ชัวร์ก่อนแชร์: ผู้อพยพคือตัวการนำ Fentanyl มาแพร่ในสหรัฐฯ จริงหรือ?

10 กันยายน 2568
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ข้อมูลน่าสงสัย :

มีข้อมูลน่าสงสัยเกี่ยวกับการระบาดของ Fentanyl ยาบรรเทาปวดที่ถูกใช้เป็นสารเสพติดในสหรัฐอเมริกา เมื่อมีความเชื่อว่า สาเหตุที่ยา Fentanyl ระบาดในสหรัฐฯ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เพราะการนำเข้ามาเผยแพร่โดยกลุ่มผู้อพยพจากประเทศเพื่อนบ้านที่เดินทางเข้ามายังสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย จน โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใช้เป็นเหตุผลขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศแคนาดาและเม็กซิโกถึง 25%

บทสรุป :

1.ผู้ลักลอบนำยา Fentanyl เข้ามายังสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกัน
2.แต่การโจมตีทางการเมือง ทำให้ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่าเป็นการลักลอบโดยผู้อพยพ

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

คนอเมริกันเกือบครึ่งเชื่อว่าผู้อพยพนำยา Fentanyl เข้ามายังสหรัฐฯ

ผลสำรวจของบริษัทวิจัยตลาด Ipsos เมื่อปี 2022 พบว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของชาวอเมริกันมีความเชื่อว่า การระบาดของยา Fentanyl ในสหรัฐฯ มีสาเหตุจากผู้อพยพผิดกฎหมายลักลอบนำเข้ามาทางชายแดน

เมื่อแบ่งตามพรรคการเมืองที่สนับสนุน พบว่าผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันมีความเชื่อดังกล่าว 70% ผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตมีความเชื่อดังกล่าว 35%

ยอดตรวจยึดยา Fentanyl ในสหรัฐฯ

นับตั้งแต่ปี 2019-2023 ยอดการตรวจยึดยา Fentanyl ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นทุกปี

ข้อมูลของสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ (CBP) พบว่า การตรวจยึดยา Fentanyl ในสหรัฐฯ แซงหน้าเฮโรอีนไปแล้ว โดยปี 2019 มีการตรวจยึดยาในกลุ่มโอปิออยด์ ที่เป็นยา Fentanyl แค่ 32% กระทั่งปี 2024 สัดส่วนของการตรวจยึดยาในกลุ่มโอปิออยด์ที่เป็นยา Fentanyl สูงถึง 94%

ข้อมูลประจำเดือนสิงหาคม 2025 ของเว็บไซต์ usafacts.org พบว่า การตรวจยึดยา Fentanyl ในเดือนกรกฎาคมเพิ่มจากเดือนมิถุนายนที่ 30%

ยอดการตรวจยึดยา Fentanyl ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2025 อยู่ที่ 5,603 ปอนด์ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2024 ประมาณ 56%

ยา Fentanyl เข้าสหรัฐฯ ทางชายแดนใต้เป็นหลัก

ผลสำรวจโดยองค์กรผู้อพยพอเมริกัน (American Immigration Council) และสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ (CBP) ที่รวบรวมข้อมูลการตรวจยึดยา Fentanyl ระหว่างเดือนมกราคม 2021 ถึงเดือนพฤษภาคม 2024 พบว่า ช่องทางที่มีการตรวจยึดยา Fentanyl ที่ลักลอบเข้าสู่สหรัฐฯ บ่อยที่สุดคือ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (519 ครั้ง) รองลงมาคือจุดตรวจชายแดน (101 ครั้ง)

สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ (CBP) พบว่า ในช่วงปีงบประมาณปี 2024 มีการตรวจยึดยา Fentanyl ที่ลักลอบผ่านชายแดนทางใต้จากประเทศเม็กซิโกปริมาณ 21,148 ปอนด์ ลดจากปี 2023 ที่ตรวจยึดได้ 26,718 ปอนด์

ส่วนการตรวจยึดยา Fentanyl ที่ลักลอบผ่านชายแดนทางเหนือจากประเทศแคนาดาในปี 2024 มีปริมาณเพียง 43 ปอนด์ โดยเพิ่มจากปี 2002 และ 2023 ที่ 14 ปอนด์ และ 2 ปอนด์

เป็นข้อมูลที่ยืนยันว่า การลักลอบนำเข้ายา Fentanyl ทางชายแดนใต้จากเม็กซิโก เป็นปัญหาหลักมากกว่าการลักลอบทางชายแดนเหนือจากแคนาดา

ผู้ลักลอบส่วนใหญ่คือชาวอเมริกัน

ข้อมูลปี 2023 จากกระทรวงความมั่นคงภายในสหรัฐฯ พบว่า ปริมาณยา Fentanyl ที่ตรวจยึดได้มากที่สุด คือยาที่ขนส่งผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในรถยนต์ที่ขับโดยพลเมืองชาวอเมริกัน

เนื่องจากเชื่อว่า ชาวอเมริกันสามารถผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้อย่างง่ายดาย แก๊งค้ายาจากเม็กซิโกจึงหันมาว่าจ้างชาวอเมริกันให้ลักลอบนำยา Fentanyl เข้าสู่ประเทศมากขึ้น

ข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ (CBP) พบว่า ระหว่างปี 2019-2024 การตรวจยึดยา Fentanyl มาจากผู้ลักลอบที่มีสัญชาติอเมริกันถึง 81.2%

ปริมาณที่ตรวจยึดได้แตกต่างกันไปตามวิธีการ ในกลุ่มผู้ลักลอบนำเข้าเพียงลำพัง พบการลักลอบยา Fentanyl ตั้งแต่จำนวน 2 กรัมไปจนถึงผู้นำยา Fentanyl มาพันรอบตัวกว่า 33,220 เม็ด

การตรวจยึดจำนวนมากมักพบในการลักลอบด้วยยานพาหนะ ส่วนใหญ่จะพบยา Fentanyl น้ำหนักตั้งแต่ 5 ปอนด์ขึ้นไป ทั้งรายที่ซ่อนยาในท่อร่วมไอดีของรถมอเตอร์ไซค์จำนวน 28,400 เม็ด และการซ่อนในรถบรรทุกขนถั่วฝักยาวปริมาณ 3 ล้าน 5 แสนเม็ด

ผู้กระทำความผิดมักเป็นชาวอเมริกันอายุ 20-30 ปี ซึ่งมีปัญหาทางการเงิน และถูกชักชวนจากแก๊งค้ายาจากเม็กซิโกด้วยเงินว่าจ้างขนส่งต่อครั้งประมาณ 1,000-10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ บางครั้งยังมีการมอบรถยนต์เพื่อการลักลอบขนยาเข้าสหรัฐฯ โดยเฉพาะ

องค์กรผู้อพยพอเมริกัน สรุปว่า การแก้ปัญหาลักลอบขนยา Fentanyl ผ่านชายแดนสหรัฐฯ ควรเน้นการตรวจตราที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองซึ่งเป็นช่องทางหลักที่พบการตรวจยึดมากที่สุด ด้วยการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่และนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้การตรวจหายา Fentanyl มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกับสนับสนุนมาตรการปราบปรามการจำหน่ายยา Fentanyl ภายในประเทศเพื่อให้ความต้องการยาลดลง และลดการว่าจ้างผู้ลักลอบขนยาหน้าใหม่ในอนาคต

การแก้ปัญหาที่ตรงจุด จะช่วยบรรเทาวิกฤตการแพร่ระบาดของยา Fentanyl ได้อย่างมีประสิทธิผล มากกว่าการโยนบาปไปยังกลุ่มผู้อพยพที่ถูกใส่ร้ายอย่างไม่เป็นธรรมในอาชญากรรมที่พวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.americanimmigrationcouncil.org/fact-sheet/fentanyl-smuggling/
https://www.ipsos.com/en-us/news-polls/npr-immigration-perceptions-august-2022
https://usafacts.org/answers/how-much-fentanyl-is-seized-at-us-borders/country/united-states/
https://www.factcheck.org/2025/01/illegal-immigration-and-fentanyl-at-the-u-s-northern-and-southwest-borders/