14 โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐจะรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เข็มที่สองในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หลังจากรับเข็มแรกไปเมื่อสามสัปดาห์ก่อน
22 นิวยอร์ก 8 ม.ค. – อีลอน มัสก์ ผู้บริหารเทสลา อิงค์ บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า กลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกหลังมีทรัพย์สินแซงหน้าเจฟฟ์ เบโซส ประธานบริษัทแอมะซอนดอทคอม (Amazon.com) ยักษ์ใหญ่ด้านอี-คอมเมิร์ซของสหรัฐ สำนักข่าวบลูมเบิร์กของสหรัฐรายงานว่า มัสก์ วัย 49 ปีมีทรัพย์สินสุทธิกว่า 188,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.6 ล้านล้านบาท) จากราคาหุ้นของเทสลาที่เพิ่มสูงถึงร้อยละ 7.4 ในวันนี้ และทำสถิติราคาสูงสุดที่หุ้นละ 811.61 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24,400 บาท) ซึ่งทำให้เขามีทรัพย์สินเหนือกว่าเบโซสราว 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 45,000 ล้านบาท) ผู้บริหารเทสลามีทรัพย์สินส่วนตัวพุ่งสูงขึ้นหลังจากที่ราคาหุ้นของเทสลาพุ่งสูงขึ้นถึง 8 เท่าในปีก่อนจนทำให้บริษัทของเขากลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงสุดในตลาด โดยที่มัสก์ถือหุ้นของเทสลาในสัดส่วนร้อยละ 20 มัสก์ ซึ่งเป็นอดีตผู้ร่วมก่อตั้งเพย์พาล โฮลดิง อิงค์ บริษัทดำเนินธุรกิจจ่ายเงินและโอนเงินผ่านระบบอินเทอร์เน็ตก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารของบริษัทเทคโนโลยีสุดล้ำหลายแห่งของโลก ไม่ว่าจะเป็นเทสลาที่ผลิตรถยนต์ สเปซเอ็กซ์ที่ผลิตยานอวกาศ รวมถึงนูราลิงก์ บริษัทสตาร์ทอัปที่กำลังพัฒนาสื่อประสาทเพื่อเชื่อมสมองมนุษย์เข้ากับคอมพิวเตอร์.-สำนักข่าวไทย
11 โตเกียว 8 ม.ค. – ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาขยายประกาศภาวะฉุกเฉินไปครอบคลุมภูมิภาคอื่น ๆ นอกเหนือไปจากกรุงโตเกียวและพื้นที่โดยรอบ เนื่องจากพบยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายวันทะลุ 7,000 คนเป็นครั้งแรก นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ของญี่ปุ่นออกมายอมรับว่า อาจจำเป็นต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในภูมิภาคอื่น ๆ ของญี่ปุ่นนอกเหนือไปจากกรุงโตเกียวและพื้นที่โดยรอบ เนื่องจากพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามฝืนข้อเรียกร้องของผู้เชี่ยวชาญหลายรายที่ต้องการให้ใช้มาตรการเข้มงวดทั่วประเทศเหมือนกับกรุงโตเกียว เนื่องจากเกรงว่าเศรษฐกิจของประเทศจะได้รับผลกระทบรุนแรง สื่อของญี่ปุ่นรายงานวันนี้ว่า ผู้ว่าการจังหวัดโอซากา ซึ่งเป็นเมืองย่านชนบทที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 และตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซทางตอนกลางค่อนไปทางใต้ของญี่ปุ่นเตรียมยื่นคำร้องให้รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉิน เช่นเดียวกับทางการท้องถิ่นของจังหวัดเกียวโตและเฮียวโงะในภูมิภาคคันไซที่เตรียมยื่นคำร้องดังกล่าวด้วย ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์และเจ้าหน้าที่รัฐบาลหลายรายเตือนว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงโตเกียวและพื้นที่โดยรอบเป็นเวลา 1 เดือนอาจทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจหดตัวในไตรมาสแรกของปีนี้ ขณะที่ผู้กำหนดนโยบายคาดการณ์ว่า ผลกระทบจากการประกาศภาวะฉุกเฉินในครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงเท่ากับครั้งก่อนที่ทำให้ร้านค้าทั่วประเทศเดือดร้อนและผู้ผลิตหลายรายต้องระงับการผลิตสินค้า แม้ญี่ปุ่นเผชิญกับการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ไม่รุนแรงเท่ากับอีกหลายประเทศ แต่ก็ไม่สามารถควบคุมยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวันให้ลดลงได้ ทางการญี่ปุ่นรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ทะลุ 7,000 คนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่พบการระบาดในประเทศ ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 267,000 คน และผู้เสียชีวิตเกือบ 3,900 คน.-สำนักข่าวไทย
19 บริสเบน 8 ธ.ค. – ออสเตรเลียประกาศให้ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศต้องมีใบรับรองผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นลบก่อนขึ้นเครื่องบิน ขณะที่ทางการรัฐควีนส์แลนด์สั่งล็อกดาวน์นครบริสเบนหลังพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ที่แพร่เชื้อเร็ว รัฐควีนส์แลนด์สั่งห้ามประชาชนกว่า 2 ล้านคนในนครบริสเบน ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของออสเตรเลียและเมืองเอกของรัฐควีนส์แลนด์ออกจากที่พักอาศัยเป็นเวลา 3 วันหากไม่มีธุระจำเป็น โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงเย็นของวันพรุ่งนี้เป็นต้นไปหลังพบพนักงานในโรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่กักตัวติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อเร็ว ซึ่งพบการระบาดครั้งแรกในอังกฤษ ออสเตรเลียเคยพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวมาแล้วจำนวนหนึ่ง แต่ผู้ป่วยติดเชื้อรายล่าสุดถือเป็นรายแรกที่ตรวจพบนอกสถานที่กักตัว นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่กลายพันธุ์ในแอฟริกาใต้ในโรงแรมที่ใช้กักตัวอีกด้วย นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลียกล่าวว่า ทางการยังไม่ทราบแน่ชัดว่าพนักงานโรงแรมคนดังกล่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อเร็วมาจากผู้ที่เดินทางมาจากอังกฤษหรือไม่ แต่ผู้ที่จะเดินทางเข้าออสเตรเลียจำเป็นต้องมีใบรับรองผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นลบก่อนขึ้นเครื่องบิน ทั้งยังระบุว่า แม้รัฐควีนส์แลนด์พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อเร็วเพียงรายเดียวในนครบริสเบน แต่เชื้อไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวสามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิม ดังนั้น ทางการจึงต้องใช้มาตรการรับมือที่แตกต่างไปจากเดิมเช่นกัน ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 28,500 คน และผู้เสียชีวิตราว 900 คน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากการใช้มาตรการควบคุมการเดินทางระหว่างพรมแดนที่เข้มงวดตั้งแต่พบการระบาดครั้งแรกในประเทศ.-สำนักข่าวไทย
18 สิงคโปร์ 8 ม.ค. – นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดสแรกที่โรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่งในสิงคโปร์แล้ว นายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง ของสิงคโปร์ วัย 68 ปีกล่าวภายหลังเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 พร้อมกับนายเคนเนธ มัก ผู้อำนวยการด้านบริการทางการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ว่า เขาจำเป็นต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนก่อนเพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนให้แก่ประชาชน การฉีดวัคซีนเป็นเรื่องของความสมัครใจ แต่เขาหวังว่าเมื่อถึงคราวที่ต้องฉีดวัคซีน ประชาชนทุกคนจะให้ความร่วมมือเช่นกัน ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ได้เฝ้าระวังอาการหลังจากที่เขาฉีดวัคซีนเป็นเวลา 30 นาที เพื่อสร้างความมั่นใจว่าไม่มีผลข้างเคียงเกิดขึ้น ซึ่งเขาก็มีอาการปกติดี ก่อนหน้านี้ ทางการสิงคโปร์ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มแรกในช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และผู้นำสิงคโปร์ระบุว่า จะเริ่มฉีดวัคซีนให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นวงกว้างตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะเริ่มฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุในเดือนหน้า ขณะนี้ สิงคโปร์อนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบออนเทคเพียงขนานเดียวเท่านั้น แต่ทางการระบุว่าได้ทำข้อตกลงซื้อวัคซีนจากโมเดอร์นา บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐ และซิโนแวก ไบโอเทค บริษัทยาของจีน เพื่อให้มีวัคซีนเพียงพอสำหรับชาวสิงคโปร์ราว 5.7 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย
10 ไทเป 8 ม.ค. – นางเคลลี คราฟต์ เอกอัครทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติจะเดินทางเยือนไต้หวันในระหว่างวันที่ 13-15 ม.ค. เพื่อประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไต้หวัน ขณะที่จีนแสดงความไม่พอใจและกล่าวตำหนิการกระทำดังกล่าว คณะผู้แทนสหรัฐประจำสหประชาชาติระบุในแถลงการณ์ว่า นางคราฟต์จะเดินทางเยือนไต้หวันเพื่อสร้างความแข็งแกร่งของรัฐบาลสหรัฐ และสนับสนุนโครงการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศระหว่างประเทศของไต้หวันที่ร่วมมือกับสหรัฐตามหลักนโยบายจีนเดียว ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวันปี 2522 แถลงการณ์ร่วม 3 ฉบับของสหรัฐกับจีน และหลักประกัน 6 ประการของนโยบายสหรัฐต่อไต้หวัน แม้ว่าสหรัฐไม่ได้สานสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับไต้หวันเช่นเดียวกับประเทศส่วนใหญ่ แต่ก็เป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของไต้หวันในด้านการจัดหาอาวุธ และช่วยเหลือไต้หวันในการป้องกันตนเองภายใต้กฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวันปี 2522 ในขณะเดียวกัน ทางการจีนได้ออกมาคัดค้านการเดินทางเยือนไต้หวันของนางคราฟต์อย่างเต็มที่ คณะผู้แทนจีนประจำสหประชาชาติเตือนสหรัฐว่า ผู้ใดก็ตามที่เล่นกับไฟก็จะโดนไฟเผาไหม้เอาได้ และสหรัฐจะต้องชดใช้อย่างหนักจากการกระทำที่ผิด นอกจากนี้ จีนขอเตือนสหรัฐให้หยุดการการกระทำที่ยั่วยุรุนแรง การเพิ่มปัญหาใหม่ในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีน การสร้างความขัดแย้งของทั้งสองประเทศในความร่วมมือขององค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็น รวมถึงการหยุดเดินออกนอกลู่นอกทาง.-สำนักข่าวไทย
4 บราซิลมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทะลุ 200,000 คนแล้ว และทำสถิติผู้ป่วยติดเชื้อรายวันสูงสุด 87,843 คน หลังผ่านพ้นเทศกาลฉลองปีใหม่
35 แฟรงก์เฟิร์ต 7 ม.ค. – ไบเออร์และเคียวแวก สองบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของเยอรมนีประกาศบรรลุข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาและผลิตวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แถลงการณ์ร่วมของไบเออร์และเคียวแวกระบุว่า ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว เคียวแวกจะสามารถใช้ความเชี่ยวชาญและโครงสร้างพื้นฐานที่น่าเชื่อถือของไบเออร์เพื่อพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้ เคียวแวกได้เริ่มดำเนินการทดลองทางคลินิกระยะที่สามของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมกว่า 35,000 คนในทวีปยุโรปและภูมิภาคละตินอเมริกา เคียวแวกคาดว่าข้อตกลงดังกล่าวจะมีส่วนช่วยเพิ่มจำนวนวัคซีนหลายร้อยล้านโดสที่จะกระจายไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลกหากวัคซีนดังกล่าวผ่านการอนุมัติ วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของเคียวแวกใช้เทคโนโลยีการผลิตวัคซีนแบบ mRNA ที่คล้ายคลึงกับวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทคและวัคซีนของโมเดอร์นาที่ผ่านการอนุมัติจากองค์การยาแห่งสหภาพยุโรปเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ วัคซีนของเคียวแวกยังมีประสิทธิภาพยาวนานอย่างน้อย 3 เดือนแม้จัดเก็บไว้ในตู้เย็นทั่วไป ทั้งนี้ เคียวแวกคาดการณ์ว่าจะสามารถจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในปีนี้ โดยที่สหภาพยุโรปได้สั่งซื้อวัคซีนขนานดังกล่าวไว้แล้ว 405 ล้านโดส.-สำนักข่าวไทย
31 เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวหลายรายตบเท้ายื่นใบลาออกจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐหลังเกิดเหตุจลาจลครั้งใหญ่ที่รัฐสภา
8 แคนเบอร์รา 7 ม.ค. – ออสเตรเลียเรียกร้องจีนอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลกเข้าไปตรวจสอบสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในทันที นางมาริส เพย์น รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของออสเตรเลียกล่าวว่า รัฐบาลออสเตรเลียต้องการให้ทางการจีนอนุญาตให้ทีมงานขององค์การอนามัยโลกเดินทางเข้าประเทศได้ในทันที ทั้งยังกล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นต้องให้องค์การอนามัยโลกมีส่วนร่วม และว่า รัฐบาลออสเตรเลียคาดหวังจะได้เห็นผลการศึกษาที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของนานาชาติในจีน ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นแกนนำในการออกมาเรียกร้องให้เกิดการตรวจสอบอย่างเป็นอิสระเพื่อหาที่มาของโรคโควิด-19 ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศร้าวฉาน จีน ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการค้าชั้นนำของออสเตรเลียได้ประกาศจำกัดการนำเข้าเนื้อวัวจากออสเตรเลีย เพิ่มอัตราภาษีศุลกากรของไวน์ออสเตรเลีย รวมถึงสั่งให้โรงงานในจีนหยุดซื้อฝ้ายจากออสเตรเลียอีกด้วย ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกกล่าวว่า เขารู้สึกผิดหวังอย่างมากที่จีนยังคงไม่อนุญาตให้ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านโรคโควิด-19 จากนานาประเทศเดินทางเข้าประเทศ ทั้งนี้ คนส่วนใหญ่เชื่อว่าเชื้อไวรัสโคโรนาแพร่ระบาดครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่นในช่วงปลายปี 2562 ก่อนที่จะแพร่กระจายไปทั่วโลก ซึ่งทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 86 ล้านคนและผู้เสียชีวิตกว่า 1.8 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย
27 ย่างกุ้ง 7 ธ.ค. – ตำรวจเมียนมาจับกุมชาวโรฮิงญาเกือบ 100 คนที่หลบหนีมาจากรัฐยะไข่ทางตะวันตก มายังนครย่างกุ้ง ขณะที่ชาวโรฮิงญากำลังถูกส่งตัวไปยังมาเลเซีย ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์ ตำรวจนครย่างกุ้งนำกำลังบุกเข้าตรวจสอบบ้าน 2 หลังในเมืองชเว-ปยีตาและพบชาวโรฮิงญา 99 คนที่หลบหนีมาจากรัฐยะไข่ รองผู้กำกับการตำรวจเมืองชเว-ปยีตากล่าวว่า ชาวโรฮิงญากลุ่มนี้หลบหนีมาจากเมืองหม่องดอว์ บูตีด่อง ซิตตเว และเจ๊าตอของรัฐยะไข่เพื่อไปทำงานในมาเลเซีย ทั้งยังระบุว่า ตำรวจเมียนมาจะดำเนินการสืบสวนว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลักลอบพาชาวโรฮิงญาหนีไปมาเลเซียในครั้งนี้ แต่เขาไม่สามารถยืนยันได้ว่า ชาวโรฮิงญากลุ่มนี้จะถูกส่งตัวกลับไปรัฐยะไข่หรือไม่ สื่อท้องถิ่นของเมียนมาเผยแพร่ภาพชาวโรฮิงญาที่ถูกจับกุมยืนเท้าเปล่าและสวมหน้ากากอนามัยบริเวณหน้าบ้านพักที่ใช้เป็นที่หลบซ่อนตัวมานานหลายเดือน กลุ่มชาวโรฮิงญาดังกล่าวมีผู้หญิง 73 คนที่เดินทางมาพร้อมกับเด็กอีกหลายคนที่มีอายุระหว่าง 5–10 ปี ขณะที่เครือข่ายความร่วมมือแห่งอาระกัน ซึ่งเป็นกลุ่มช่วยเหลือชาวโรฮิงญาเผยว่า ขณะนี้ชาวโรฮิงญากลุ่มดังกล่าวเข้าสู่มาตรการกักตัวในมหาวิทยาลัยท้องถิ่นแห่งหนึ่งเพื่อรอรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019. -สำนักข่าวไทย
25 แคนเบอร์รา 7 ม.ค. – ออสเตรเลียจะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดสแรกในเดือนหน้า ขณะที่สองรัฐใหญ่ของออสเตรเลียพยายามควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลียคาดการณ์ว่า หน่วยงานกำกับดูแลยาของออสเตรเลียจะอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์ บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐภายในสิ้นเดือนนี้ และจะเริ่มฉีดวัคซีนโดสแรกได้ภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น เขายังมั่นใจว่า ทางการออสเตรเลียมีความพร้อมที่จะฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนได้เร็วสุดในช่วงกลางหรือปลายเดือนหน้า ซึ่งทางการได้สั่งซื้อวัคซีนของไฟเซอร์จำนวน 10 ล้านโดส รวมถึงทำข้อตกลงกับแอสตราเซนเนกา บริษัทเวชภัณฑ์ของอังกฤษเพื่อผลิตวัคซีนใช้เองในประเทศ เมื่อวัคซีนทั้งสองขนานผ่านการอนุมัติแล้ว ทางการได้ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนราว 80,000 คนต่อสัปดาห์ และจะเพิ่มกำลังฉีดวัคซีนให้มากขึ้นในอีก 4-6 สัปดาห์ต่อจากนั้น ซึ่งจะทำให้ฉีดวัคซีนในชาวออสเตรเลียได้ราว 4 ล้านคนภายในสิ้นเดือนมีนาคม รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรสูงสุดและกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดล่าสุดของออสเตรเลียไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ขณะที่ทางการท้องถิ่นพยายามควบคุมการระบาดกลุ่มก้อนใหม่ในนครซิดนีย์และนครเมลเบิร์น ซึ่งเป็นสองเมืองใหญ่ของออสเตรเลีย ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 28,500 คน และผู้เสียชีวิต 909 คน. -สำนักข่าวไทย
