กัมพูชาพบผู้ป่วยโควิดโอไมครอนรายแรก

พนมเปญ 15 ธ.ค. – กัมพูชาพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกของประเทศเป็นหญิงชาวกัมพูชาที่เดินทางกลับมาจากกานา โดยแวะเปลี่ยนเครื่องที่นครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และกรุงเทพมหานครของไทย กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชาระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกเป็นหญิงชาวกัมพูชา วัย 23 ปี ที่เดินทางกลับมาจากกานาโดยแวะเปลี่ยนเครื่องที่นครดูไบและกรุงเทพมหานคร หญิงคนดังกล่าวกำลังตั้งครรภ์ได้ 15 สัปดาห์ และได้รับการส่งตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาลแล้ว ขณะที่องค์การอนามัยโลกระบุว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้เมื่อเดือนพฤศจิกายน กำลังแพร่ระบาดในกว่า 70 ประเทศ และมีแนวโน้มว่าได้แพร่กระจายไปยังพื้นที่ส่วนใหญ่ทั่วโลกแล้ว ทุกประเทศควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้และไม่ควรมองข้าม แม้เชื้อดังกล่าวไม่ทำให้เกิดอาการป่วยรุนแรงก็ตาม ก่อนหน้านี้ กัมพูชาได้ประกาศเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดสในเดือนพฤศจิกายน หลังมีอัตราฉีดวัคซีนโควิดครบโดสอยู่ในระดับสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของทวีปเอเชีย โดยมีประชาชนกว่าร้อยละ 88 จากประชากรทั้งหมด 16 ล้านคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดส ขณะนี้ กัมพูชามียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 120,000 คน และผู้เสียชีวิตราว 3,000 คน.-สำนักข่าวไทย

อนามัยโลกเตือนโอไมครอนแพร่เร็วอย่างไม่เคยพบมาก่อน

เจนีวา 15 ธ.ค. – องค์การอนามัยโลกเตือนเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนกำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลกในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ดังกล่าวใน 77 ประเทศแล้ว ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกแถลงว่า เขารู้สึกวิตกกังวลว่าประเทศต่าง ๆ ยังรับมือกับการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนได้ไม่ดีนัก ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าได้ประเมินความอันตรายของเชื้อดังกล่าวต่ำเกินไป แม้เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนจะทำให้เกิดอาการป่วยไม่รุนแรง แต่ก็อาจทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งจนระบบสาธารณสุขต้องเผชิญกับภาวะตึงตัว เขายังระบุเพิ่มเติมว่า การฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันอาจมีบทบาทสำคัญต่อการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 แต่ควรคำนึงถึงการจัดลำดับความสำคัญด้วย การฉีดวัคซีนเข็มที่สามให้แก่กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงต่ำต่ออาการป่วยหนักหรือเสียชีวิตจะทำให้ชีวิตของคนจำนวนมากที่มีความเสี่ยงสูงและยังไม่มีโอกาสเข้าถึงวัคซีนโควิดต้องตกอยู่ในอันตราย เนื่องจากปัญหาขาดแคลนวัคซีน บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า หลายประเทศทั่วโลกได้ประกาศใช้คำสั่งระงับการเดินทางจากแอฟริกาใต้และประเทศใกล้เคียงหลังพบเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนครั้งแรกในแอฟริกาใต้ แต่แนวทางดังกล่าวกลับประสบความล้มเหลวในการพยายามควบคุมการระบาด ขณะที่ผลการศึกษาล่าสุดของไฟเซอร์ระบุว่า วัคซีนโควิดมีประสิทธิภาพต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนลดลงเมื่อเทียบกับเชื้อโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิม แต่การฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่สามจะช่วยกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนได้.-สำนักข่าวไทย

ไฟเซอร์เผยยาเม็ดต้านโควิดยังมีประสิทธิภาพ 90%

นิวยอร์ก 15 ธ.ค. – ไฟเซอร์ อิงค์ บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐ เผยเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า ยาเม็ดต้านเชื้อโควิดที่บริษัทพัฒนาขึ้นยังคงมีประสิทธิภาพป้องกันอาการป่วยรุนแรงและการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้เกือบร้อยละ 90 ในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อที่มีความเสี่ยงสูง ขณะที่ผลทดลองล่าสุดชี้ว่า ยาดังกล่าวมีประสิทธิภาพต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเช่นกัน ไฟเซอร์เผยข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ขั้นสุดท้ายจากการทดลองในห้องปฏิบัติการว่า ไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเสียชีวิตหลังได้รับยาเม็ดต้านเชื้อโควิด และมีผู้ป่วยติดเชื้อ 12 รายที่เสียชีวิตจากการได้รับยาหลอก ไฟเซอร์ได้ใช้ยาดังกล่าวร่วมกับยาต้านเชื้อไวรัสแบบดั้งเดิมในกลุ่มอาสาสมัครทุก ๆ 12 ชั่วโมงเป็นเวลา 5 วันหลังจากที่ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด หากยาเม็ดต้านเชื้อโควิดได้รับการอนุมัติ ไฟเซอร์จะจัดจำหน่ายยาดังกล่าวภายใต้ชื่อ แพ็กซ์โลวิด ไฟเซอร์ยังเผยข้อมูลเบื้องต้นจากการทดลองครั้งที่สองที่ระบุว่า ยาเม็ดต้านเชื้อโควิดช่วยลดอัตราป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้ราวร้อยละ 70 จากการทดลองทางคลินิกในกลุ่มอาสาสมัครขนาดเล็กที่เป็นผู้ใหญ่ทั่วไปที่มีความเสี่ยงระดับปานกลาง ซึ่งรวมถึงกลุ่มผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดสที่มีความเสี่ยงสูง ในขณะเดียวกัน นายมิคาเอล โดลสเตน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของไฟเซอร์ เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า คาดว่ายาเม็ดต้านเชื้อโควิดของไฟเซอร์จะได้รับการอนุมัติจากสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ หรือเอฟดีเอ รวมถึงหน่วยงานกำกับดูแลยาของประเทศอื่น ๆ ในเร็ว ๆ นี้ ก่อนหน้านี้ ไฟเซอร์เผยเมื่อเดือนพฤศจิกายนว่า ยาเม็ดต้านเชื้อโควิดมีประสิทธิภาพป้องกันการป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตจากโรคโควิดสูงถึงร้อยละ 89 ในกลุ่มอาสาสมัคร 1,200 คน ขณะที่ผลการวิเคราะห์ข้อมูลครั้งในครั้งนี้มีกลุ่มอาสาสมัครเข้าร่วมเพิ่มอีก 1,000 คน.-สำนักข่าวไทย

สิงคโปร์เร่งฉีดวัคซีนโควิดเข็มสามสกัดโอไมครอน

สิงคโปร์ 14 ธ.ค. – สิงคโปร์จะเร่งเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดเข็มที่สามมากยิ่งขึ้นเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันท่ามกลางสถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ระบุวันนี้ว่า ข้อมูลเบื้องต้นจากต่างประเทศชี้ว่า ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มสามมีภูมิต้านทานเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และมีอัตราป้องกันอาการป่วยรุนแรงจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน ดังนั้น การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจึงมีความจำเป็นเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันต้านและลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการหลีกเลี่ยงภูมิคุ้มกันของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ยังแจ้งว่า สิงคโปร์พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทั้งหมด 16 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อ 14 คนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และมี 2 คนที่ติดเชื้อในประเทศ ทั้งหมดได้รับการฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดส และเป็นผู้ที่ไม่มีอาการป่วยหรือมีอาการเล็กน้อย โดยที่ทางการสิงคโปร์ยังไม่พบความเชื่อมโยงของการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในชุมชน ก่อนหน้านี้ ทางการสิงคโปร์รายงานเมื่อวันจันทร์ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 339 คน และผู้เสียชีวิตเพิ่ม 4 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 273,000 คน และผู้เสียชีวิต 798 คน.-สำนักข่าวไทย

รถบัสตำรวจอินเดียถูกดักโจมตี เสียชีวิต 3 นาย

สมาชิกกลุ่มก่อการร้าย 2 คนก่อเหตุโจมตีรถบัสตำรวจในพื้นที่ใกล้ค่ายตำรวจในย่านชานเมืองนครศรีนคร ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐชัมมูและแคชเมียร์ของอินเดีย เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ทำให้มีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย และได้รับบาดเจ็บ 11 นาย

จีนพบผู้ป่วยโควิดโอไมครอนรายแรกแล้ว

ปักกิ่ง 14 ธ.ค. – จีนพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกที่เมืองเทียนจิน ซึ่งเป็นเมืองท่าเรือที่สำคัญทางเหนือของจีน โดยที่ผู้ป่วยติดเชื้อคนดังกล่าวเป็นชาวโปแลนด์ที่เดินทางจากกรุงวอร์ซอมายังจีน หนังสือพิมพ์เทียนจิน เดลี ของทางการจีน รายงานเมื่อวันจันทร์ว่า หน่วยงานสาธารณสุขของเมืองเทียนจินพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกเป็นชาวโปแลนด์ที่เดินทางมาจากกรุงวอร์ซอของโปแลนด์เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ขณะที่หนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ของจีนระบุว่า ผู้ป่วยคนดังกล่าวมีอุณหภูมิร่างกายอยู่ในระดับปกติและไม่มีอาการป่วย แต่มีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกและได้รับการส่งตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาลแล้ว ส่วนผู้เชี่ยวชาญระดับสูงด้านระบบทางเดินหายใจของจีนเผยกับหนังสือพิมพ์ดังกล่าวว่า ประชาชนไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน เพราะจีนยังคงใช้ยุทธศาสตร์ทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อเป็นศูนย์ รวมถึงการใช้มาตรการป้องกันและการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 76 คน ลดลงจากวันก่อนที่มี 101 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ 51 คน ลดลงจากวันก่อนที่มี 80 คน โดยพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ที่มณฑลเจ้อเจียง มณฑลฉ่านซี เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน และมณฑลเฮย์หลงเจียง ขณะนี้ จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 99,800 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 4,600 คน.-สำนักข่าวไทย

อังกฤษพบผู้เสียชีวิตรายแรกจากโควิดโอไมครอน

ลอนดอน 14 ธ.ค. – อังกฤษยืนยันเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า พบผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกของประเทศ ขณะที่กำลังเร่งเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดเข็มที่สามเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ เผยระหว่างลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนโควิดในกรุงลอนดอนว่า อังกฤษพบการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนราวร้อยละ 40 จากยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดทั้งหมดในโรงพยาบาล และมีผู้ป่วยติดเชื้อที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้น อังกฤษยังพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 รายที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน หลังจากที่เพิ่งประกาศเตือนประชาชนทั่วประเทศเมื่อวันอาทิตย์ว่ากำลังเผชิญกับการระบาดระลอกใหญ่ นอกจากนี้ ผู้นำอังกฤษยังได้กล่าวเน้นย้ำผ่านโทรทัศน์ ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนักว่า อังกฤษจำเป็นต้องใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อป้องกันไม่ให้โรงพยาบาลเผชิญกับภาวะตึงตัวในอีกหลายสัปดาห์หน้า และประชาชนวัยผู้ใหญ่ทุกคนสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่สามภายในสิ้นเดือนนี้ ในขณะเดียวกัน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหภาพยุโรป หรืออีซีดีซี ระบุว่า ผู้ป่วยติดเชื้อคนดังกล่าวอาจเป็นผู้ป่วยรายแรกที่ได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน แต่ยังมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดทั่วโลกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการตรวจเพื่อถอดรหัสพันธุกรรม ดังนั้น จึงเป็นเรื่องยากที่จะระบุว่าผู้ป่วยคนดังกล่าวเป็นผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกของโลก ขณะนี้ อังกฤษมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 10.8 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 146,000 คน.-สำนักข่าวไทย

เรือบรรทุกสินค้าชนกันในทะเลบอลติก-สูญหาย 2 คน

หน่วยงานบริหารการเดินเรือของสวีเดน เร่งปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหาย 2 คน ในทะเลบอลติก หลังเกิดเหตุเรือบรรทุกสินค้าสองลำชนกันนอกชายฝั่งสวีเดนในทะเลดังกล่าว จนทำให้เรืออีกลำพลิกคว่ำ

วัยรุ่นรัสเซียระเบิดตัวเองที่โรงเรียนนอกกรุงมอสโก

มอสโก 13 ธ.ค. – วัยรุ่นชายรัสเซียก่อเหตุระเบิดตัวเองที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งหนึ่งนอกกรุงมอสโกของรัสเซีย จนทำให้เขาและเยาวชนอีกอย่างน้อย 1 คนได้รับบาดเจ็บ หนังสือพิมพ์เดอะมอสโกไทม์สของรัสเซียรายงานอ้างกระทรวงมหาดไทยของรัสเซียที่ระบุว่า วัยรุ่นชายรัสเซีย วัย 18 ปี ได้ปลดชนวนระเบิดที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งหนึ่งในเมืองเซอร์ปูคอฟ ซึ่งเป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์และตั้งอยู่ห่างจากกรุงมอสโกไปทางใต้ไม่ถึง 100 กิโลเมตร เมื่อเวลา 08.24 น. ตามเวลาในกรุงมอสโกของรัสเซีย หรือตรงกับเวลา 12.24 น. ตามเวลาประเทศไทยในวันนี้ ทั้งยังระบุว่า ผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นอดีตนักเรียนโรงเรียนสอนศาสนานิกายออร์โทดอกซ์ดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด ขณะที่สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เผยนามที่ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยได้เสียชีวิตในเวลาต่อมาเนื่องจากเสียเลือดเป็นจำนวนมาก และแรงระเบิดทำให้โครงสร้างของโรงเรียนสอนศาสนาได้รับความเสียหาย กระทรวงกลาโหมของรัสเซียระบุว่า ยังมีวัยรุ่นอายุ 15 ปีอีกคนได้รับบาดเจ็บ และไม่ได้ระบุว่าเหตุระเบิดแสวงเครื่องดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับการก่อการร้ายหรือไม่ ขณะที่สำนักข่าวอาร์ไอเอโนวอสตีของทางการรัสเซียรายงานว่า อาจมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากถึง 7 คนจากเหตุระเบิดดังกล่าว ขณะนี้ ตำรวจรัสเซียได้อพยพพนักงานโรงเรียนและนักเรียนออกจากอาคารของโรงเรียนแล้ว ด้านสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียรายงานอ้างคำพูดแหล่งข่าวไม่เผยนามว่า คาดว่าผู้ต้องสงสัยมีแรงจูงใจก่อเหตุระเบิดจากความเกลียดชังอาจารย์และแม่ชีของโรงเรียนสอนศาสนาดังกล่าว. -สำนักข่าวไทย

อินโดนีเซียจะเริ่มฉีดวัคซีนโควิดให้เด็ก 6-11 ปี

จาการ์ตา 13 ธ.ค. – อินโดนีเซียจะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดให้เด็กอายุ 6-11 ปีตั้งแต่วันอังคารเป็นต้นไป และจะกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศแรก ๆ ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เริ่มฉีดวัคซีนโควิดในกลุ่มเด็กเล็ก เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียเผยว่า อินโดนีเซียได้อนุมัติใช้วัคซีนของซิโนแวคในเด็กอายุ 6-11 ปีเมื่อเดือนพฤศจิกายน และตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้เด็กกลุ่มดังกล่าว 26.5 ล้านคน เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวระบุว่า ขณะนี้วัคซีนของซิโนแวคเป็นวัคซีนขนานเดียวที่อินโดนีเซียอนุมัติใช้ในกลุ่มเด็ก และทางการจะจำกัดการใช้วัคซีนดังกล่าวเฉพาะในกลุ่มเด็กอายุ 6-11 ปีตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป แนวทางนี้จะช่วยเร่งการฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนทุกคนในอินโดนีเซียเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เป็นวงกว้าง และจะเริ่มฉีดวัคซีนโควิดให้เด็กที่อยู่ในกรุงจาการ์ตาและพื้นที่โดยรอบก่อน ข้อมูลของทางการอินโดนีเซียระบุว่า อินโดนีเซียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 4.2 ล้านคน ในจำนวนนี้ มีเด็กอายุ 0-18 ปีที่ติดเชื้อโควิดร้อยละ 13 และมีผู้เสียชีวิตกว่า 143,000 คน อินโดนีเซียเผชิญกับการระบาดของโรคโควิดอย่างรุนแรงจนทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงถึงวันละ 40,000 คนในเดือนกรกฎาคม แต่ยอดผู้ป่วยติดเชื้อได้ลดลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และพบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อเฉลี่ยวันละ 400 คนในเดือนพฤศจิกายน ขณะนี้ อินโดนีเซียฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดครบสองโดสให้ประชาชนร้อยละ 38 จากประชากรทั้งหมด 270 ล้านคน ก่อนหน้านี้ จีนได้อนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิดในเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป ขณะที่กัมพูชาได้อนุมัติใช้วัคซีนโควิดในเด็กอายุ 6-12 […]

เกาหลีใต้เตรียมใช้ “เอไอ” แกะรอยผู้ป่วยโควิด

โซล 13 ธ.ค. – เกาหลีใต้เตรียมเปิดโครงการนำร่องใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ระบบจดจำใบหน้า และกล้องวงจรปิดกว่าหมื่นตัว เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แม้ว่าจะมีผู้ทักท้วงเกี่ยวกับข้อวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านความเป็นส่วนตัว เจ้าหน้าที่ของเมืองพูชอน ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเมืองอินชอนและกรุงโซลและมีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับที่สองรองจากกรุงโซล เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า โครงการนำร่องดังกล่าวจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนมกราคมปีหน้า และได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีใต้ ทั้งยังระบุว่า ระบบดังกล่าวจะช่วยลดความตึงเครียดและภาระงานหนักหน่วงของเจ้าหน้าที่ติดตามผู้ป่วยติดเชื้อในเมืองพูซอนที่มีประชากรกว่า 800,000 คน เพื่อให้เกิดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องแม่นยำ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างเอกสารความยาว 110 หน้าที่ทางการเมืองพูชอนยื่นต่อกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศว่า โครงการนี้จะใช้ขั้นตอนการทำงานของปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีจดจำใบหน้าเพื่อวิเคราะห์ภาพที่รวบรวมมาจากกล้องวงจรปิด 10,820 ตัว และติดตามการเคลื่อนไหวของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิด รวมถึงการตรวจสอบว่าพวกเขาสวมหน้ากากอนามัยหรือไม่ ทั้งนี้ ระบบดังกล่าวยังสามารถติดตามคนได้สูงสุดถึง 10 คนภายในเวลา 5-10 นาที ซึ่งช่วยร่นเวลาอย่างมากจากเดิมที่เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาราว 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงเพื่อติดตามคน 1 คน แม้โครงการดังกล่าวจะได้รับเสียงสนับสนุนเป็นวงกว้างจากระบบติดตามและค้นหาบุคคลได้อย่างรวดเร็ว แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชนและ ส.ส. ของเกาหลีใต้จำนวนหนึ่งแสดงความวิตกกังวลว่า รัฐบาลเกาหลีใต้อาจนำข้อมูลที่เก็บไว้ไปใช้นอกเหนือวัตถุประสงค์ในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่เจ้าหน้าที่ของเมืองพูชอนแย้งว่า โครงการดังกล่าวไม่มีปัญหาข้อวิตกกังวลด้านความเป็นส่วนตัว เนื่องจากระบบจะเบลอภาพใบหน้าของบุคคลที่ไม่ใช่เป้าหมาย ส่วนสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ หรือเคดีซีเอ ระบุว่า […]

อนามัยโลกชี้โอไมครอนแพร่เชื้อเร็วขึ้น-ลดประสิทธิภาพวัคซีน

เจนีวา 13 ธ.ค. – องค์การอนามัยโลกเผยเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนแพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา และทำให้วัคซีนป้องกันโรคโควิดมีประสิทธิภาพลดลง แต่เชื้อดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดอาการรุนแรงในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อ องค์การอนามัยโลกระบุว่า ขณะนี้ เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนได้แพร่ระบาดไปยัง 63 ประเทศทั่วโลกนับถึงวันที่ 9 ธันวาคม และพบการระบาดอย่างรวดเร็วในแอฟริกาใต้ ซึ่งพบการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาในระดับต่ำ และอังกฤษ ซึ่งพบการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาในระดับสูง ทั้งยังระบุว่า ยังขาดข้อมูลที่บ่งชี้ว่าอัตราแพร่ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเป็นเพราะการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่น้อยลง การแพร่เชื้อที่รวดเร็วขึ้น หรือทั้งสองปัจจัยรวมกัน องค์การอนามัยโลกรายงานอ้างข้อมูลเบื้องต้นที่ระบุว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทำให้วัคซีนป้องกันโรคโควิดมีประสิทธิภาพลดลงในด้านการป้องกันการติดเชื้อและการแพร่ระบาด นอกจากนี้ ข้อมูลล่าสุดยังชี้ว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนอาจเข้ามาแพร่ระบาดแทนที่เชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาในชุมชนหลายแห่งทั่วโลก ทั้งนี้ ผลการศึกษาหลายชิ้นระบุว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทำให้เกิดอาการป่วยเล็กน้อย หรือไม่มีอาการป่วย แต่องค์การอนามัยโลกชี้ว่า ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะสรุปอาการที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อดังกล่าว ขณะนี้ หลายประเทศที่มีปริมาณวัคซีนโควิดเพียงพอ เช่น อังกฤษและฝรั่งเศส ต่างสนับสนุนให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดเข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน.-สำนักข่าวไทย

1 149 150 151 152 153 315