ปทุมธานี 10 ต.ค.- “รมช. ไชยา” เผยกรมปศุสัตว์บุกตรวจสอบห้องเย็น 3 แห่ง ซึ่งต้องสงสัยลักลอบนำเข้าเนื้อวัวและเนื้อควายรวม 73 ตัน มีต้นทางจากประเทศอินเดีย ส่งตำรวจดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ อธิบดีกรมปศุสัตว์กำชับชุดเฉพาะกิจและหน่วยงานปศุสัตว์ คุมเข้มตลอดแนวชายแดน
นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยว่า วันนี้ (10 ตุลาคม 2566) กรมปศุสัตว์ส่งเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจเข้าตรวจสอบสถานที่ต้องสงสัยเก็บซุกซ่อนเนื้อโคและเนื้อกระบือแช่แข็งซึ่งลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักร 3 แห่ง ดังนี้
- ห้องเย็นแห่งหนึ่งในอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ตรวจสอบพบสินค้าเนื้อควายแช่แข็งจากต่างประเทศ 47,000 กิโลกรัม เข้าข่ายเป็นความผิดตามพ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 หรือความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง
- บริษัทแห่งหนึ่งในอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบพบสินค้าเนื้อโคแช่แข็ง 26,000 กิโลกรัม เข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 หรือความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง
ส่วนอีกหนึ่งแห่งที่เข้าตรวจสอบ อยู่ที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี ไม่พบการกระทำความผิด
สำหรับสินค้าเนื้อโคและเนื้อกระบือที่ตรวจยึดมีน้ำหนักรวม 73,000 กิโลกรัม มูลค่าความเสียหายประมาณ 15 ล้านบาท
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจกรมปศุสัตว์ที่ปฏิบัติการตรวจสอบสถานที่ต้องสงสัยเก็บซุกซ่อนเนื้อโคและเนื้อกระบือเถื่อน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษพญาไท เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ชลบุรี ด่านกักกันสัตว์ลาดกระบัง และด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก. ปคบ.)
สำหรับเนื้อโคและเนื้อกระบือเถื่อนที่ตรวจสอบพบ มีต้นทางจากประเทศอินเดียพนักงานเจ้าหน้าที่ ได้อายัดสินค้าดังกล่าว แล้วแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องนำเอกสารมาแสดงภายใน 15 วัน หากไม่สามารถนำมาแสดงได้ จะมีความผิดตามพ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ 2558 ดังนี้
- มาตรา 24 เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรคระบาดอันเกิดจากการค้าสัตว์หรือซากสัตว์ ผู้ใดทําการค้าหรือหากําไรในลักษณะคนกลางซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ
- มาตรา 31 เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรคระบาด ผู้ใดนําเข้า ส่งออก หรือนําผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ ต้องได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายทุกครั้งที่นําเข้า ส่งออกหรือนําผ่านราชอาณาจักร โทษ ตามมาตรา 68 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ
- มาตรา 34 ภายใต้บังคับมาตรา 18 และมาตรา 22 เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุม โรคระบาด ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้การปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ผิดกฎหมาย เป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสถานที่พักสินค้า (ห้องเย็น) และเส้นทางการนำเข้าโดยเฉพาะพื้นที่แนวตะเข็บชายแดนอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคสัตว์ ปกป้องเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยภายในประเทศ ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการแทรกแซงกลไกตลาดอย่างไม่เป็นธรรม ตลอดจนคุ้มครองผู้บริโภค โดยหากพบการกระทำผิด ให้ดำเนินการทางกฎหมายอย่างเข้มงวด.-สำนักข่าวไทย