มาเลเซียประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินสกัดโควิด

กัวลาลัมเปอร์ 12 ม.ค. –  สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ ชาห์ กษัตริย์แห่งมาเลเซียทรงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศเพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 หลังจากที่ทรงเห็นด้วยกับคำร้องของนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน ของมาเลเซีย แถลงการณ์ของสำนักพระราชวังมาเลเซียระบุว่า ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 1 สิงหาคมนี้ หรืออาจจะสิ้นสุดเร็วกว่านั้นโดยขึ้นอยู่กับว่ามาเลเซียจะสามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิดได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดินเป็นผู้ถวายคำร้องให้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมยอดผู้ป่วยติดเชื้อ และสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ ชาห์ทรงเห็นว่าสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ในมาเลเซียเข้าขั้นรุนแรง จึงจำเป็นที่จะต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของชาวมาเลเซียอย่างไร แต่รัฐธรรมนูญได้อนุญาตให้เลื่อนการเปิดสมัยประชุมรัฐสภาในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งจะทำให้สถานะความไม่แน่นอนทางการเมืองของนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดินยุติลงไปอย่างน้อยระยะหนึ่ง ทั้งนี้ อำนาจของผู้นำมาเลเซียตกอยู่ในภาวะสั่นคลอนนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในเดือนมีนาคมปีก่อน เนื่องจากเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ และพรรคร่วมรัฐบาลเรียกร้องให้เขาลาออกและจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด มาเลเซียทำสถิติผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่สูงสุดเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยพบผู้ป่วยติดเชื้อรายวันทะลุ 3,000 คนเป็นครั้งแรก ขณะนี้มาเลเซียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 138,000 คน และผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 555 คน.-สำนักข่าวไทย

เหตุดินถล่มในอินโดนีเซียตายเพิ่มเป็น 13 คน

จาการ์ตา 11 ม.ค. – เจ้าหน้าที่กู้ภัยของอินโดนีเซีย เผยว่า เหตุดินถล่มที่จังหวัดชวาตะวันตกของอินโดนีเซีย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 13 คน และสูญหาย 27 คน ขณะที่หน่วยค้นหาและกู้ภัยอินโดนีเซีย เร่งนำกำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัย แถลงการณ์ของคณะกรรมการจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย ระบุว่า เกิดเหตุดินถล่มถึง 2 ครั้ง ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดชวาตะวันตก ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงจาการ์ตาราว 150 กิโลเมตร ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเร่งอพยพผู้ประสบภัยจากเหตุดินถล่มครั้งแรกออกจากพื้นที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ค้นหาและกู้ภัยประสบความยากลำบากจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ภูมิประเทศที่ค่อนข้างชัน และพื้นดินที่อ่อนยวบ ทั้งนี้ อินโดนีเซียมักเผชิญกับอุทกภัยและดินถล่มเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-มีนาคม นอกจากนี้ ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าในอินโดนีเซีย ยิ่งซ้ำเติมให้ภัยพิบัติดังกล่าวทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น. -สำนักข่าวไทย

เมืองวอชิงตันขอเพิ่มการอารักขาวันไบเดนสาบานตน

วอชิงตัน 11 ม.ค.- นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ดีซี เมืองหลวงของสหรัฐร้องขอให้เพิ่มการรักขาความปลอดภัยในวันที่นายโจ ไบเดนจะประกอบพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดี หลังจากกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์บุกอาคารรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ก่อน นายกเทศมนตรีมิวเรียล เบาเซอร์ส่งหนังสือถึงนายแชด วูลฟ์ รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ กล่าวถึงเหตุจลาจลที่รัฐสภาว่า เป็นการก่อการร้ายอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน วันสาบานของไบเดนในวันที่ 20 มกราคมตามเวลาสหรัฐจึงต้องมีวิธีรักษาความปลอดภัยที่แตกต่างไปจากที่ผ่านมา เธอจะประสานกับเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่น ภูมิภาคและรัฐบาลกลางเรื่องเพิ่มความร่วมมือในการทำงาน ขณะเดียวกันขอร้องอย่างจริงจังให้กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิปรับเปลี่ยนวิธีการรักษาความปลอดภัยอย่างเฉพาะเจาะจงในหลากหลายวิธี รวมทั้งประสานกับกระทรวงยุติธรรม กระทรวงกลาโหม ศาลฎีกาและรัฐสภาจัดเตรียมแผนประจำการกองกำลังรัฐบาลกลางปกป้องสถานที่รัฐบาลกลางทุกแห่งด้วย การที่กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์บุกรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคมตามเวลาสหรัฐ ส่งผลให้การรับรองชัยชนะของไบเดนอย่างเป็นทางการเกิดความล่าช้า สมาชิกสภาสหรัฐต้องหนีเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่มีน้อยกว่า ตำรวจรัฐสภานายหนึ่งเสียชีวิตขณะพยายาม สกัดฝูงชน เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิต 5 คนจากการก่อจลาจล ประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งประกาศจะไม่เข้าร่วมพิธีสาบานตนของไบเดนเยินยอการกระทำของกลุ่มผู้สนับสนุน ก่อนจะเปลี่ยนไปประณามการใช้ความรุนแรงในเวลาต่อมา.-สำนักข่าวไทย

ไต้หวันปรับแบบพาสปอร์ตใหม่ป้องกันสับสนกับจีน

ไทเป 11 ม.ค. – ไต้หวันเปลี่ยนรูปแบบหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตใหม่ โดยปรับให้ชื่อเกาะไต้หวันมีขนาดใหญ่ขึ้นจนเห็นเด่นชัด เพื่อป้องกันความสับสนระหว่างชาวไต้หวันกับชาวจีนในช่วงที่เกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยเริ่มใช้ในวันนี้เป็นวันแรก ทางการไต้หวันระบุว่า พาสปอร์ตแบบเดิมของไต้หวันมีคำว่า ‘สาธารณรัฐจีน’ (Republic of China) ที่เป็นชื่อทางการของไต้หวันระบุไว้ด้านบนหน้าปกพาสปอร์ตด้วยอักษรภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ และมีคำว่า ‘ไต้หวัน’ (Taiwan) ระบุไว้ด้านล่าง ซึ่งทำให้เกิดความสับสนไปทั่วโลก หลายประเทศสับสนว่าชาวไต้หวันเป็นชาวจีนในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ในระยะเริ่มต้น ทำให้ชาวไต้หวันถูกสั่งห้ามเดินทางเข้าประเทศต่าง ๆ เพราะความเข้าใจผิด ทั้งที่ทางการไต้หวันสามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ดีกว่าจีน ส่วนพาสปอร์ตดีไซน์ใหม่ได้ขยายคำว่า ‘ไต้หวัน’ (Taiwan) ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และตัดคำว่า ‘สาธารณรัฐจีน’ (Republic of China) ออกไป แต่ยังคงเก็บชื่อดังกล่าวไว้เป็นภาษาจีน รวมถึงตัวอักษรภาษาอังกฤษขนาดเล็กไว้รอบตราแผ่นดินบนหน้าปกพาสปอร์ต ด้านทางการจีนได้กล่าวถึงการเปลี่ยนดีไซน์พาสปอร์ตใหม่ของไต้หวันว่า ไม่ว่าไต้หวันจะพยายามปรับเปลี่ยนอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ มากแค่ไหน ก็คงไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งไม่สามารถแยกออกจากจีนได้ จีนอ้างว่า ไต้หวันเป็นดินแดนของจีน จีนจึงมีสิทธิ์ที่จะพูดแทนเกาะไต้หวันบนเวทีโลก เป็นจุดยืนที่จีนพยายามผลักดันอย่างหนักในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะในงานประชุมที่จัดขึ้นที่องค์การอนามัยโลก (WHO). […]

อินเดียจะเริ่มฉีดวัคซีนโควิดตั้งแต่เสาร์นี้

นิวเดลี 11 ม.ค.- อินเดียจะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคนา 2019 หรือโควิด-19 ตั้งแต่วันเสาร์นี้ เป็นภารกิจใหญ่หลวงที่มีอุปสรรคหลายอย่าง ทั้งเรื่องความกังวลเรื่องความปลอดภัยของวัคซีนและสาธารณูปโภคไม่เอื้ออำนวย อินเดียตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ได้ 300 ล้านคนจากประชากรทั้งประเทศ 1,300 ล้านคนภายในเดือนกรกฎาคม กลุ่มที่ได้รับอนุมัติฉุกเฉินให้ฉีดวัคซีนเข็มแรกได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และคนทำงานแนวหน้า 30 ล้านคน ตามด้วยผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไปหรือผู้มีความเสี่ยงสูงราว 270 ล้านคนทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่ 150,000 คนใน 700 เขตได้รับการอบรมเป็นพิเศษในเรื่องนี้ มีการซ้อมลำเลียงและฉีดวัคซีนมาแล้วหลายครั้งเพื่อให้การทำงานจริงเป็นไปอย่างราบรื่น ทางการจะนำประสบการณ์จากการจัดการเลือกตั้งในประเทศประชาธิปไตยใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ และโครงการฉีดวัคซีนให้เด็กมาปรับใช้ด้วย อย่างไรก็ดี ความกว้างใหญ่ของประเทศ ประกอบกับระบบและสาธารณสุขคมนาคมที่ล้าสมัยเป็นอุปสรรคสำคัญ วัคซีนสองขนานที่อินเดียอนุมัติให้ใช้แล้วคือโควิชีลด์ของแอสตราเซนเนกาที่ผลิตโดยสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย และโควาซินที่ผลิตโดยภารตะไบโอเทค บริษัทยาในประเทศ จะต้องเก็บในตู้เย็นตลอดเวลา ทางการตระเตรียมตู้แช่เย็นและแช่แข็งไว้เป็นจำนวนมาก และตั้งโกดังขนาดยักษ์ 4 แห่งไว้ลำเลียงวัคซีนไปยังศูนย์กระจายระดับรัฐ ปัญหาอยู่ที่การขนส่งปลายทาง ภาพการซ้อมในรัฐอุตตระประเทศ ทางตอนเหนือของประเทศ เห็นบุคลากรทางการแพทย์ลำเลียงกล่องวัคซีนปลอมด้วยจักรยาน ทั้งที่อุณหภูมิฤดูร้อนในรัฐนี้มักสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส อินเดียมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมกว่า 10.46 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 151,000 […]

ทีมสืบต้นตอโควิดของอนามัยโลกจะถึงจีน 14 ม.ค. นี้

ปักกิ่ง 11 ม.ค. – ทีมผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติขององค์การอนามัยโลก (WHO) จะเดินทางถึงจีนในวันที่ 14 มกราคมนี้ เพื่อสืบหาที่มาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 คณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติของจีนได้ประกาศวันที่เดินทางถึงจีนของทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลก ซึ่งล่าช้าจากเดิมที่กำหนดมาถึงในต้นเดือน และไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับแผนการเดินทางของทีมดังกล่าว ก่อนหน้านี้ ทางการจีนไม่อนุญาตให้ทีมผู้เชี่ยวชาญ 10 คนขององค์การอนามัยโลกเดินทางเข้าประเทศ ทำให้เกิดความล่าช้าในภารกิจสืบหาที่มาการระบาดของโรคโควิด-19 ในระยะเริ่มต้น กระทรวงสาธารณสุขของจีนระบุว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด นอกจากนี้ จีนยังถูกโจมตีอย่างหนักว่าพยายามปกปิดการรับมือเบื้องต้นที่ล่าช้า จนกระทั่งเชื้อไวรัสโคโรนาแพร่กระจายไปทั่วโลก หลังพบการระบาดครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่น ทางตอนกลางของจีนในช่วงปลายปี 2562 ด้านสหรัฐเรียกร้องให้การสืบสวนที่นำโดยองค์การอนามัยโลกมีความโปร่งใส และตำหนิองค์การอนามัยโลกที่ปล่อยให้นักวิทยาศาสตร์จีนดำเนินการวิจัยเบื้องต้นไปก่อน รอยเตอร์ระบุว่า ก่อนที่ทีมผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกจะเดินทางถึงจีน รัฐบาลจีนได้พยายามเปลี่ยนเรื่องราวเกี่ยวกับเวลาและสถานที่ที่เริ่มเกิดการแพร่ระบาด นายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีนอ้างว่า ผลการศึกษาหลายต่อหลายชิ้นชี้ว่า เชื้อไวรัสโคโรนาเกิดขึ้นในหลายภูมิภาคทั่วโลกก่อนจีน. -สำนักข่าวไทย

มาเลเซียซื้อวัคซีนโควิดจากไฟเซอร์เพิ่ม 12.2 ล้านโดส

กัวลาลัมเปอร์ 11 ม.ค. – มาเลเซียลงนามในข้อตกลงซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จากไฟเซอร์/ไบออนเทคเพิ่มอีก 12.2 ล้านโดส แถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียระบุว่า การลงนามในข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้มาเลเซียสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากไฟเซอร์รวมทั้งหมด 25 ล้านโดส เพียงพอที่จะฉีดให้แก่ประชาชนร้อยละ 39 จากประชากรทั้งประเทศ 32.58  ล้านคน ขณะที่ทางการมาเลเซียรายงานวานนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 2,433 คน ซึ่งถือเป็นวันที่หกติดต่อกันที่มาเลเซียมีผู้ป่วยติดเชื้อสูงกว่า 2,000 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 9 คน ซึ่งเป็นผู้ชาย 6 คน และผู้หญิง 3 คน โดยมีอายุระหว่าง 37-94 ปี ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 27,332 คน และผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 551 คน. -สำนักข่าวไทย

ผู้นำเกาหลีใต้เร่งฟื้นเจรจาเกาหลีเหนือก่อนครบวาระ

โซล 11 ม.ค. – ผู้นำเกาหลีใต้ยืนยันยังยึดมั่นต่อการสานสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ และว่าความร่วมมือในประเด็นต่าง ๆ เช่น การควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จะช่วยฟื้นฟูการเจรจาที่ชะงักงันได้ขณะเหลือเวลาดำรงตำแหน่งอีกไม่กี่ปี ประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้กล่าวสุนทรพจน์ปีใหม่ประจำปีนี้ โดยมีใจความช่วงหนึ่งว่า รัฐบาลเกาหลีใต้จะพยายามเร่งให้เกิดการเจรจาร่วมระหว่างเกาหลีใต้ สหรัฐ และเกาหลีเหนือ หลังนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่เข้ารับตำแหน่ง บทสนทนาและความเจริญรุ่งเรืองที่เกิดจากความร่วมมือกันถือเป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญเพื่อสร้างความสงบสุขในคาบสมุทรเกาหลี ดังนั้น รัฐบาลเกาหลีใต้จึงมีความพร้อมที่จะนัดพบในสถานที่และเวลาใดก็ได้ รวมถึงเจตนารมณ์ที่จะเจรจายังคงเหมือนเดิม ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า เกาหลีใต้จะสานสัมพันธ์กับสหรัฐให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน เขาก็จะใช้ความพยายามครั้งสุดท้ายเพื่อฟื้นฟูการเจรจาที่ล่าช้าระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐ รวมถึงการเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ด้วย ประธานาธิบดีมุน ซึ่งมีกำหนดครบวาระดำรงตำแหน่งในปีหน้า ได้ตั้งเป้าหมายสำคัญในการทำข้อตกลงร่วมกับเกาหลีเหนือ และระบุว่า จะทำงานร่วมกับรัฐบาลไบเดนอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ การเจรจาเพื่อโน้มน้าวเกาหลีเหนือให้ยกเลิกโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และฟื้นฟูความสัมพันธ์ของทั้งสามประเทศชะงักงัน หลังจากเกาหลีเหนือกล่าวหาเกาหลีใต้และสหรัฐว่า ยังคงใช้นโยบายเป็นปรปักษ์ต่อเกาหลีเหนือ. -สำนักข่าวไทย

ส.ส.สหรัฐจะเดินหน้าถอดถอนทรัมป์ถ้าวิธีอื่นไม่ได้ผล

วอชิงตัน 11 ม.ค.- นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเผยว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จะเดินหน้าฟ้องร้องเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังจะพ้นวาระในวันที่ 20 มกราคม หากวิธีอื่น ๆ ไม่ได้ผล นางเปโลซี วัย 80 ปี ส่งหนังสือถึง ส.ส.พรรคเดโมแครตว่า ส.ส.สเตนี ฮอยเออร์ ผู้นำเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรจะหาทางยื่นญัตติในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เรียกร้องให้รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 ประกาศว่าประธานาธิบดีทรัมป์ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อไป ส.ส.ฮอยเออร์จะต้องได้เสียงสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์ในการยื่นญัตติดังกล่าว หากไม่ได้ ส.ส.คนอื่นจะนำเรื่องนี้ไปลงมติในที่ประชุมวันอังคารแทน นางเปโลซีเรียกร้องให้รองประธานาธิบดีเพนซ์ดำเนินการภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้น ส.ส.จะเปิดลงมติร่างกฎหมายฟ้องร้องเพื่อถอดถอนทรัมป์อย่างเร่งด่วน เพราะเป็นภัยที่กำลังจะเกิดขึ้นกับรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันวุฒิสมาชิก (ส.ว.) แพทริก ทูมี พรรครีพับลิกัน และสมาชิกพรรคกลุ่มหนึ่งได้ร่วมกันเรียกร้องให้ประธานาธิบดีทรัมป์ลาออก และเห็นว่ารัฐสภาไม่มีเวลามากพอที่จะฟ้องร้องเพื่อถอดถอนทรัมป์ก่อนพ้นตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม แต่ ส.ส.จิม ไคลเบิร์น วิปเสียงข้างมากของพรรคเดโมแครตชี้ว่า สภาผู้แทนราษฎรยังมีเวลาถอดถอนทรัมป์และชะลอการส่งเรื่องต่อไปยังวุฒิสภาจนกระทั่งโจ ไบเดน รับตำแหน่งไปแล้ว 100 […]

จีนพบผู้ป่วยโควิดสูงสุดในรอบกว่า 5 เดือน

ปักกิ่ง 11 ม.ค. – จีนพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่สูงสุดในรอบกว่า 5 เดือน หลังตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อในมณฑลเหอเป่ย์ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติของจีนรายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 103 คน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคมปีที่แล้วที่พบผู้ป่วย 127 คน และมีผู้ป่วยติดเชื้อในชุมชน 85 คน ในจำนวนนี้ 82 คนอยู่ในมณฑลเหอเป่ย์ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนและมีพื้นที่รอบกรุงปักกิ่ง ขณะที่มณฑลเหลียวหนิงที่อยู่ถัดขึ้นไปทางตะวันออกเฉียงเหนือพบผู้ป่วยติดเชื้อ 2 คน และกรุงปักกิ่งพบผู้ป่วยติดเชื้อ 1 คน นอกจากนี้ ยังพบผู้ป่วยติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศอีก 18 คน แม้ว่ายอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ของจีนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาถือว่ายังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับสถิติในช่วงต้นปีที่แล้วที่มีการระบาดรุนแรง แต่ทางการจีนก็ประกาศใช้มาตรการเชิงรุกทันทีเพื่อควบคุมการระบาดและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนาระลอกใหม่ ทางการเมืองฉือเจียจวง ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลเหอเป่ย์และศูนย์กลางการระบาดครั้งใหม่ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์แล้ว ซึ่งทำให้ประชาชนไม่สามารถเดินทางออกนอกจังหวัดได้โดยใช้ยานพาหนะส่วนตัวหรือระบบขนส่งสาธารณะ เนื่องจากทางการต้องการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยงานทางหลวงของมณฑลเหอเป่ย์เผยว่า ได้สั่งปิดทางหลวงหลายเส้นทางในมณฑลเหอเป่ย์ และขอให้ผู้ที่เดินทางมาจากเมืองฉือเจียจวงและฉิงไถเดินทางกลับบ้าน หลังพบการระบาดที่เมืองฉิงไถในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเช่นกัน ขณะนี้ จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 87,536 คน และผู้เสียชีวิตคงเดิมที่ 4,634 คน. -สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้ป่วยโควิดใหม่ต่ำกว่า 500 คน หลังคริสต์มาส

โซล 11 ม.ค.- เกาหลีใต้พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ต่ำกว่า 500 คนต่อวันเป็นครั้งแรก นับจากระบาดหนักทำสถิติสูงสุดในช่วงคริสต์มาสปลายปีก่อน สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีหรือเคดีซีเอ (KDCA) รายงานว่า นับจนถึงเที่ยงคืนวันอาทิตย์พบผู้ป่วยใหม่ 451 คน เนื่องจากการตรวจหาเชื้อเริ่มนิ่งและการติดเชื้อดูเหมือนจะเริ่มลดลง เทียบกับช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่มีผู้ป่วยใหม่ทำสถิติสูงสุดในหนึ่งวันที่ 1,241 คน เป็นช่วงรุนแรงที่สุดของการระบาดระลอกสามที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ เกาหลีใต้ไม่เคยใช้การล็อกดาวน์เต็มรูปแบบหรือคำสั่งให้อยู่บ้าน เพราะเกรงจะกระทบต่อเศรษฐกิจและผู้ประกอบธุรกิจ แต่ได้ใช้มาตรการจำกัดเข้มงวดมาโดยตลอด ใช้การตรวจเชิงรุกและติดตามหาผู้มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย ล่าสุดเข้มงวดยิ่งขึ้นด้วยการห้ามรวมกลุ่มเกิน 4 คน ปิดธุรกิจเสี่ยงแพร่ระบาดสูง เช่น บาร์ โรงยิมในกรุงโซลและปริมณฑล ร้านกาแฟให้บริการเฉพาะซื้อกลับเท่านั้น ยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 69,114 คน เสียชีวิต 1,140 คน.-สำนักข่าวไทย

อินโดนีเซียจะพยายามกู้กล่องดำศรีวิจายาแอร์วันนี้

จาการ์ตา 11 ม.ค.- คณะนักประดาน้ำอินโดนีเซียจะพยายามกู้กล่องดำสองกล่องของเครื่องบินสายการบินศรีวิจายาแอร์ที่ตกในทะเลเมื่อวันเสาร์ให้ได้ในวันนี้ นักประดาน้ำของกองทัพเรือบนเรือกู้ภัยเผยกับสถานีโทรทัศน์กอมปาสทีวีว่า จะเริ่มการค้นหาอีกครั้งในวันนี้ เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ขณะนี้สามารถจำกัดวงของการค้นหาให้แคบลงเหลือ 200-500 เมตรจากจุดที่ทำเครื่องหมาย ลดลงจากวันแรกที่ค้นหาเป็นพื้นที่กว้างถึง 1-1.5 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ทำเครื่องหมายตำแหน่งของกล่องบันทึกข้อมูลการบินและกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินที่พบเมื่อวานนี้ และในวันเดียวกันนั้นยังกู้ได้ชิ้นส่วนถังน้ำมันของเครื่องบินโบอิง 737-500 จากก้นทะเล ชิ้นส่วนศพ และของใช้ส่วนตัวของคนบนเครื่องบิน เจ้าหน้าที่สอบสวนในคณะกรรมการความปลอดภัยการคมนาคมแห่งชาติของอินโดนีเซียเผยว่า ทางการหวังว่าจะสามารถกู้กล่องดำทั้งสองกล่องขึ้นมาได้ในวันนี้ มีความเป็นไปได้ว่าเครื่องบินอาจอยู่ในสภาพเดิมก่อนตกในทะเล สันนิษฐานจากซากที่พบจากก้นทะเลจนถึงขณะนี้ว่าไม่กระจัดกระจายมากนัก.-สำนักข่าวไทย

1 298 299 300 301 302 315