แจ้งเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์หลังฝึกเสร็จพรุ่งนี้
ทบ.แจ้งเคลื่อนย้ายกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะ หลังเสร็จสิ้นการฝึกปฏิบัติการร่วมพลเรือน ตำรวจ ทหาร ประจำปี 2567 กลับหน่วยที่ตั้งพรุ่งนี้
ทบ.แจ้งเคลื่อนย้ายกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะ หลังเสร็จสิ้นการฝึกปฏิบัติการร่วมพลเรือน ตำรวจ ทหาร ประจำปี 2567 กลับหน่วยที่ตั้งพรุ่งนี้
กองทัพบกขนยุทโธปกรณ์มาแสดงโชว์พร้อมข้อมูลคุณสมบัติแต่ละประเภท ให้เด็กและเยาวชนมาสัมผัส หวังให้สานฝันอาชีพในอนาคต ในงานวันเด็กพรุ่งนี้ พร้อมกิจกรรมเล่นสนุก รางวัล อาหารฟรีตลอดงาน
ผบ.ทอ. ไม่กังวล พิจารณางบ 67 วาระแรก บอกเข้าใจปัญหาทั้งอายุยุโธปกรณ์เก่า-ปัญหาบ้านเมือง เชื่อปีงบประมาณหน้า รัฐบาลสนับสนุนกองทัพพัฒนาอาวุธตามแผนการพัฒนาในอนาคต
กองทัพบก สั่งการทุกหน่วยจัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้าช่วยประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่
นีอาเม 10 ก.ย.- คณะทหารที่ทำรัฐประหารในไนเจอร์กล่าวหาฝรั่งเศสว่า กำลังรวบรวมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในประเทศเพื่อนบ้านของไนเจอร์ เพื่อเตรียมใช้กำลังทางทหารแทรกแซงไนเจอร์ โฆษกคณะรัฐประหารกล่าวเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ฝรั่งเศสเดินหน้าส่งกำลังพลไปยังหลายประเทศที่เป็นสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐแอฟริกาตะวันตกหรืออีโควาส (ECOWAS) อันเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมรุกรานไนเจอร์ที่ฝรั่งเศสวางแผนร่วมกับอีโควาส โฆษกอ้างว่า ฝรั่งเศสส่งเครื่องบินทหาร เฮลิคอปเตอร์ และยานเกราะประมาณ 40 คัน ไปยังโกตดิวัวร์หรือไอวอรีโคสต์ และเบนิน เครื่องบินทหารเหล่านี้จะลำเลียงยุทโธปกรณ์จำนวนมากไปยังประเทศเพื่อนบ้านของไนเจอร์หลายประเทศ คณะรัฐประหารไนเจอร์ประกาศเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ยกเลิกข้อตกลงความร่วมมือทางทหารกับฝรั่งเศส และถือว่าทหารฝรั่งเศส 1,500 นายที่อยู่ต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธในไนเจอร์มีสถานภาพผิดกฎหมาย แต่ฝรั่งเศสไม่ยอมรับคณะรัฐประหาร จึงถือว่าไม่มีอำนาจในการยกเลิก อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวในกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศสเผยว่า กองทัพฝรั่งเศสกำลังพูดคุยกับคณะรัฐประหารไนเจอร์เรื่องถอนทหารฝรั่งเศสออกจากประเทศอดีตอาณานิคมแห่งนี้ ในขณะที่ชาวไนเจอร์จำนวนมากชุมนุมรอบที่ตั้งบ้านพักทหารฝรั่งเศสในกรุงนีอาเมทุกวันมานานกว่าสัปดาห์แล้ว เรียกร้องให้ทหารฝรั่งเศสออกไป ด้านสหรัฐเริ่มโยกย้ายทหารที่มีอยู่ 1,100 นาย ออกจากกรุงนีอาเม ขึ้นไปยังเมืองอะกาเดซ ที่อยู่ทางตอนกลางประเทศแล้ว.-สำนักข่าวไทย
กองทัพบกแจ้งเคลื่อนย้ายกำลังพล อาวุธ และยุทโธปกรณ์เพื่อทำการฝึก 21 – 25 ส.ค.66
เบอร์ลิน 14 พ.ค.- ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนหารือกับผู้นำเยอรมนีระหว่างเยือนเยอรมนีเป็นครั้งแรกนับจากเกิดสงครามในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ด้านเยอรมนีเสนอให้การความช่วยเหลือทางทหารชุดใหญ่ ประธานาธิบดีเซเลนสกีทวีตผ่านทวิตเตอร์ว่า “อาวุธ ความช่วยเหลือทรงพลัง การปกป้องทางอากาศ การฟื้นฟู อียู นาโต ความมั่นคง” หลังจากพบหารือในตอนเช้ากับประธานาธิบดีแฟรงก์-วอลเตอร์ ชไตน์ไมเออร์ของเยอรมนีที่ทำเนียบประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ที่ให้การต้อนรับด้วยการจัดกองทหารเกียรติยศ เขาจะเดินทางต่อไปยังเมืองอาเคิน ทางตะวันตกของเยอรมนี เพื่อรับรางวัลคาร์ลที่เมืองนี้ประกาศมอบให้แก่เขาและประชาชนชาวยูเครน จากความพยายามส่งเสริมความเป็นเอกภาพในยุโรป สื่อในเยอรมนีรายงานว่า ผู้นำยูเครนจะเดินทางไปเมืองอาเคินด้วยเครื่องบินของรัฐบาล โดยมีกองทัพอากาศทำหน้าที่อารักขา ขณะที่นายกรัฐมนตรีชอลซ์ของเยอรมนี นางอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และนายกรัฐมนตรีมาเตอุซ โมราเวียสกี ของโปแลนด์จะไปร่วมในพิธีมอบรางวัลด้วย ผู้นำยูเครนเยือนเยอรมนีหลังจากไปพบหารือกับผู้นำอิตาลีและเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขคริสต์จักรนิกายโรมันคาทอลิกที่กรุงโรม และมีขึ้นในช่วงที่ยูเครนกำลังเตรียมตัวรุกตอบโต้กลับรัสเซีย เนื่องจากกำลังพลได้รับการฝึกฝนจากชาติตะวันตกและยูเครนกำลังสะสมยุทโธปกรณ์ที่นักวิเคราะห์เชื่อว่า จะช่วยให้ยูเครนยึดคืนพื้นที่จากรัสเซียได้ เยอรมนีกลายเป็นผู้จัดส่งยุทโธปกรณ์รายใหญ่ให้แก่ยูเครน หลังจากที่ถูกยูเครนกล่าวหาในช่วงต้นของสงครามว่า ลังเลที่จะช่วยเหลือเพราะต้องการเอาใจรัสเซียที่เป็นแหล่งพลังงานรายใหญ่ กระทรวงกลาโหมเยอรมนีแถลงเมื่อวันเสาร์ว่า จะส่งเครื่องยิงขีปนาวุธไอริส-ทีจำนวนหนึ่ง รถถังลีโอพาร์ด 1 จำนวน 30 คัน ยานยนต์ต่อสู้หุ้มเกราะมากกว่า 100 คัน และโดรนสอดแนมมากกว่า […]
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนเผยว่า ยูเครนต้องการเวลาในการเริ่มปฏิบัติการรุกตอบโต้กองกำลังรัสเซีย เพราะกำลังรอความช่วยเหลือที่หลายประเทศรับปากไว้ เดินทางมาถึง
นายกฯ กำชับเหล่าทัพ เดินหน้าแจงใช้งบฯ จัดซื้ออาวุธ-เอฟ35 บอกเข้าใจ อนุฯ กมธ.ตัดงบฯ เป็นการแสดงออกทางการเมือง
ออสเตรเลียส่งกำลังใจและสนับสนุนยุทโธปกรณ์ทางทหารที่ไม่ร้ายแรง รวมทั้งเวชภัณฑ์ แก่ยูเครน ผ่านทางนาโต
เคียฟ 30 ม.ค.- ยูเครนขอให้ชาติตะวันตกใช้ความระมัดระวังและหนักแน่นในการเจรจากับรัสเซียที่ระดมกำลังพลและยุทโธปกรณ์จำนวนมากไว้บริเวณพรมแดนติดกับยูเครน หลังจากชาติตะวันตกพร้อมใจกันเคลื่อนไหวอย่างหนัก ยูเครนแถลงว่า นายดมิโตร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนได้ย้ำในการสนทนากับนายอีฟส์ เลอ ดริยง รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสเมื่อวันเสาร์ว่า ขอให้ชาติตะวันตกคงความระมัดระวังและหนักแน่นในการเจรจากับรัสเซีย หลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่จะทำให้ชาวยูเครนเกิดความกังวล และสั่นคลอนเสถียรภาพทางการเงินของยูเครน ส่วนเมื่อวันศุกร์ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนเรียกร้องชาติตะวันตกหลีกเลี่ยงการปลุกเร้าความหวาดวิตกเรื่องที่รัสเซียส่งกำลังพลสู้รบมากกว่า 100,000 นายและยุทโธปกรณ์ไปประจำการบริเวณพรมแดนยูเครนตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อน และเมื่อไม่นานมานี้ได้ส่งไปยังเบลารุสที่ติดกับพรมแดนทางเหนือของยูเครน รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสและรัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีจะเดินทางไปยูเครนพร้อมกันในวันที่ 7-8 กุมภาพันธ์ ขณะที่นายกรัฐมนตรีโปแลนด์จะไปพบหารือกับประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรียูเครนในวันอังคารนี้ ส่วนคนสนิทของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสเผยว่า ประธานาธิบดีได้สนทนาทางโทรศัพท์นานกว่า 1 ชั่วโมงกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย และเห็นพ้องกันว่าจำเป็นต้องหาทางลดความตึงเครียด ผู้นำรัสเซียย้ำว่า ไม่มีแผนการรุกรานยูเครน อย่างไรก็ดี ฝรั่งเศสเตรียมส่งทหารไปยังโรมาเนีย ประเทศในยุโรปตะวันออกที่เป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต ตามที่ประธานาธิบดีมาครงประกาศไว้ครั้งแรกเมื่อต้นเดือน ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐยืนยันว่า จะส่งทหารกลุ่มเล็กไปเสริมกำลังพลของนาโตในยุโรปตะวันออก เนื่องจากพรมแดนยูเครน-รัสเซียยังมีความตึงเครียด ขณะที่อังกฤษจะเสนอต่อนาโตในสัปดาห์หน้าว่า จะเสริมกำลังพลเป็น 2 เท่าจากที่ประจำการอยู่ในยุโรปตะวันออก 1,150 คน และจะส่งอาวุธในการป้องกันให้แก่เอสโตเนียด้วย เพื่อส่งสารชัดเจนไปยังรัสเซียว่า จะไม่ยอมทนต่อการเคลื่อนไหวที่จะสั่นคลอนเสถียรภาพในภูมิภาค และพร้อมเคียงข้างพันธมิตรในนาโต ซึ่งมีทั้งหมด 30 […]
วอชิงตัน 15 ธ.ค.- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี (UAE) ระงับการเจรจาซื้อยุทโธปกรณ์มูลค่า 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 768,200 ล้านบาท) จากสหรัฐ เป็นข้อพิพาทที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นระหว่างสหรัฐกับประเทศพันธมิตรสำคัญในอ่าวเปอร์เซียแห่งนี้ สถานทูตยูเออีในกรุงวอชิงตันแถลงว่า จะระงับการเจรจาซื้อเครื่องบินขับไล่ F-35 โดรนติดอาวุธ และยุทโธปกรณ์อื่น ๆ กับสหรัฐ ส่วนการเจรจาประเด็นอื่น ๆ ในสัปดาห์นี้จะเป็นไปตามกำหนดเดิม สหรัฐยังคงเป็นผู้จัดหาอาวุธชั้นนำที่เป็นที่ต้องการของยูเออี และอาจจะมีการฟื้นการเจรจาเรื่อง F-35 อีกครั้งในอนาคต สหรัฐเสนอขายเครื่องบิน F-35 จำนวน 50 ลำ ระบบโดรนก้าวหน้า 18 ชุด เครื่องกระสุนจากอากาศสู่อากาศและจากอากาศสู่พื้นให้แก่ยูเออี ก่อนที่รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์จะหมดวาระ เป็นผลจากการที่ยูเออีสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลในปี 2563 ต่อมารัฐบาลโจ ไบเดนจะได้ระงับข้อตกลงนี้ ส่วนหนึ่งมาจากเสียงวิจารณ์เรื่องยูเออีและซาอุดีอาระเบียเข้าไปพัวพันในสงครามเยเมนที่กลายเป็นวิกฤตด้านมนุษยธรรมร้ายแรงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และยืดเยื้อมาจนถึงทุกวันนี้ เจ้าหน้าที่ยูเออีระบุว่า การที่สหรัฐยืนกรานจำกัดเรื่องวิธีและสถานที่ใช้เครื่องบิน F-35 เป็นการละเมิดอธิปไตยของยูเออี ขณะที่โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐชี้แจงว่า สหรัฐบังคับใช้ข้อกำหนดในการใช้ยุทโธปกรณ์ที่ผลิตในสหรัฐกับทุกประเทศ ไม่ได้เจาะจงแต่ยูเออี และเป็นเรื่องที่ไม่สามารถต่อรองได้ ความเป็นหุ้นส่วนของสหรัฐกับยูเออีเป็นเรื่องทางยุทธศาสตร์และมีความซับซ้อนมากกว่าการขายอาวุธเท่านั้น อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวเผยว่า […]