บริสเบน 8 ธ.ค. – ออสเตรเลียประกาศให้ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศต้องมีใบรับรองผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นลบก่อนขึ้นเครื่องบิน ขณะที่ทางการรัฐควีนส์แลนด์สั่งล็อกดาวน์นครบริสเบนหลังพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ที่แพร่เชื้อเร็ว
รัฐควีนส์แลนด์สั่งห้ามประชาชนกว่า 2 ล้านคนในนครบริสเบน ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของออสเตรเลียและเมืองเอกของรัฐควีนส์แลนด์ออกจากที่พักอาศัยเป็นเวลา 3 วันหากไม่มีธุระจำเป็น โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงเย็นของวันพรุ่งนี้เป็นต้นไปหลังพบพนักงานในโรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่กักตัวติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อเร็ว ซึ่งพบการระบาดครั้งแรกในอังกฤษ ออสเตรเลียเคยพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวมาแล้วจำนวนหนึ่ง แต่ผู้ป่วยติดเชื้อรายล่าสุดถือเป็นรายแรกที่ตรวจพบนอกสถานที่กักตัว นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่กลายพันธุ์ในแอฟริกาใต้ในโรงแรมที่ใช้กักตัวอีกด้วย
นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลียกล่าวว่า ทางการยังไม่ทราบแน่ชัดว่าพนักงานโรงแรมคนดังกล่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อเร็วมาจากผู้ที่เดินทางมาจากอังกฤษหรือไม่ แต่ผู้ที่จะเดินทางเข้าออสเตรเลียจำเป็นต้องมีใบรับรองผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นลบก่อนขึ้นเครื่องบิน ทั้งยังระบุว่า แม้รัฐควีนส์แลนด์พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อเร็วเพียงรายเดียวในนครบริสเบน แต่เชื้อไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวสามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิม ดังนั้น ทางการจึงต้องใช้มาตรการรับมือที่แตกต่างไปจากเดิมเช่นกัน
ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 28,500 คน และผู้เสียชีวิตราว 900 คน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากการใช้มาตรการควบคุมการเดินทางระหว่างพรมแดนที่เข้มงวดตั้งแต่พบการระบาดครั้งแรกในประเทศ.-สำนักข่าวไทย