จีนจัดประชุม บ. เทคโนโลยีรับมือภัยคุกคาม “ดีปเฟก”

ปักกิ่ง 18 มี.ค. – หน่วยงานกำกับดูแลด้านไซเบอร์สเปซของจีนเรียกบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำในประเทศ 11 แห่ง เช่น อาลีบาบา เทนเซ็นต์ และไบต์แดนซ์ เข้าร่วมหารือเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีสร้างคลิปวิดีโอปลอม หรือดีปเฟก (Deepfake) บนแพลตฟอร์มของแต่ละบริษัท ซึ่งถือเป็นการยกระดับการตรวจสอบภาคธุรกิจดังกล่าว หน่วยงานกำกับดูแลด้านไซเบอร์สเปซของจีนระบุในแถลงการณ์ว่า หน่วยงานกำกับดูแลด้านไซเบอร์สเปซและกระทรวงความมั่นคงสาธารณะได้ประชุมร่วมกับบริษัทต่าง ๆ ในประเด็นการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการสร้างวิดีโอปลอมและแอปพลิเคชั่นโซเชียลมีเดียรูปแบบเสียง โดยมีไคว่โส่ว เทคโนโลยี บริษัทผู้สร้างแอปพลิเคชั่นแชร์วิดีโอขนาดสั้นของจีนคล้ายติ๊กต่อก และเสียวหมี่ คอร์ป บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของจีนเข้าร่วมประชุมด้วย นอกจากนี้ หน่วยงานดังกล่าวยังขอความร่วมมือบริษัทต่าง ๆ ให้ประเมินความปลอดภัยของเทคโนโลยีสร้างวิดีโอปลอมด้วยตนเอง และส่งรายงานต่อรัฐบาลจีนหากพวกเขาวางแผนที่จะเพิ่มบริการฟังก์ชั่นหรือข้อมูลใหม่ที่มีความสามารถขับเคลื่อนสังคมได้ ดีปเฟก คือการใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ ในการสร้างภาพหรือคลิปวิดีโอหรือเสียงปลอมที่มีความเหมือนจริงมากจนแทบแยกไม่ออก ทำให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งพูดหรือกระทำในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริงได้อย่างแนบเนียน จีนได้ยกระดับการตรวจสอบผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยระบุว่ามีข้อกังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมผูกขาดและการละเมิดสิทธิผู้ใช้งานที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ จีนยังพบการเลียนแบบคลับเฮาส์ แอปพลิเคชั่นบริการสื่อสารด้วยเสียงของสหรัฐเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่แอปพลิเคชั่นดังกล่าวถูกปิดกั้นการใช้งานในจีนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ ชาวจีนสามารถใช้งานคลับเฮาส์ได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ซึ่งทำให้ผู้ใช้หลายคนเข้าร่วมพูดคุยในประเด็นเปราะบางต่าง ๆ เช่น ค่ายกักกันชนกลุ่มน้อยอุยกูร์และอิสรภาพของฮ่องกงก่อนถูกปิดกั้นการใช้งานในเวลาต่อมา.-สำนักข่าวไทย

กองทัพเมียนมาเพิ่มข้อหาคอร์รัปชันกับ “ซูจี”

รัฐบาลทหารเมียนมาจะเพิ่มข้อหาคอร์รัปชันกับนางออง ซาน ซู จี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่ถูกยึดอำนาจ ซึ่งเป็นการกระทำที่ทนายความของนางซู จี ระบุว่าไม่น่าเชื่อถือและไร้เหตุผล

ไต้หวันอาจจะเริ่มฉีดวัคซีนโควิดสัปดาห์หน้า

ไทเป 18 มี.ค. – ไต้หวันเสร็จสิ้นการตรวจสอบวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ลอตแรกของแอสตราเซเนกาแล้ว และอาจจะเริ่มฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนครั้งแรกตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป ไต้หวันได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ลอตแรกจำนวน 117,000 โดสของแอสตราเซเนกาในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ยังไม่ไดนำมาฉีดให้แก่ประชาชน นายเฉิน สือจง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขไต้หวันแถลงผ่านคลิปวิดีโอว่า หน่วยงานกำกับดูแลอาหารและยาของไต้หวันได้ตรวจสอบวัคซีนจำนวนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้รับวัคซีนมาจากโรงงานในเกาหลีใต้ เขายังระบุเพิ่มเติมว่า ไต้หวันตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนอย่างเร็วที่สุดในวันจันทร์นี้ และจะฉีดให้แก่ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงราว 60,000 คน โดยเน้นไปที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นลำดับแรก ก่อนหน้านี้ ไต้หวันได้ทำข้อตกลงซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เกือบ 20 ล้านโดสในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ในจำนวนนี้ มีวัคซีนของแอสตราเซเนกา 10 ล้านโดส อย่างไรก็ดี รัฐบาลไต้หวันไม่ค่อยสนใจข้อกังวลเกี่ยวกับโครงการฉีดวัคซีนโควิดที่ล่าช้า โดยระบุว่า ไต้หวันมีอัตราผู้ป่วยติดเชื้อในระดับต่ำและยังไม่จำเป็นต้องเร่งฉีดวัคซีนเหมือนกับประเทศอื่น ๆ ที่เผชิญกับการระบาดรุนแรง ขณะนี้ ไต้หวันมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเพียง 990 คน และผู้เสียชีวิต 10 คน.-สำนักข่าวไทย

ชายก่อเหตุกราดยิงสปาในสหรัฐ มีอาการเสพติดเซ็กซ์

อดีตเพื่อนร่วมห้องของชายที่ก่อเหตุกราดยิงที่สถานบริการสปา 3 แห่งในนครแอตแลนตาในรัฐจอร์เจียของสหรัฐจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 คนระบุว่า ผู้ก่อเหตุมีอาการเสพติดเพศสัมพันธ์ เขาจึงไปร้านนวดเพื่อหาบริการทางเพศ

สหรัฐตำหนิท่าทีก้าวร้าวของจีน

โซล 17 มี.ค. – นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐระบุว่า จีนมีท่าทีก้าวร้าวและแสดงกำลัง ขณะที่พลเอกลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐเรียกร้องให้สหรัฐและเกาหลีใต้กระชับสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้น เพื่อรับมือกับข้อกังวลด้านความมั่นคงจากจีนและเกาหลีเหนือ นายบลิงเคนและพลเอกออสตินอยู่ในระหว่างการเดินทางเยือนญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับประเทศพันธมิตรในทวีปเอเชีย ซึ่งถือเป็นเยือนต่างประเทศครั้งแรกของเจ้าหน้าที่ระดับสูงภายใต้รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ นายบลิงเคนกล่าวกับผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่นในกรุงโตเกียวว่า รัฐบาลจีนกำลังสร้างความตึงเครียด และไม่ยอมลดลาวาศอก โดยอ้างถึงกรณีที่จีนอ้างสิทธิเหนือไต้หวัน และการกระทำของจีนในทะเลจีนใต้และตะวันออก ซึ่งมีข้อพิพาทเรื่องอาณาเขตกับญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ ในทวีปเอเชีย หลังเสร็จสิ้นการเยือนญี่ปุ่น และเดินทางถึงเกาหลีใต้ในวันนี้ สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้รายงานว่า ในช่วงต้นของการประชุมร่วมกับนายพลซู อุก รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ พลเอกออสตินได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้ เพื่อรับมือกับข้อกังวลด้านความปลอดภัยต่อจีนและเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ พลเอกออสตินยังเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายร่วมมือกันเพื่อสร้างความสงบสุข ความปลอดภัย และความมั่งคั่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงการทำให้ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก เป็นพื้นที่เสรีและเปิดกว้าง ขณะที่นายพลซูระบุว่า ชาติพันธมิตรทั้งสองต้องรักษาการป้องกันที่แข็งแกร่งและร่วมมือกันต่อต้านเกาหลีเหนือ ทั้งยังให้คำมั่นว่าจะกระชับความสัมพันธ์กับสหรัฐให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งนี้ นายบลิงเคนและพลเอกออสตินมีกำหนดเข้าร่วมการประชุมแบบ 2+2 กับเกาหลีใต้ โดยจะเข้าพบประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ จนถึงวันพรุ่งนี้.-สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นเผยกำลังรวมหลักฐานกองทัพเมียนมาก่ออาชญากรรม

คณะสืบสวนเรื่องเมียนมาของสหประชาชาติกำลังรวบรวมหลักฐานการก่ออาชญากรรมของกองทัพเมียนมา และขอร้องให้ชาวเมียนมาช่วยรวบรวมและเก็บรักษาพยานเอกสารหลักฐานการก่ออาชญากรรมที่เป็นคำสั่งจากกองทัพเมียนมา เพื่อใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดีกับเหล่าผู้นำกองทัพในอนาคต

ฟิลิปปินส์อาจขยายล็อกดาวน์หากยอดป่วยโควิดยังพุ่ง

มะนิลา 17 มี.ค. – ฟิลิปปินส์อาจต้องพิจารณาขยายการใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นวงกว้างมากขึ้น หากยังคงพบยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 พุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทางการประกาศใช้มาตรการเข้มงวดในผู้โดยสารขาเข้าจากต่างประเทศเพื่อควบคุมการระบาด รัฐบาลฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการรับมือโรคโควิด-19 อีกครั้งหลังพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวันพุ่งสูงเกือบ 20,000 คนในช่วง 4 วันที่ผ่านมา ซึ่งครบรอบ 1 ปีที่ฟิลิปปินส์ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดและยาวนานที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เจ้าหน้าที่ของฟิลิปปินส์ระบุว่า ยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นเป็นผลมาจากการผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางบางส่วนที่อนุญาตให้ประชาชนกลับไปทำงานและฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจที่หดตัวถึงร้อยละ 9.5 ในปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะเดียวกัน นายฟรานซิสโก ดูเก รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์กล่าวว่า หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และยอดผู้ป่วยติดเชื้อยังคงพุ่งสูงขึ้น ก็มีโอกาสสูงที่ทางการจะใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นวงกว้างมากขึ้น ขณะที่คณะทำงานเฉพาะกิจด้านโรคโควิด-19 ของฟิลิปปินส์ประกาศวานนี้ว่า จะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติและพลเมืองฟิลิปปินส์บางส่วนเดินทางเข้าประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคมเป็นเวลา 1 เดือน แต่จะยกเว้นให้เจ้าหน้าที่ที่ผ่านการรับรองจากรัฐบาลต่างประเทศ แรงงานฟิลิปปินส์ และผู้ที่มีเหตุจำเป็นฉุกเฉินเดินทางเข้าประเทศได้วันละ 1,500 คนผ่านท่าอากาศยานหลักเท่านั้น ขณะนี้ ฟิลิปปินส์มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 631,320 คน และผู้เสียชีวิตราว 12,840 คน ซึ่งเป็นยอดผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตสูงเป็นอันดับสองของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย.-สำนักข่าวไทย

เวียดนามเผยวัคซีนโควิดที่พัฒนาเองจะพร้อมใช้ปลายปี

ฮานอย 17 มี.ค. – เวียดนามคาดว่า วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่พัฒนาขึ้นเอง หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ นาโนโคแวกซ์ จะพร้อมใช้ภายในไตรมาสที่สี่ของปีนี้ และจะนำมาฉีดให้แก่ประชาชนในปีหน้า กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามแถลงเรื่่องนี้ในขณะที่หลายประเทศทั่วโลกพยายามเร่งพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่คิดค้นเองท่ามกลางปัญหาขาดแคลนวัคซีนและความวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อโควิดกลายพันธุ์ชนิดใหม่ ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า การควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ขึ้นอยู่กับการพัฒนาวัคซีนเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ บริษัทของเวียดนาม 4 แห่งได้ร่วมมือกันวิจัยและผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และมีบริษัทอีก 2 แห่งที่รับผิดชอบการทดลองวัคซีนในมนุษย์ ซึ่งรวมถึงวัคซีนนาโนโคแวกซ์ และวัคซีนโควิแวกของรัสเซีย ขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า เวียดนามไม่มีแผนระงับใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาเหมือนกับบางประเทศในทวีปยุโรปที่หยุดการฉีดให้ประชาชนเนื่องจากมีรายงานภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังฉีดวัคซีน ขณะนี้ เวียดนามยังคงใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาเป็นส่วนใหญ่ และฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนกว่า 20,000 คนนับตั้งแต่เริ่มโครงการฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ในขณะเดียวกัน นายเหวียน แถ่ง ลอง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเวียดนามกล่าวว่า เวียดนามจะได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 1.3 ล้านโดสจากแอสตราเซเนกาภายในสิ้นเดือนนี้ และจะนำวัคซีนดังกล่าวไปแจกจ่ายทั่วประเทศ นอกจากนี้ เวียดนามยังอยู่ในระหว่างเจรจาซื้อวัคซีนกับไฟเซอร์/ไบออนเทค โมเดอร์นา จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และสปุตนิก-วี ซึ่งเป็นวัคซีนของรัสเซีย โดยคาดว่าอาจจะบรรลุข้อตกลงสั่งซื้อวัคซีน 30 ล้านโดสจากไฟเซอร์ในปีนี้ […]

บราซิลมีสถิติยอดตายโควิดสูงสุด

บราซิเลีย 17 มี.ค. – บราซิลมีผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายวัน สูงสุดเป็นสถิติใหม่ที่ 2,841 คน ในขณะที่ว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่ของบราซิลให้สัญญาว่าจะปฏิบัติงานตามนโยบายที่ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของฌาอีร์ โบลโซนารู ของบราซิล ที่มักมองข้ามความรุนแรงของโรคโควิด-19 นพ.มาร์เซโล คีโรกา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ ซึ่งให้ความเห็นดังกล่าวหลังได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของบราซิลจากประธานาธิบดีโบลโซนารู เพียง 1 วัน ได้ทำลายความหวังที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการควบคุมการระบาดของไวรัสที่ย่ำแย่ลง ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 280,000 คน สูงเป็นอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐ และยังทำสถิติผู้เสียชีวิตสูงที่สุดในโลกในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา นพ.คีโรกา เรียกร้องให้ชาวบราซิลสวมหน้ากากอนามัยและล้างมือ แต่ไม่จำเป็นต้องเว้นระยะห่างทางสังคมหรือใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เขาจะดำเนินนโยบายด้านสาธารณสุขทั้งหมดตามที่ประธานาธิบดีโบลโซนารูกำหนดไว้ ซึ่งเป็นหน้าที่ที่รัฐมนตรีควรทำ ทั้งยังระบุว่า การใช้มาตรการล็อกดาวน์ไม่อาจหยุดการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ ซึ่งถือเป็นการเน้นย้ำจุดยืนของผู้นำบราซิลที่มักไม่เห็นด้วยกับผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและผู้ว่าการรัฐต่างๆ ในการใช้นโยบายดังกล่าว ในขณะเดียวกัน การแต่งตั้ง นพ.คีโรกา ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีสาธารณสุขบราซิลจะมีขึ้นอย่างเป็นทางการในวันพุธนี้ตามเวลาท้องถิ่น และเขาจะกลายเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขบราซิลคนที่ 4 นับตั้งแต่พบการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยกำหนดส่งมอบงานในตำแหน่งดังกล่าว แม้ว่า นพ.คีโรกา ได้เริ่มสานงานต่อโดยการเข้าพบกับนายเอดูอาร์โด ปาซูเอลโญ รัฐมนตรีสาธารณสุขคนปัจจุบัน ที่ถูกปลดจากตำแหน่งแล้วก็ตาม.-สำนักข่าวไทย

หญิงเอเชีย 6 รายเสียชีวิตจากเหตุ กราดยิงสปาในสหรัฐ

จอร์เจีย 17 มี.ค. – เกิดเหตุกราดยิงที่สถานบริการสปา 3 แห่งที่นครแอตแลนตาในรัฐจอร์เจียทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน ในจำนวนนี้เป็นหญิงเอเชียอย่างน้อย 6 คน ขณะที่ตำรวจควบคุมตัวชายที่เป็นผู้ก่อเหตุได้แล้ว เจ้าหน้าที่รักษากฎหมายของเชอโรคีเคาน์ตีทางตอนเหนือของนครแอตแลนตาในรัฐจอร์เจียเผยว่า เกิดเหตุกราดยิงที่ยังส์ เอเชียน มาสสาจในเชอโรคีเคาน์ตีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน และมีผู้บาดเจ็บ 1 คน หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่ตำรวจในนครแอตแลนตาก็ได้รับแจ้งเหตุปล้นชิงทรัพย์อีกครั้งในช่วงเวลาก่อน 18.00 น. ที่สปาอีกแห่ง และมีผู้หญิง 3 คนถูกยิงเสียชีวิต ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนรายงานเหตุกราดยิงเบื้องต้นอยู่นั้น ก็ได้รับแจ้งเหตุกราดยิงที่สปาอีกแห่ง ซึ่งตั้งอยู่บนถนนฝั่งตรงข้าม และทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายโรเบิร์ต แอรอน ลอง ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุกราดยิงสปา 3 แห่ง ไปคุมขังที่คริสป์เคาน์ตีในรัฐจอร์เจียเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สืบสวนจากทั้งสองเขตอำนาจศาลมั่นใจมากว่าผู้ก่อเหตุกราดยิงสปา 3 แห่งเป็นคนเดียวกัน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแรงจูงใจในการก่อเหตุกราดยิง […]

สหรัฐเตือนจีนให้เลิกใช้การบีบบังคับและรุกราน

นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศหรัฐเตือนจีนให้เลิกใช้การบีบบังคับและการรุกราน ในขณะที่เขาใช้การเดินทางเยือนญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรก เพื่อสร้างพันธมิตรในทวีปเอเชียหลังจีนเริ่มมีบทบาทเพิ่มมากขึ้น

ฟิลิปปินส์ห้ามเยาวชนต่ำกว่า 18 ปีออกนอกบ้านสกัดโควิด

มะนิลา 16 มี.ค. – กรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์จะขยายคำสั่งห้ามประชาชนบางกลุ่มออกจากบ้านเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งรวมถึงเยาวชนที่มีอายุไม่เกิน 18 ปีเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ และยังประกาศใช้มาตรการที่เข้มงวดกว่าเดิมเพื่อควบคุมยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้น สำนักงานพัฒนากรุงมะนิลาระบุในแถลงการณ์อ้างข้อตกลงร่วมกันระหว่างนายกเทศมนตรีว่า ทางการท้องถิ่นจะอนุญาตให้ชาวฟิลิปปินส์อายุ 18 – 65 ปีออกจากบ้านได้เท่านั้น ก่อนหน้านี้ ฟิลิปปินส์เริ่มผ่อนคลายการใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดและยาวนานในช่วงปลายปีที่แล้ว แต่ยังคงสั่งห้ามเยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปีในกรุงมะนิลาออกจากบ้าน อย่างไรก็ดี ฟิลิปปินส์กลับพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดพุ่งสูงขึ้นในเดือนนี้ และเมื่อวานนี้ทำสถิติผู้ป่วยติดเชื้อรายวันสูงสุดถึง 5,404 คนนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนสิงหาคมปีก่อน นอกจากนี้ ทางการยังกลับไปใช้คำสั่งห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถานยามวิกาลหรือเคอร์ฟิวตั้งแต่เมื่อวานนี้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ในกรุงมะนิลา ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของโรคโควิด-19 และมีประชากรกว่า 12 ล้านคน อีกทั้งยังประกาศใช้มาตรการเพิ่มเติม เช่น คำสั่งห้ามดื่มสุรา และคำสั่งล็อกดาวน์เฉพาะพื้นที่ที่พบอัตราผู้ป่วยติดเชื้อสูง ในขณะเดียวกัน นายการ์ลิโต กัลเวซ ประธานคณะทำงานวางแผนฉีดวัคซีนของฟิลิปปินส์กล่าวถึงปัญหาการฉีดวัคซีนล่าช้าว่า ฟิลิปปินส์กำลังจะได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นในเร็ว ๆ นี้ โดยคาดว่าจะได้รับวัคซีนเกือบ 2.4 ล้านโดสภายในต้นเดือนหน้า แบ่งเป็นวัคซีนของแอสตราเซนเนกา 979,200 […]

1 268 269 270 271 272 315