“มนัญญา” เตรียมเสนอปรับสัดส่วนโควตานำเข้ามะพร้าว แก้ราคาตกต่ำ

กรุงเทพฯ 23 ม.ค. – “รมช.มนัญญา” เตรียมเสนอคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืชพิจารณาปรับสัดส่วนโควตานำเข้ามะพร้าวใหม่ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรซึ่งประสบปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำ


นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือเรื่องการแก้ปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำและมาตรการนำเข้ามะพร้าวและผลิตภัณฑ์มะพร้าวเข้ามาในราชอาณาจักร โดยมีกรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กรมส่งเสริมการเกษตร กรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กรมการค้าต่างประเทศ เข้าร่วมประชุม

ทั้งนี้ จากการพบปะกับเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวและตัวแทนเครือข่ายชาวสวนมะพร้าวเพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนด้านการผลิต ราคา การตลาด และการนำเข้า-ส่งออกมะพร้าวของไทยที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สัปดาห์ที่ผ่านมา เกษตรกรร้องเรียนว่า ปัจจุบันราคามะพร้าวตกต่ำ โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่ 5 บาทต่อผล จึงไม่ได้จ้างเก็บมะพร้าว เพราะไม่คุ้มกับต้นทุนการผลิต ขณะที่ สศก. รายงานว่า ต้นทุนเฉลี่ยการผลิตมะพร้าวอยู่ที่ 7 บาทต่อผล ซึ่งสูงกว่าราคาจำหน่ายจึงต้องร่วมกันหาแนวทางแก้ไข


สำหรับการนำเข้ามะพร้าว พบว่ามีการนำเข้ามะพร้าวนอกโควตา 130,000 ตัน โดยเอกชนยอมเสียภาษีนอกโควตาร้อยละ 54 เพื่อเลี่ยงการปฏิบัติตามเงื่อนไขของการอนุญาตนำเข้าตามโควตา นอกจากนี้ยังพบว่ามีการนำเข้ากะทิสดจากต่างประเทศผ่านสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ซึ่ง อย. จะตรวจตามอำนาจของกฎหมาย อย. คือตรวจเกี่ยวกับการปนเปื้อนความสะอาดและโรงงานที่ผลิตต้องได้มาตรฐานอาหารและไม่จำกัดปริมาณนำเข้า โดยกรณีนี้ไม่ได้ถูกนำมาคำนวณเป็นปริมาณผลผลิตมะพร้าวตามความต้องการใช้ในประเทศ โดยคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืชจะนำมาพิจารณากำหนดออกมาเป็นสัดส่วนโควตาให้นำเข้ามะพร้าวในแต่ละปี จึงมีผลให้กระทบกับราคาผลผลิตมะพร้าวในประเทศทางอ้อมอย่างมีนัยสำคัญ ตลอดจนพบด้วยว่ากรณีถ้าเป็นโรงงานผลิตมะพร้าวที่ขอส่งเสริมการลงทุน (BOI) จะยังได้สิทธิในการขอคืนภาษีจากการนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศอีกด้วย ดังนั้น จึงเป็นประเด็นที่คณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืชน่าจะต้องนำมาพิจารณาประกอบว่าจะช่วยเหลือชาวสวนมะพร้าวอย่างไร

นางสาวมนัญญา กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ทำหนังสือตามข้อสังเกตนี้ถึง สศก. นำเสนอต่อคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืชที่มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อพิจารณาและร่วมกันแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกกระทรวงที่มีการนำเข้าสินค้าเกษตรทั้งแปรรูปและไม่แปรรูป ต้องบูรณาการการทำงานและข้อมูลร่วมกัน เพื่อให้ทราบได้ว่าสินค้าที่นำเข้าแต่ละชนิดจะกระทบกับเกษตรกรซึ่งเป็นปลายทางอย่างไร

สำหรับมะพร้าวที่มีการนำเข้าทั้งในโควตาและนอกโควตานั้น ได้สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรเข้มงวดตรวจสอบ 100% ทุกตู้ และให้ อย. รวบรวมตัวเลขปริมาณน้ำกะทิที่ขออนุญาตนำเข้าต่อปี เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืชพิจารณาโดยเร็ว ล่าสุด สศก. รายงานว่าราคามะพร้าวขยับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 12 บาทต่อผล ถือเป็นสัญญาณที่ดีของเกษตรกรชาวสวนมะพร้าว


นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า จะเร่งทำหนังสือถึง สศก. ภายในสัปดาห์หน้า เพื่อให้ทันนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืชที่อยู่ระหว่างการนัดประชุมเพื่อพิจารณากรณีดังกล่าว โดยในการประชุมกรมการค้าต่างประเทศรายงานว่า คณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืชได้อนุมัติให้นำเข้ามะพร้าวตามกรอบ WTO และ AFTA แบ่งเป็น 1.ตามกรอบ AFTA อนุมัติปริมาณ 64,615 ตันต่อปี โดยมีการนำเข้าจริงปริมาณ 5,348.44 ตัน และ 2.ตามกรอบ WTO อนุมัติปริมาณ 2,317 ตัน ปัจจุบันนำเข้าเต็มจำนวนแล้ว รวม 2 กรอบ ปริมาณ 7,000 กว่าตัน ซึ่งจะอนุญาตให้เอกชนนำเข้าในช่วงนอกฤดูการผลิตเท่านั้น ดังนั้น สาเหตุที่ราคามะพร้าวตกต่ำจึงไม่เกี่ยวข้องกับมะพร้าวที่นำเข้าตามโควตา แต่คาดว่าจะมาจากการนำเข้านอกโควตา เนื่องจากกรมการค้าต่างประเทศรายงานว่ามียอดนำเข้ามะพร้าว เดือน ม.ค.-พ.ย. 65 รวม 130,000 ตัน ซึ่งเป็นการนำเข้านอกโควตา WTO ที่เสียภาษีร้อยละ 54

ทั้งนี้ อำนาจหน้าที่ของกรมวิชาการเกษตรจะเป็นการตรวจตามพระราชบัญญัติกักพืช ซึ่งได้สั่งการให้ตรวจอย่างเข้มงวด 100% ทุกตู้ โดยมีการนำเข้าสองด่านคือ ด่านท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือกรุงเทพ ซึ่งเป็นด่านำเข้าที่คณะรัฐมนตรีกำหนด เนื่องจากมะพร้าวเป็นสินค้าควบคุม

ส่วน สศก. รายงานว่า ปัจจุบันความต้องการใช้มะพร้าวในประเทศมีปริมาณ 1.1 ล้านตัน ในประเทศผลิตได้ 8-9 แสนตัน จึงต้องมีการนำเข้าในส่วนต่าง 3-6 แสนตันต่อปี ภายใต้การพิจารณาของคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ