กรมการค้าภายในลุยตรวจปั๊ม-ขนส่ง-เครื่องชั่งกระเป๋า สนามบิน

กรุงเทพฯ 26 ธ.ค. – กรมการค้าภายในตรวจเข้ม ตรวจสอบมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง ปิดป้ายแสดงราคาอาหารสถานีขนส่ง ตรวจเครื่องชั่งกระเป๋าสนามบินให้มีความเที่ยงตรง เน้นประชาชนต้องได้รับความเป็นธรรม สร้างความมั่นใจครอบคลุมทุกการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ หากพบทำผิดดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่เด็ดขาด


นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน พร้อมเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก สาขา จตุจักร ตรวจสอบมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมเปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญในการรักษาความเป็นธรรมให้กับประชาชน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ที่ประชาชนออกเดินทางกลับต่างจังหวัดและท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก กรมการค้าภายในจึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสถานีบริการน้ำมัน สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ และสนามบิน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่มอบหมายให้กรมการค้าภายในรักษาความเป็นธรรมให้กับประชาชน

สำหรับการตรวจสอบมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สายตรวจคุมเข้มการตรวจสอบมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิงตามสถานีบริการ ตามเส้นทางการเดินรถที่เป็นรอยต่อของจังหวัดกรุงเทพฯและปริมณฑล มุ่งหน้าออกสู่ต่างจังหวัด และในเขตพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ตามที่ได้มีการปล่อยขบวนรถสายตรวจเฉพาะกิจ ออกตรวจสอบอย่างน้อย 2,000 สถานี ครอบคลุมประมาณ 60,000 หัวจ่าย โดยตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. – 24 ธ.ค. 2567 ตรวจสอบแล้ว 4,702 สถานี 93,381 หัวจ่าย สูงกว่าเป้าหมาย 2,702 สถานี 33,369 หัวจ่าย พบหัวจ่ายถูกต้องทั้งหมด และประชาชนสามารถมั่นใจได้มากยิ่งขึ้น หากพบเห็นสถานีบริการน้ำมันที่เข้าร่วมโครงการ “หัวจ่ายเชื้อเพลิงมาตรฐาน” ซึ่งกรมได้มอบป้ายสัญลักษณ์โครงการให้แก่บริษัทผู้ค้าน้ำมันที่ให้ความร่วมมือกับกรม สมัครเข้าร่วมโครงการ และรายงานผลการตรวจสอบให้กรมทราบเป็นประจำทุกเดือนตามเงื่อนไขโครงการ ปัจจุบันมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 7,000 สถานี


พร้อมกันนี้ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบการ ณ สถานีกลางบางซื่อ และสถานีขนส่งหมอชิต 2 ให้มีการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและค่าบริการอย่างชัดเจน รวมทั้งกำชับให้คิดค่าสินค้าและบริการให้ตรงกับป้ายราคาที่แสดงไว้ เพื่อป้องปรามมิให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาจำหน่ายสินค้าและบริการสูงเกินสมควร และได้ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจสอบผู้จำหน่ายสินค้าละผู้ให้บริการตามสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งอื่นๆ เช่น สถานีขนส่งเอกมัย สถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้ ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ สำหรับในภาพรวมปีนี้ราคาจำหน่ายสินค้าและค่าบริการบริเวณสถานีกลางบางซื่อ และสถานีขนส่งหมอชิต 2 ส่วนใหญ่มีราคายังคงทรงตัวใกล้เคียงกับปีที่แล้ว เช่น ข้าวราดแกง 1 อย่าง ราคา 40-50 บาท/จาน ข้าวราดแกง 2 อย่าง ราคา 50-60 บาท/จาน ข้าวผัดหมู/ไก่ ราคา 40-60 บาท/จาน ก๋วยเตี๋ยวหมู 40-50 บาท/ชาม น้ำขวดเพท ขนาด 600 มล. ราคา 7-10 บาท/ขวด ค่าบริการรับฝากสัมภาระตู้อัตโนมัติ ที่สถานีกลางบางซื่อ ราคา 60 บาท/ชม. ที่สถานีขนส่งหมอชิต เริ่มต้นที่ 30 บาท/ชิ้น (ราคาตามขนาดของกระเป๋า)

นอกจากนี้ ยังลงพื้น ท่าอากาศยานดอนเมือง ตรวจสอบเครื่องชั่งน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่เดินทางโดยเครื่องบิน โดยได้สั่งการให้นายตรวจชั่งตวงวัดทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคออกตรวจสอบเครื่องชั่งน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระในท่าอากาศยานพาณิชย์ทั้ง 31 แห่งทั่วประเทศ ให้มีความถูกต้องเที่ยงตรง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน เนื่องจากน้ำหนักของกระเป๋าสัมภาระมีผลต่อการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมของสายการบิน โดยได้ดำเนินการตรวจสอบระหว่างวันที่ 1 ธ.ค. – 24 ธ.ค.67 ครบถ้วนแล้วทั้ง 31 แห่ง 1,078เครื่อง แยกเป็น เครื่องชั่งดิจิทัล 1,069 เครื่อง และเครื่องชั่งสปริง 9 เครื่อง ถูกต้องครบถ้วนทั้งหมด

“ขอให้ประชาชนเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างมั่นใจ กรมการค้าภายในจะดูแลเอาใจใส่ในการซื้อสินค้าและบริการให้แก่ประชาชนอย่างเต็มที่ และขอให้ประชาชนอย่าลืมรักษาสิทธิผู้บริโภค หากพบเห็นการจำหน่ายสินค้าและบริการที่ไม่เป็นธรรม สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือ Line@MR.dit หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ หากพบการกระทำผิดจริงกรมการค้าภายในจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เช่น กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควรกักตุนสินค้า และปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับสถานีบริการน้ำมันใดที่ถูกตรวจพบว่าใช้มาตรวัดที่ไม่ถูกต้อง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีพบว่ามีการดัดแปลงมาตรวัดจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีผู้ที่ใช้เครื่องชั่งโดยที่รู้อยู่ว่าเครื่องชั่งนั้นแสดงผลผิดหรือไม่เที่ยงตรงเกินกฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าว.-516-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

ตาวัย 71 ปี ขับรถพุ่งชนรถพ่วงเสียชีวิต

สมุทรสงคราม 13 ก.ค.-ตาวัย 71 ปี ขับเก๋งพุ่งชนกลางลำรถพ่วงบรรทุกเสาเข็มขณะกำลังกลับรถ เสียชีวิตบนถนนสมุทรสงครามบางแพ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะรถพ่วงบรรทุกเสาเข็มกำลังกลับรถทำให้ตัวรถขวางถนน จังหวะนั้นรถเก๋ง ขับมาด้วยความเร็ว พุ่งชนเข้ากลางลำรถพ่วง เหตุเกิดบนถนนสมุทรสงครามบางแพ บริเวณจุดกลับรถหน้าโรงบรรจุแก๊สหุงต้ม ฝั่งขาเข้าแม่กลอง ม.9 ต.บางช้าง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ช่วงเวลา 19.18 น.วานนี้ (12 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อัมพวา รับแจ้ง จึงเข้าตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่เกิดเหตุพบนายชาญพินิต ส่งชัย อายุ 71 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร คาดเข็มขัดนิรภัย นั่งหมดสติไม่รู้สึกตัวบนเบาะคนขับ เจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างประมาณ 5 นาที กว่าจะนำร่างนายชาญพินิต ออกมาและพยายามปั๊มหัวใจช่วยชีวิต แต่นายชาญพินิต เสียชีวิตแล้ว ใกล้กันพบรถพ่วง 22 ล้อ ลูกพ่วงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดขวางถนนในลักษณะกำลังกลับรถ บริเวณล้อหลังรถพ่วงมี 3 เพลา รวม 12 ล้อ […]

เตรียมขอข้อมูลเส้นทางการเงิน 4 วัดดัง

13 ก.ค. – ตำรวจเตรียมขอข้อมูลเส้นทางการเงิน 4 วัดดัง เข้าข่ายยักยอกเงินวัด โอนให้สีกา ก. หรือไม่ พบเจ้าอาวาสหนึ่งใน 4 วัด โอนกว่า 1 ล้านบาท ความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกา ก. จากข้อมูลการสืบสวน ตำรวจเตรียมขอความร่วมมือเข้าตรวจสอบวัดที่พบว่ามีความเกี่ยวข้อง 4 วัด ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ได้แก่ วัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา, วัดใหญ่จอมปราสาท จ.สมุทรสาคร, วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กรุงเทพมหานคร ขอตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระชั้นผู้ใหญ่และบัญชีวัด เพื่อหาข้อเท็จจริงว่าเงินที่โอนให้สีกา ก. เป็นเงินส่วนตัวหรือเงินวัด หลังพบว่าพระบางรูปที่มีความสัมพันธ์กับสีกา ก. รวบอำนาจการบริหารจัดการเงินของวัดเพื่อให้ทำธุรกรรมได้สะดวก โดยเฉพาะเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท พบเส้นทางการเงินโอนให้สีกา ก. 2 บัญชี เป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท ส่วนพระรูปอื่นๆ ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนสีกา ก. จะมีเจตนาในการข่มขู่รีดไถเงินจากพระหรือไม่ ทางการสอบสวนยังไม่พบหลักฐานชัดเจนเพราะเป็นรสนิยมส่วนตัว โดยพุ่งเป้าเข้าหาพระชั้นผู้ใหญ่ เพื่อมีความสัมพันธ์และนำเงินมาใช้ส่วนตัว […]

รัฐผ่อนปรนรถบัสสองชั้น 6 เส้นทางเสี่ยง เริ่ม 21 ก.ค.นี้

ทำเนียบ 13 ก.ค.-รัฐผ่อนปรนรถบัสสองชั้น 6 เส้นทางเสี่ยง เริ่ม 21 ก.ค.นี้ พร้อมคุมเข้มมาตรฐานความปลอดภัยทุกขั้นตอน เพื่อความปลอดภัยของประชาชน นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า รัฐบาลโดยกรมขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ได้มีการผ่อนปรนให้รถโดยสารสองชั้นสามารถวิ่งใน 6 เส้นทางได้เป็นการชั่วคราว เป็นระยะเวลา 180 วัน โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป ดังนี้ 1.ทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงเขาพับผ้า-พัทลุง 2.ทางหลวงหมายเลข 103 ช่วงแม่ยางฮ่อ-แม่ตีบ 3.ทางหลวงหมายเลข 118 ช่วงเชียงใหม่-ดอยนางแก้ว 4.ทางหลวงหมายเลข 2013 ช่วงบ่อโพธิ์-โคกงาม 5.ทางหลวงหมายเลข 2331 ช่วงโจ๊ะโหวะ-อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า และ 6.ทางหลวงหมายเลข 1256 ช่วงปัว- อุทยานแห่งชาติดอยภูคา โดยผู้ประกอบการที่ประสงค์จะเดินรถโดยสารสองชั้น ในเส้นทางผ่อนปรนดังกล่าว จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด ดังนี้ 1.นำรถเข้ารับการตรวจสภาพ (Recall) ณ […]

เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

กทม. 13 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 6 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2568) ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะภาคเหนือบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้ ในวันที่ 13 กรกฎาคม […]