ชัวร์ก่อนแชร์: ผู้ว่าฯ แคลิฟอร์เนียใช้ภาพ AI โจมตีทรัมป์ จริงหรือ?

03 กรกฎาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับเหตุประท้วงสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ หรือ ICE ในลอสแอนเจลิสเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อมีการอ้างว่า กาวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย พรรคเดโมแครต ใช้ภาพจากเหตุการณ์เก่าและภาพที่สร้างจาก AI มาโจมตีประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ พรรครีพับลิกัน บทสรุป : 1.ภาพที่โพสต์มีที่มาจากหนังสือพิมพ์ San Francisco Chronicle2.คำตอบจาก AI ที่บอกว่าเป็นภาพเก่า มาจากความเข้าใจผิดที่เรียกว่า AI Hallucination3.การตรวจสอบพบว่า ภาพดังกล่าวไม่ได้สร้างจาก AI เช่นกัน FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2025 กาวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้โพสต์ข้อความทาง X เพื่อโจมตี […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ขับรถชนผู้ประท้วง ไม่ผิดกฎหมายในสหรัฐฯ จริงหรือ?

02 กรกฎาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับเหตุประท้วงสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ หรือ ICE ในลอสแอนเจลิสเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อ รอน ดีซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ให้สัมภาษณ์ก่อนเหตุการณ์ประท้วง No Kings ทั่วสหรัฐฯ รวมถึงฟลอริดาในวันที่ 14 มิถุนายน 2025 โดยย้ำว่า ผู้ใช้รถยนต์ในฟลอริดาที่ตกอยู่ในสถานการณ์ถูกผู้ชุมนุมประท้วงห้อมล้อมรถยนต์ พวกเขามีสิทธิขับรถชนผู้ชุมนุมประท้วง ตามกฎหมาย Anti-Riot Law ที่มีผลบังคับใช้ในรัฐฟลอริดาตั้งแต่ปี 2021 บทสรุป : Anti-Riot Law ใช้คุ้มครองจำเลยระหว่างถูกดำเนินคดีทางแพ่งเท่านั้น ไม่มีผลต่อการดำเนินคดีทางอาญาแต่อย่างใด FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : อย่างไรก็ดี Anti-Riot Law ใช้คุ้มครองจำเลยระหว่างถูกดำเนินคดีทางแพ่งเท่านั้น ไม่มีผลต่อการดำเนินคดีทางอาญาแต่อย่างใด แคโรไลน์ ไลต์ รองศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายการป้องกันตัว […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ใส่หน้ากากประท้วง ผิดกฎหมายในสหรัฐฯ จริงหรือ?

01 กรกฎาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับเหตุประท้วงสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ หรือ ICE ในลอสแอนเจลิสเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศทางสื่อ Truth Social เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2025 ว่าเตรียมออกกฎหมาย ให้การสวมหน้ากากประท้วงรัฐบาลเป็นสิ่งผิดกฎหมาย บทสรุป : 1.ประธานาธิบดีไม่มีอำนาจออกกฎหมายห้ามผู้ชุมนุมใส่หน้ากาก2.หน้ากากถูกมองว่าเป็นเครื่องมือส่งเสริมการแสดงออกตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : กฎหมายห้ามสวมหน้ากากในสหรัฐฯ สหรัฐฯ เคยใช้กฎหมายห้ามสวมหน้ากากตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 โดยปี 1845 รัฐนิวยอร์กได้ผ่านกฎหมายห้ามสวมหน้ากาก เพื่อรับมือเหตุกลุ่มชาวนาประท้วงการเรียกเก็บค่าเช่าย้อนหลัง ด้วยการปลอมตัวเป็นชาวอเมริกันพื้นเมืองและทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในทศวรรษที่ 1950s หลายรัฐได้ออกกฎหมายห้ามสวมหน้ากาก เพื่อรับมือกับกลุ่มก่อการร้าย Ku Klux Klan ที่พรางตัวในชุดคลุมสีขาวระหว่างก่ออาชญากรรมทางเชื้อชาติ แม้หลายรัฐมีความพยายามนำกฎหมายห้ามสวมหน้ากากกลับมาบังคับใช้ แต่ก็มีการโต้แย้งว่าการห้ามสวมหน้ากากคือการขัดขวางการแสดงออกโดยไม่เปิดเผยตัวตน […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ไข้เลือดออกระบาดเพราะยุงลายกลายพันธุ์ จริงหรือ?

30 มิถุนายน 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการระบาดของไข้เลือดออกเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ โดยอ้างว่าเบื้องหลังการแพร่ระบาดของไข้เลือดออกในประเทศบราซิลเมื่อช่วงต้นปี 2024 มีที่มาจากโครงการตัดต่อพันธุกรรมยุงลายโดยบริษัทของประเทศอังกฤษ จนยุงลายกลายพันธุ์ที่เพาะเลี้ยงหลุดไปขยายพันธุ์ต่อในสิ่งแวดล้อม บทสรุป : 1.โครงการเพาะยุงลาย GMO มีจุดประสงค์ป้องกันการระบาดของไข้เลือดออก2.ยุงลาย GMO มีแต่ตัวผู้ซึ่งไม่กัดคน3.ไข่ตัวเมียที่ผสมพันธุ์กับยุงลาย GMO จะไม่ฟักเป็นตัว FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ช่วงต้นปี 2024 ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝนในบราซิล เกิดปัญหาการแพร่ระบาดของไข้เลือดออกจากไวรัสเดงกี่อย่างรุนแรง หลังพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 ล้านรายในช่วง 2 เดือน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 4 เท่า และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 195 ราย แม้โครงการเพาะพันธุ์ยุงลายตัดต่อพันธุกรรมในบราซิล จะนำยุงลายที่เพาะเลี้ยงไปปล่อยยังสิ่งแวดล้อมตามที่กล่าวอ้าง แต่โครงการดังกล่าวไม่ใช่สาเหตุการแพร่ระบาดของไข้เลือดออกในบราซิล เพราะโครงการดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสเดงกี่โดยเฉพาะ โครงการเพาะยุงลาย GMO โครงการดังกล่าวเป็นผลงานของ Oxitec บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพจากประเทศอังกฤษ ที่เพาะเลี้ยงยุงลายสายพันธุ์ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: น้ำใบมะละกอ รักษาไข้เลือดออกได้ จริงหรือ?

28 มิถุนายน 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการระบาดของไข้เลือดออกเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ เมื่อมีการอ้างสรรพคุณของการดื่มน้ำคั้นจากใบมะละกอ สามารถรักษาผู้ป่วยไข้เลือดออกจากไวรัสเดงกี่ได้ เนื่องจากใบมะละกอมีสารเพิ่มเกล็ดเลือด ช่วยในการรักษาไข้เลือดออกได้ผลใน 2 วัน บทสรุป : 1.คุณสมบัติด้านการต้านเกล็ดเลือดต่ำ ทำให้น้ำคั้นจากใบมะละกอถูกนำมาใช้รักษาผู้ป่วยไข้เลือดออกในหลายประเทศ2.แต่งานวิจัยพบว่าประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยไม่ชัดเจน3.ผู้เชี่ยวชาญไม่แนะนำใช้แทนการรักษาทางการแพทย์ FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ด้วยคุณสมบัติด้านการต้านเกล็ดเลือดต่ำ ทำให้น้ำคั้นจากใบมะละกอถูกนำมาใช้รักษาผู้ป่วยไข้เลือดออกในประเทศที่พบการระบาดของไวรัสเดงกี่อย่างแพร่หลาย แต่กระนั้น ประโยชน์โดยรวมของการใช้น้ำคั้นใบมะละกอรักษาผู้ป่วยไข้เลือดออกยังไม่ชัดเจน และจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม งานวิจัยสนับสนุนน้ำคั้นใบมะละกอรักษาผู้ป่วยไข้เลือดออก งานวิจัยปี 2011 ในประเทศปากีสถานพบว่า ใบมะละกอช่วยลดไข้ของผู้ป่วยไข้เลือดออก หลังพบว่าผู้ป่วยเพศชายวัย 45 ปี ดื่มน้ำคั้นใบมะละกอวันละ 2 ครั้งติดต่อกัน 5 วัน จนอาการป่วยทุเลาลง งานวิจัยปี 2013 ในประเทศมาเลเซียพบว่า ในกลุ่มผู้ป่วยไข้เลือดออกจำนวน 228 ที่ดื่มน้ำสกัดจากใบมะละกอ พบว่ามีปริมาณของเกล็ดเลือดเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน งานวิจัยเตือนการใช้น้ำคั้นใบมะละกอรักษาผู้ป่วยไข้เลือดออก แต่กระนั้น […]

ชัวร์ก่อนแชร์: น้ำมันมะพร้าวป้องกันยุงลาย-ไข้เลือดออก จริงหรือ?

26 มิถุนายน 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการระบาดของไข้เลือดออกเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ เมื่อมีการแนะนำให้นำน้ำมันมะพร้าวมาทาที่บริเวณหัวเข่าลงไปจนถึงเท้า เพื่อป้องกันไข้เลือดออกจากการถูกยุงลายกัด เนื่องจากยุงลายจะไม่บินสูงกว่าหัวเข่า และน้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติเป็นยาปฏิชีวนะ บทสรุป : 1.ยุงลายบินได้สูงกว่าถึง 400 เมตร2.น้ำมันมะพร้าวไม่ใช่ยาปฏิชีวนะ3.ยากันยุงป้องกันยุงลายได้ดีที่สุด FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ยุงลายบินได้สูงกว่าถึง 400 เมตร รายงานจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า ยุงลายบ้านหรือ ยุงลายสายพันธุ์ Aedes Aegypti ซึ่งเป็นพาหะของไวรัสเดงกี่ สามารถบินไปหาแหล่งน้ำเพื่อวางไข่ได้สูงถึง 400 เมตร ดังนั้นการอ้างว่ายุงลายจะไม่บินสูงกว่าหัวเข่าจึงไม่เป็นความจริง แม้ปกติจะไม่ค่อยพบยุงในพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,000 เมตร แต่การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน ทำให้เริ่มพบยุงในพื้นที่สูงกว่า 2,000 เมตรได้เช่นกัน น้ำมันมะพร้าวไม่ใช่ยาปฏิชีวนะ แม้จะมีการศึกษาพบว่าน้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและจุลินทรีย์ แต่น้ำมันมะพร้าวไม่สามารถใช้งานแทนยาปฏิชีวนะตามที่กล่าวอ้าง นอกจากนี้ ไข้เลือดออกยังเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี่ ดังนั้นยาปฏิชีวนะซึ่งใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย จึงไม่มีประโยชน์ในการป้องกันหรือรักษาไข้เลือดออกแต่อย่างใด ยากันยุงป้องกันยุงลายได้ดีที่สุด แม้จะมีการศึกษาการใช้สารสกัดจากมะพร้าวเพื่อใช้เป็นยากำจัดแมลง […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ไข้เลือดออกเป็นโรคติดต่อจากคนสู่คน จริงหรือ?

25 มิถุนายน 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : หนึ่งในความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกจากไวรัสเดงกี่ คือความเชื่อว่าการป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกเป็นโรคติดต่อ และเป็นอันตรายต่อคนที่อยู่ใกล้ บทสรุป : 1.ไข้เลือดออกไม่ใช่โรคติดต่อจากคนสู่คน2.ยุงที่กัดผู้ป่วยไข้เลือดออก จะกลายเป็นพาหะไข้เลือดออก3.สตรีมีครรภ์สามารถส่งต่อเชื้อไวรัสเดงกี่ไปยังทารกในครรภ์ได้ FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : อาการของผู้ติดเชื้อไวรัสเดงกี่ ผู้ติดเชื้อไวรัสเดงกี่ส่วนใหญ่ประมาณ 80% ไม่มีอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น เป็นไข้ พบอาการรุนแรงประมาณ 5% และเพียงส่วนน้อยที่อาการรุนแรงและเสี่ยงต่อการเสียชีวิต อาการเฉพาะของไข้เลือดออกคืออาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ และมีผื่น ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง จนกลายเป็นไข้เลือดออกเดงกี่ (Dengue Hemorrhagic Fever) จะทำให้มีเลือดออกง่าย เกล็ดเลือดต่ำ มีการรั่วของพลาสมา หากรุนแรงมากขึ้นเป็นกลุ่มอาการไข้เลือดออกช็อก (Dengue Shock Syndrome) ทำให้ความดันโลหิตต่ำจนเป็นอันตรายและเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ไข้เลือดออกไม่ติดต่อสู่คนได้โดยตรง แม้ผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกจากไวรัสเดงกี่ จะมีอาการหลายอย่างคล้ายโรคติดต่อ แต่ไวรัสเดงกี่จะไม่ติดต่อจากคนสู่คนโดยตรง […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ไข้เลือดออก ป่วยแล้วไม่เป็นซ้ำ จริงหรือ?

24 มิถุนายน 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : หนึ่งในความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกจากไวรัสเดงกี่ คือความเชื่อว่าการป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกจะทำให้ผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสเดงกี่ไปตลอดชีวิต บทสรุป : 1.ไข้เลือดออกจากเชื้อไวรัสเดงกี่สามารถเป็นซ้ำได้ เนื่องจากมี 4 สายพันธุ์2.การป่วยเป็นไข้เลือดออกครั้งที่ 2 จะรุนแรงมากกว่าครั้งแรก จากปรากฏการณ์ ADE3.ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก 2 ชนิด4.Qdenga ที่พัฒนาโดยคนไทย สามารถฉีดได้ทั้งคนที่เคยติดหรือไม่เคยติดไวรัสเดงกี่ FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ไวรัสเด็งกี่มี 4 สายพันธุ์ ไข้เด็งกี่ หรือ ไข้เลือดออก เป็นโรคติดเชื้อซึ่งระบาดในเขตร้อน เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเด็งกี่ แบ่งได้ 4 สายพันธุ์หรือ 4 ซีโรไทป์ได้แก่ 1.DENV-12.DENV-23.DENV-34.DENV-4 การติดเชื้อไวรัสเด็งกี่สายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่ง จะทำให้ผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อไวรัสเด็งกี่สายพันธุ์นั้น ๆ ไปตลอดชีวิต แต่จะมีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสเด็งกี่อีก 3 สายพันธุ์เพียงชั่วคราว ดังนั้น การติดเชื้อไวรัสเดงกี่และการป่วยเป็นไข้เลือดออก […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ชายแปลงเพศเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก จริงหรือ?

20 มิถุนายน 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : มีข้อมูลน่าสงสัยเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ เมื่อมีการแชร์ข้อมูลล้อเลียนสมาคมโรคมะเร็งของประเทศแคนาดา ที่แนะนำให้สตรีข้ามเพศตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ทั้ง ๆ ที่คนเหล่านั้นไม่มีมดลูก บทสรุป : 1.คำแนะนำไม่ได้ระบุถึงสตรีข้ามเพศที่ยังไม่ผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเพศ2.สตรีข้ามเพศที่ผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเพศ (Bottom Surgery) มีความเสี่ยงเล็กน้อยต่อมะเร็งปากมดลูก FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ในความเป็นจริง คำแนะนำของสมาคมโรคมะเร็งของประเทศแคนาดา (Canadian Cancer Society) เน้นไปที่สตรีข้ามเพศที่ผ่านการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเพศ (Bottom Surgery) แล้วเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับสตรีข้ามเพศที่ยังไม่เข้ารับการผ่าตัดแต่อย่างใด การผ่าตัดแปลงเพศ จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ การผ่าตัดเต้านมหรือการผ่าตัดเสริมเต้านม (Top Surgery) และการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเพศ (Bottom Surgery) การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเพศ (Bottom Surgery) ซึ่งรวมถึงการผ่าตัดอัณฑะ มดลูก และรังไข่ จะเริ่มหลังจากผู้เข้ารับการผ่าตัดมีอายุ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: วัคซีนโควิด-19 ทำให้เด็กข้ามเพศ จริงหรือ?

18 มิถุนายน 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ เมื่อมีการเผยแพร่ความเชื่อว่า สาเหตุที่ประชากรหลากหลายทางเพศและคนข้ามเพศเพิ่มขึ้นในสังคม เป็นผลจากการรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19 เนื่องจากวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA พัฒนาจากเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ เมื่อฉีดเข้าไปแล้วดีเอ็นเอของตัวอ่อนมนุษย์ซึ่งมีเพศที่แตกต่างจากเพศของผู้รับวัคซีน จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของผู้รับวัคซีน ทำให้ผู้รับวัคซีนมีพฤติกรรมทางเพศเบี่ยงเบนในที่สุด รวมถึงข้ออ้างที่ว่าวัคซีนจะเข้าไปกระตุ้นยีนเกย์ที่ซ่อนอยู่ในตัวผู้รับวัคซีนซึ่งถ่ายทอดทางพันธุกรรมมาจากพ่อแม่ ทำให้ผู้รับวัคซีนมีพฤติกรรมทางเพศเบี่ยงเบนเช่นกัน ซึ่งการกล่าวอ้างทั้งหมด ได้รับการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญว่าไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย บทสรุป : 1.มนุษย์ไม่มียีนเกย์2.ความเบี่ยงเบนทางเพศเริ่มตั้งแต่เป็นตัวอ่อน3.วัคซีนโควิด-19 เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมไม่ได้ FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : วัคซีนโควิด-19 เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมไม่ได้ ดร.พอล ออฟฟิต แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนและกุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาล Children’s Hospital of Philadelphia อธิบายว่า เซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ถูกนำมาใช้เพาะเลี้ยงเชื้อไวรัสเพื่อการพัฒนาวัคซีนหลายชนิด ทั้งวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ วัคซีนอีสุกอีใส หรือหัดเยอรมัน โอกาสที่ดีเอ็นเอตกค้างจากวัคซีนจะส่งผลต่อพันธุกรรมของผู้รับวัคซีนแทบเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากก่อนจะนำมาฉีดให้กับประชาชน จะต้องผ่านกระบวนการทำให้วัคซีนมีความบริสุทธิ์ ซึ่งปริมาณดีเอ็นเอตกค้างจากเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ที่หลงเหลืออยู่ในวัคซีนมีขนาดเล็กมาก หรือประมาณพิโกกรัมหรือ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ยาฆ่าหญ้าปนเปื้อนน้ำดื่มทำให้เด็กข้ามเพศ จริงหรือ?

17 มิถุนายน 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศเผยแพร่ในต่างประเทศ เมื่อ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐ พรรครีพับลิกัน เคยให้สัมภาษณ์ระหว่างหาเสียงเพื่อลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า Atrazine สารกำจัดวัชพืชที่ใช้อย่างแพร่หลายในสหรัฐฯ คือสาเหตุทำให้เยาวชนอเมริกัน โดยเฉพาะเพศชายมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศมากขึ้น เนื่องจากมีการทดลองกับกบพบว่า กบเพศผู้ที่สัมผัสสาร Atrazine กลายเป็นหมันและพัฒนาอวัยวะเพศของตัวเมีย ดังนั้น สาร Atrazine ที่ปนเปื้อนในแหล่งน้ำ เมื่อดื่มเข้าสู่ร่างกายจะส่งผลกระทบต่อความสมดุลของฮอร์โมน และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางเพศในที่สุด บทสรุป : 1.การสัมผัสสาร Atrazine อย่างต่อเนื่องทำให้กบตัวผู้กลายเป็นตัวเมีย2.มนุษย์สามารถขับสาร Atrazine ทางปัสสาวะ และจะไม่ก่อให้เกิดการข้ามเพศ FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : งานวิจัย Atrazine กับการเปลี่ยนเพศในกบ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: การข้ามเพศคือการป่วยทางจิต จริงหรือ?

16 มิถุนายน 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศเผยแพร่ในต่างประเทศ เมื่อ วิเวก รามาสวามี นักธุรกิจและผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐโอไฮโอจากพรรครีพับลิกัน กล่าวระหว่างการหาเสียงว่า การข้ามเพศ โดยเฉพาะในเด็ก คือความผิดปกติทางจิต บทสรุป : 1.WHO ยกเลิกการข้ามเพศจากบัญชีความผิดปกติทางจิตตั้งแต่ปี 20192.การข้ามเพศถูกย้ายมายังหมวดภาวะที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพทางเพศ FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : อย่างไรก็ดี แม้ Transsexualism หรือการข้ามเพศ จะเคยจัดเป็นหนึ่งในความผิดปกติทางจิตโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) แต่ปัจจุบันการข้ามเพศไม่ถือเป็นความผิดปกติทางจิตอีกต่อไป WHO ยกเลิกการข้ามเพศจากบัญชีความผิดปกติทางจิตตั้งแต่ปี 2019 บัญชีจำแนกทางสถิติสากลเกี่ยวกับโรคและปัญหาสุขภาพ (International Statistical Classification of Diseases and Related Health Problems : ICD) ฉบับล่าสุดในปี 2019 หรือ […]

1 2 3 42