มะนิลา 17 มี.ค. – ฟิลิปปินส์อาจต้องพิจารณาขยายการใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นวงกว้างมากขึ้น หากยังคงพบยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 พุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทางการประกาศใช้มาตรการเข้มงวดในผู้โดยสารขาเข้าจากต่างประเทศเพื่อควบคุมการระบาด
รัฐบาลฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการรับมือโรคโควิด-19 อีกครั้งหลังพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวันพุ่งสูงเกือบ 20,000 คนในช่วง 4 วันที่ผ่านมา ซึ่งครบรอบ 1 ปีที่ฟิลิปปินส์ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดและยาวนานที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เจ้าหน้าที่ของฟิลิปปินส์ระบุว่า ยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นเป็นผลมาจากการผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางบางส่วนที่อนุญาตให้ประชาชนกลับไปทำงานและฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจที่หดตัวถึงร้อยละ 9.5 ในปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในขณะเดียวกัน นายฟรานซิสโก ดูเก รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์กล่าวว่า หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และยอดผู้ป่วยติดเชื้อยังคงพุ่งสูงขึ้น ก็มีโอกาสสูงที่ทางการจะใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นวงกว้างมากขึ้น ขณะที่คณะทำงานเฉพาะกิจด้านโรคโควิด-19 ของฟิลิปปินส์ประกาศวานนี้ว่า จะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติและพลเมืองฟิลิปปินส์บางส่วนเดินทางเข้าประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคมเป็นเวลา 1 เดือน แต่จะยกเว้นให้เจ้าหน้าที่ที่ผ่านการรับรองจากรัฐบาลต่างประเทศ แรงงานฟิลิปปินส์ และผู้ที่มีเหตุจำเป็นฉุกเฉินเดินทางเข้าประเทศได้วันละ 1,500 คนผ่านท่าอากาศยานหลักเท่านั้น ขณะนี้ ฟิลิปปินส์มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 631,320 คน และผู้เสียชีวิตราว 12,840 คน ซึ่งเป็นยอดผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตสูงเป็นอันดับสองของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย.-สำนักข่าวไทย