ส.ป.ก.โคราช ถูกกรมอุทยานฯ ร้อง ป.ป.ช.กรณีออก ส.ป.ก.4-01 ทับที่เขาใหญ่

นครราชสีมา 18 ก.พ. – กรมอุทยานฯ ร้อง ป.ป.ช. และพนักงานสอบสวน สภ.หมูสี ให้สอบสวนผู้เกี่ยวข้องกับการออก ส.ป.ก.4-01 ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยเห็นว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีลักษณะเป็นขบวนการแบ่งหน้าที่กันทำ เบื้องต้นกล่าวโทษปฏิรูปที่ดินโคราช ผู้เขียนแผนที่ และผู้ตรวจเอกสารรับรองสิทธิ


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกล่าวว่า ได้รายงานต่อพล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถึงการที่คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ ได้รวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งต่อเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อให้ตรวจสอบและสอบสวนข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในการรังวัดและกำหนดรูปแปลงส.ป.ก. 4-01 ซึ่งปรากฏในเว็บไซต์ของสำนักจัดการแผนที่และสารบบที่ดิน (สผส.) การฝังหลักหมุด ส.ป.ก. และออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

นอกจากนี้ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 ยังร้องขอให้พนักงานสอบสวนสภ. หมูสีสอบสวนการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยผู้ถูกกล่าวโทษคือ นายอัครเดช เรียนหิน ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาซึ่งผู้ลงนามในหนังสืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) นายวัฒวี วิเลิศรัมย์ ผู้เขียนแผนที่ (ส.ป.ก.4-01) และนางปรียาภรณ์ เพิ่มแสงสุขกุล ผู้ตรวจเอกสารรับรองสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 และ/หรือบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่สนับสนุนให้เกิดการกระทำผิด


ทั้งนี้เป็นการดำเนินการหลังจากที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาตินำคณะเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ เข้าตรวจสอบพื้นที่ในหมู่บ้านเหวปลากั้ง ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาซึ่งตรวจพบการบุกรุกแผ้วถางที่ดิน โดยผู้บุกรุกอ้างเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 และพบการฝังหลักหมุดส.ป.ก.4-01 จำนวนมากภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ติดกับถนนป่าไม้ลำลองซึ่งเป็นแนวเขตอุทยานแห่งชาติ มีสภาพป่าดิบแล้งอุดมสมบูรณ์และพบร่องรอยการใช้ประโยชน์ของสัตว์ป่าเช่น เก้ง ช้าง กระทิง เป็นต้น

คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันรื้อถอนหลักหมุดเขตส.ป.ก. ที่ตรวจพบทั้งสิ้น 27 หมุด เสาหลักเขต 5 ต้น รื้อถอนต้นมะม่วงที่ปลูกเพื่อยึดครองพื้นที่ 20 ต้น และรื้อถอนป้ายประกาศที่แสดงการได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน 1 ป้าย

จากนั้นจัดทำบันทึกการตรวจสอบ/ตรวจยึดเพิ่มเติมเพื่อแจ้งความกล่าวโทษผู้กระทำผิดและร้องขอให้พนักงานสอบสวนสอบสวนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการออกส.ป.ก. 4-01 ดังกล่าว


คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ เห็นว่า พฤติการณ์ของผู้กระทำผิดเป็นการกระทำเป็นขบวนการสนับสนุนเกี่ยวข้องกันและมีการแบ่งหน้าที่กันเพื่อออกเอกสารส.ป.ก. 4-01 โดยมิชอบในเขตป่าอนุรักษ์ โดยพบว่า มีออกเอกสารส.ป.ก. 4-01 ทับซ้อนกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่รวม 972-2-79 ไร่ และมีการทับซ้อนในพื้นที่ป่าไม้ตามพ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 อีก 486-1-74 ไร่

สำหรับการตรวจสอบพบการออกเอกสาร ส.ป.ก. 4-01 ซึ่งทับซ้อนเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เกิดขึ้นจากการที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ออกตระเวนเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2566 พบการบุกรุกพื้นที่และปรับสภาพโดยใช้เครื่องจักร บริเวณนี้ติดถนนแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รวมถึงพบป้ายแสดงเอกสารส.ป.ก.4-01 พื้นที่บุกรุก 3-3-93 ไร่ แต่ไม่พบบุคคลใดในที่เกิดเหตุจึงแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ. หมูสี ต่อมาเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2566 พบการไถปรับพื้นที่และดันต้นไม้ออก ในที่ดินแปลงเดิม โดยจับกุมนายสหรัฐ ทศกระโทกกับพวกรวม 2 คน รถแทรกเตอร์ 2 คัน พร้อมอุปกรณ์หยอดข้าวโพดและอุปกรณ์พรวนดิน นำส่งสภ.หมูสีดำเนินคดี

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2566 สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา (ส.ป.ก. นครราชสีมา) ออกประกาศสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา กรณีเฉพาะราย เรื่อง ผลการคัดเลือกและอนุญาตให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา (ประเภทแปลงเกษตรกรรม) มาเพื่อทราบโดยทั่วกัน หากผู้ใดประสงค์คัดค้านให้ยื่นคำร้องที่ส.ป.ก. นครราชสีมา ภายในกำหนด 30 วันนับแต่วันประกาศเป็นต้นไป โดยในหมู่ที่ 10 บ้านเหวปลากั้ง ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เนื้อที่รวมประมาณ 73-0-37 ไร่ ปรากฏรายชื่อรวม 3 ราย 3 แปลง ปรากฏชื่อ ได้แก่

(1) น.ส.กมลรัตน์ คำชมภู (นายอดิลักษณ์ เผ่าจันทึก) เนื้อที่ 20 ไร่

(2) นางเพียงตะวัน เผ่าจันทึก เนื้อที่ 38-0-37 ไร่

(3) นายพนวรรฒห์ ศิริธนธิปชัยกูร (นางนิตยา สังเกตุกิจ) เนื้อที่ 15 ไร่

ทั้งนี้ส.ป.ก. นครราชสีมาแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 ตำบลหมูสีปิดประกาศผลการคัดเลือกและอนุญาตฯ นายกิติศักดิ์ พรหมพินิจ ผู้ใหญ่บ้านบ้านเหวปลากั้ง หมู่ที่ 10 ส่งหนังสือถึงนายอัครเดช เรียนหิน ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาเพื่อขอทราบตำแหน่งแปลงที่ดินและรูปแปลงของทั้ง 3 ราย ตามที่ออกประกาศเนื่องจากรายชื่อตามบัญชีดังกล่าวไม่ใช่ราษฎรในพื้นที่ของตน โดยวันที่ 18 ตุลาคม 2566 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ส.ป.ก. นครราชสีมา กำนันตำบลหมูสี ผู้ใหญ่บ้านบ้านเหวปลากั้ง หมู่ที่ 10 ร่วมกันตรวจสอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่พบว่า มีการปักหมุดส.ป.ก. เข้ามาในเขตอุทยานแห่งชาติ 5 หมุด ระยะทางประมาณ 300 เมตร

ต่อมาวันที่ 20 ตุลาคม 2566 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ทำหนังสือขอให้ส.ป.ก. นครราชสีมารื้อถอนหลักหมุดทั้ง 5 หมุดออกจากเขตอุทยานแห่งชาติ จากนั้นวันที่ 31 ตุลาคม 2566 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ทำหนังสือคัดค้านการปักหลักหมุด ส.ป.ก. ในเขตอุทยานแห่งชาติตามประกาศสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา

ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ตรวจยึดพื้นที่บุกรุก เนื้อที่ประมาณ 1-2-80 ไร่ซึ่งมีการปักหลักหมุดส.ป.ก. เข้ามาในเขตอุทยานแห่งชาติ 5 หมุด ระยะทางยาวประมาณ 300 เมตร โดยไม่พบบุคคลใดในที่เกิดเหตุ แจ้งความไว้ที่สภ. หมูสี

ส.ป.ก. นครราชสีมาออกประกาศสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เรื่อง ผลการคัดเลือกและอนุญาตให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา (ประเภทแปลงเกษตรกรรม) ในพื้นที่หมู่ 10 บ้านเหวปลากั้งอีกครั้งใน 23 พฤศจิกายน 2566 เนื้อที่รวมประมาณ 72-2-27 ไร่ ปรากฏรายชื่อรวม 5 ราย 5 แปลงได้แก่

(1) น.ส.กมลรัตน์ คำชมภู เนื้อที่ 20-0-11 ไร่

(2) นางเพียงตะวัน เผ่าจันทึก เนื้อที่ 11-0-6 ไร่

(3) นายพนวรรท์ ศิริธนธิป (นิตยา สังเกตุกิจ) เนื้อที่ 15-0-49 ไร่

(4) นายกฤษณะ เล้งวิลาศ เนื้อที่ 10-3-56 ไร่

(5) นายศศิไกรวี กุลจิราช (นางสุกมรัตน์ กุลจิราช) เนื้อที่ 15-2-05 ไร่

จากนั้นวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ส.ป.ก. นครราชสีมาแจ้งอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ว่า จากการตรวจสอบค่าพิกัดทั้ง 5 หมุดตามที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ทำหนังสือให้รื้อถอนหลักหมุด พบว่า แปลงที่ดินตั้งอยู่ในพื้นที่ดำเนินการปฏิรูปที่ดิน ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่อำเภอสีคิ้ว อำเภอสูงเนิน และอำเภอปากช่องให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2534 โดยแปลงที่ดินตั้งอยู่ในโครงการที่จำแนกฯ ป่าเขาใหญ่

ในวันที่ 23 มกราคม 2567 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ พร้อมด้วยนายสมฤกษ์ ศุภมิตรกฤษณา ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (สบอ. 1) (ปราจีนบุรี) นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และนายกิติศักดิ์ พรหมพินิจ ผู้ใหญ่บ้านบ้านเหวปลากั้ง หมู่ที่ 10 พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณพื้นที่ที่พบการบุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ที่มีการฝังหลักหมุดและออกเอกสาร ส.ป.ก. 4-0 1 ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยผู้ใหญ่บ้านบ้านยืนยันว่า รายชื่อตามบัญชีคัดเลือกเกษตรกรให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินซึ่งส.ป.ก. นครราชสีมาได้ออกประกาศ 2 ครั้งคือ ครั้งที่ 1 ช่วงเดือน พฤศจิกายน 2566 จำนวน 3 ราย และครั้งที่ 2 ช่วงเดือนธันวาคม 2566 จำนวน 5 ราย ไม่ใช่ราษฎรที่อยู่ในพื้นที่

ทั้งนี้ผู้ใหญ่บ้านได้รับหนังสือ ส.ป.ก. นครราชสีมา แจ้งให้ปิดประกาศผลการคัดเลือกและอนุญาตฯ มาเพื่อทราบโดยทั่วกัน ปรากฏรายชื่อรวม 3 ราย 3 แปลง เนื้อที่รวมประมาณ 73-0-37 ไร่ แต่ตนเองไม่ทราบว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในตำแหน่งใดจึงได้ส่งหนังสือถึงนายอัครเดช เรียนหิน ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาเพื่อขอทราบตำแหน่งแปลงที่ดินและรูปแปลงของทั้ง 3 ราย ตลอดจนประสานกับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จึงทำให้ทราบว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ส่วนการที่มีการออกเอกสารส.ป.ก.4-01 ให้แก่นายพนวรรฒท์ ศิริธนธิปชัยกูรนั้น ไม่ทราบและไม่เคยเข้าร่วมสำรวจพื้นที่กับเจ้าหน้าที่ของส.ป.ก. นครราชสีมา รวมถึงไม่ได้ลงลายมือชื่อเพื่อรับรองหรือยืนยันรายชื่อเกษตรกรหรือรับรองพื้นที่แต่อย่างใด จาการตรวจสอบย้อนหลังยังพบว่า ส.ป.ก. นครราชสีมาออกเอกสารส.ป.ก.4-01 ให้แก่นายพนวรรฒห์ ศิริธนธิปชัยกูร อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ที่ 5 ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 โดยที่อุทยานแห่งชาติและผู้ใหญ่บ้านไม่ทราบอีกด้วย

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่รายงานต่ออธิบดีกรมอุทยานฯ ถึงเหตุการณ์บุกรุกพื้นที่ ฝังหลักหมุด และออกเอกสาร ส.ป.ก.4-01 ในท้องที่บ้านเหวปลากั้ง โดยระบุว่า แนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จะมีแนวถนนตรวจการณ์เป็นแนวยาวชัดเจน ราษฎรในพื้นที่ทราบดีว่า เป็นเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณพื้นที่ที่พบหลักหมุดส.ป.ก. ฝังอยู่ 10 หมุดโดยขนานตามแนวถนนตรวจการณ์ ถนนดังกล่าวเป็นแนวเขตของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สภาพพื้นที่โดยส่วนใหญ่มีสภาพเป็นป่าดิบแล้งที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ และมีบึงน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่เหมาะสำหรับเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและหากินของสัตว์ป่า โดยเฉพาะช้างป่า เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีสภาพป่าที่ไม่รกทึบจนเกินไป ไม่พบร่องรอยการใช้ประโยชน์ของมนุษย์

สำหรับพื้นที่ที่ถูกบุกรุกซึ่งนายพนวรรฒท์ ศิริธนธิปชัยกูรอ้างว่า มีเอกสารสิทธิในที่ดินแปลงดังกล่าว ตามเอกสาร ส.ป.ก. 4-01 แปลงเลขที่ 9 ระวาง ส.ป.ก. ที่ 5238ll5008 นั้น พบมีการติดป้ายบริเวณทางเข้าแปลงข้อความว่า “ประกาศ ที่ดินแปลงนี้มีเกษตรกรได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ตามระเบียบ พระราชกฤษฎีกา พระราชบัญญัติปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรถูกต้องตามกฎหมาย ห้าม ผู้ใดเข้ามาคุกคามสิทธิโดยเด็ดขาด” พร้อมแสดงภาพเอกสาร ส.ป.ก.4-01 ที่ได้รับการอนุญาตจากปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา มีการปรับสภาพพื้นที่ด้วยการไถและดันต้นไม้ออกเพื่อเปิดพื้นที่ทำการเกษตร มีการปลูกต้นมะม่วง 20 ต้น ลักษณะต้นมะม่วงที่พบเป็นต้นไม้ที่เกิดจากกิ่งชำในกระถาง คาดว่า ซื้อมาจากร้านขายต้นไม้ เนื่องจากที่ตุ้มดินมีขุยมะพร้าวหุ้มอยู่และเขียนชนิดพันธุ์ของต้นมะม่วงไว้ที่ไม้ปักหลักของแต่ละต้น นอกจากนี้ยังพบกองมูลและร่องรอยการใช้ประโยชน์ของสัตว์ป่าเช่น ช้าง กระทิง เก้ง เป็นต้น

บริเวณท้ายแปลง พบหลักหมุด ส.ป.ก. 2 หมุด ระยะห่างประมาณ 6 เมตร เมื่อเล็งแนวเขตกลับไปยังหมุดส.ป.ก. บริเวณที่ขนานกับถนนตรวจการณ์ ทำให้คาดการณ์ได้ว่า อาจเป็นการแบ่งแถวเพื่อทำถนนลงในพื้นที่ พร้อมสั่งการให้แจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าของแปลงเพิ่มเติมในความผิดตามพ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ในการทำไม้เนื่องจากมีการดันไม้ป่าในพื้นที่ล้มลงเป็นจำนวนมาก รวมถึงตรวจนับไม้ป่าที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในพื้นที่เพื่อเป็นข้อมูลไว้ด้วย

จากเหตุดังกล่าว ทำให้ในวันที่ 24 มกราคม 2567 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในพื้นที่คดีตรวจยึดจับกุมเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 ต่อนายพนวรรฒท์ ศิริธนธิปชัยกูรกับพวกรวม 5 คน ฐานความผิดตาม มาตรา 19 (2) และ 19 (6) พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และฐานความผิดตามมาตรา 11 69 และ 73 วรรค 2(1) พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 เนื่องจากในพื้นที่ปรากฏพบการกานต้นไม้ ถูกไถดัน ตัดทอน พบไม้กระถิ่นป่า 23 ท่อนและไม้สีเสียดแก่น 5 ท่อน ปริมาตรไม้รวม 2.289 ลบ.ม.

การตรวจสอบพบการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และการออกเอกสารส.ป.ก. 4-01 ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จึงนำมาสู่การแจ้งความกล่าวโทษผู้บุกรุก รวมถึงการขอให้สอบสวนการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของพนักงานเจ้าหน้าที่กรณีออกเอกสารส.ป.ก. 4-01 ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องที่สนับสนุนให้เกิดการกระทำผิดต่อพนักงานสอบสวนและต่อป.ป.ช.- 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง