตกน้อย อาจทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำได้ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน จึงขอให้เกษตรกรใช้น้ำฝนเป็นหลักในการทำการเกษตร โดยรอให้ฝนตกสม่ำเสมอก่อนจึงค่อยเตรียมแปลงเพาะปลูกข้าวเพื่อช่วยประหยัดการใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำ รวมทั้งสำรองน้ำไว้ในช่วงฝนทิ้งช่วง

ส่วนในช่วงเดือนสิงหาคมจนถึงตุลาคม 2567 คาดว่า ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากเข้าสู่สภาวะลานีญา โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่า อาจเกิดพายุหมุนเขตร้อนในฤดูฝน 1-2 ลูกที่จะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมถึงน้ำล้นตลิ่งได้ จึงกำชับให้โครงการชลประทานทั่วประเทศเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมกับบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ให้สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนที่จะตกลงมา การระบายน้ำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ รวมไปถึงหมั่นตรวจสอบอาคารชลประทาน ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ ยังให้ตรวจสอบเส้นทางการระบายน้ำ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างสม่ำเสมอ พร้อมปฏิบัติตาม 10 มาตรการรับมือฝนปี 67 ตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เห็นชอบอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สามารถรับมือฤดูฝนที่กำลังจะมาถึงนี้ ได้อย่างเต็มศักยภาพ

นายธเนศ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยากล่าวว่า ขณะนี้มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาตรน้ำใช้การอยู่ในเกณฑ์น้อยคือ เท่ากับหรือน้อยกว่าร้อยละ 30 จำนวน 16 แห่งได้แก่ เขื่อนภูมิพลมีน้ำร้อยละ 29 สิริกิติ์มีน้ำร้อยละ 19 กิ่วคอหมามีน้ำร้อยละ 28 แควน้อยบำรุงแดนร้อยละ 26 แม่มอกกมีร้อยละ 20 น้ำพุงมีร้อยละ 27 จุฬาภรณ์มีน้ำร้อยละ 13 อุบลรัตน์มีน้ำร้อยละ 21 ลำตะคองมีน้ำร้อยละ 29 สิรินธรมีน้ำร้อยละ 22 ป่าสักชลสิทธิ์มีน้ำร้อยละ 15 กระเสียวมีน้ำร้อยละ 7 ขุนด่านปราการชลมีน้ำร้อยละ 17 คลองสียัดมีน้ำร้อยละ 3 พบพระมีน้ำร้อยละ 29 และปราณบุรีมีน้ำร้อยละ 20 ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยคือ เท่ากับหรือน้อยกว่าร้อยละ 30 มี 108 แห่ง

สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 3 พ.ค. 67)  มีปริมาตรน้ำรวม 41,458 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 54 ส่วนปริมาตรน้ำใช้การได้ 17,516 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับปี 2566 ซึ่งมี 43,744 ล้าน ลบ.ม. ปีนี้น้อยกว่า 2,286 ล้าน ลบ.ม.

ส่วนสถานการณ์ค่าความเค็มบริเวณสถานีสูบน้ำดิบสำแล อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานีที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำทะเลหนุนสูงช่วง 25-30 เมษายนทำให้เกินมาตรฐานที่ 0.50 กรัมต่อลิตรบางช่วงเวลา ขณะนี้คลี่คลายตามลำดับ โดยกรมชลประทานเพิ่มการระบายน้ำจากแม่น้ำท่าจีนมาลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อมาเจือจางค่าความเค็ม พร้อมกันนี้ประสานกับการประปานครหลวงให้ลดการสูบน้ำเข้าระบบในช่วงที่ค่าความเค็มเกินเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนช่วงที่ไม่เกินมาตรฐาน ให้เพิ่มปริมาณการสูบเข้าระบบเพื่อเจือจางไม่ให้เกิดความเปลี่ยนแปลงด้านรสชาติของน้ำประปาที่ส่งเลี้ยงพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ  

เช้าวันนี้ (4 พฤษภาคม) เวลา 06.00 น. ค่าความเค็มที่สูบน้ำดิบสำแล 0.36 กรัมต่อลิตร เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของวานนี้ (3 พฤษภาคม) ซึ่งอยู่ที่ 0.53 กรัมต่อลิตร ซึ่งลดลง แต่ทั้งนี้ระหว่างวันอาจมีบางช่วงเวลาที่เกินค่ามาตรฐาน 0.50 กรัมต่อลิตร แต่ระยะเวลาที่เกินพบว่า ลดลงด้วย จากเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ช่วงเวลาที่เกินมาตรฐาน 12 ชั่วโมงต่อวัน วานนี้เหลือ 4 ชั่วโมงต่อวัน

นอกจากนี้ได้เพิ่มปริมาณน้ำที่ระบายจากเขื่อนเจ้าพระยามาแล้ว เพื่อผลักดันน้ำเค็มช่วงน้ำทะเลหนุนสูงรอบใหม่ 10-11 พฤษภาคมนี้ ตลอดจนจะพิจารณาเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ด้วย แต่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำต้นทุนจำกัดจึงจะเพิ่มการระบายน้ำอีกเพียงเล็กน้อยและเป็นระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น โดยเป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ล่วงหน้าตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์. 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]