นิวยอร์ค 12 ส.ค. – รัสเซียและยูเครนต่างกล่าวหากันไปมาว่าเป็นฝ่ายยิงโจมตีบริเวณโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในยูเครน ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป ในขณะที่เลขาธิการสหประชาชาติเสนอให้กำหนดพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตปลอดทหาร เพราะเกรงว่าจะกลายเป็นภัยพิบัติร้ายแรง
สำนักข่าวทาสส์ ของรัสเซีย รายงานว่า เอนเนอร์โกอะตอม หน่วยงานด้านนิวเคลียร์ของยูเครน กล่าวว่าพื้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ซาปอริซเซีย คอมเพล็กซ์ ถูกยิงโจมตี 5 ครั้ง เมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งจุดที่โดนโจมตีอยู่ใกล้กับสถานที่เก็บวัตถุดิบที่มีสารกัมมันตรังสีรวมอยู่ด้วย
เจ้าหน้าที่ที่รัสเซียแต่งตั้งให้ดูแลโรงไฟฟ้า กล่าวว่า ยูเครนยิงใส่โรงไฟฟ้า 2 ครั้ง ทำให้การเปลี่ยนผลัดของเจ้าหน้าที่ได้รับผลกระทบ ทางด้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเปิดการประชุมเมื่อวานนี้เพื่อหารือสถานการณ์ นายอันโตนิโอ กูแตร์เรซ เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาขาติ กล่าวเรียกร้องให้ทั้งรัสเซียและยูเครนหยุดการต่อสู้ที่บริเวณใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์
นายกูแตร์เรซ กล่าวในแถลงการณ์ว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่ควรถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการทางทหาร นอกจากนั้นควรจะมีข้อตกลงเป็นการเร่งด่วนเพื่อให้พื้นที่โรงไฟฟ้าเป็นเขตปลอดทหารเพื่อความปลอดภัยในพื้นที่ รัสเซียยึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ได้เมื่อเดือนมีนาคม หลังจากเริ่มการโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โรงไฟฟ้านี้อยู่ใกล้กับแนวรบโดยรัสเซียยึดโรงไฟฟ้าไว้แต่ให้คนงานชาวยูเครนเป็นคนดำเนินการเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ทางด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เรียกร้องให้รัสเซียคืนโรงไฟฟ้าให้กลับมาอยู่ในความดูแลของยูเครน.-สำนักข่าวไทย