สนามบินอู่ตะเภา 5 เม.ย. – สบพ.จับมือกองทัพเรือพัฒนาบุคลากรการบินและอวกาศ รองรับการขยายตัวอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ภูมิภาค
พลเรือตรีปิยะ อาจมุงคุณ ผู้ว่าการ สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) กล่าวว่า ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านการพัฒนาศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรด้านการบินและอวกาศระหว่างกองทัพเรือและสบพ. โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยพลเรือเอกณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือตรีปิยะ อาจมุงคุณ ผู้ว่าการ สบพ. เป็นผู้ร่วมลงนาม ณ อาคารผู้โดยสาร การท่าอากาศยานอู่ตะเภา กองทัพเรือ อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง
สำหรับการลงนามครั้งนี้ตามนโยบายรัฐบาลพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Special Eastern Economics Corridor) เร่งผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์บริเวณพื้นที่ภายในสนามบินอู่ตะเภาให้เกิดเป็นรูปธรรม เพิ่มขีดความสามารถของการแข่งขันในอุตสาหกรรมการบินของประเทศ ส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพิ่มการจ้างงาน ยกระดับคุณภาพชีวิตและรายได้ของประชาชน รวมถึงขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติตามแนวทางประเทศไทย 4.0 ให้บรรลุตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล ผลักดันให้เป็นศูนย์กลางของความเป็นเลิศ (Center of Excellence) ในการผลิตบุคลากรด้านการบินและอวกาศของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่รับการรับรองคุณภาพและมาตรฐานจากองค์กรควบคุมการบิน ผ่านการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการฝึกอบรมที่ทันสมัยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดภัย สามารถผลิตบุคลากรด้านการบินและอวกาศให้มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล และเพียงพอสำหรับรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ของประเทศไทยและภูมิภาคในอนาคต โดยเฉพาะธุรกิจการซ่อมบำรุงและการผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สบพ.รัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคมและสมาชิกประเภท Full Member โครงการ ICAO TRAINAIR PLUS ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ผลิตบุคลากรด้านการบินมาแล้วกว่า 30,000 คน จาก 78 ประเทศทั่วโลก และยังมุ่งมั่นที่จะผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพ มีคุณลักษณะเฉพาะโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ของ สบพ.และตรงกับความต้องการของตลาดอุตสาหกรรมการบินต่อไป โดย สบพ.มีหลักสูตรที่ได้รับการรับรองโดย ICAO ให้สามารถพัฒนาและเปิดหลักสูตรตามมาตรฐานที่นานาประเทศยอมรับ เพื่อผลิตบุคลากรด้านการบินเข้าทำงานทั้งในอุตสาหกรรมการบินและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องได้ทั่วโลกได้เตรียมผลิตช่างผู้เชี่ยวชาญรองรับความต้องการของการบินไทยและแอร์บัส ซึ่งเตรียมตั้งศูนย์ซ่อมอากาศยาน จากปัจจุบันผลิตได้ 60 คนต่อปี สามารถขยายเพิ่ม 400-500 คน และเตรียมย้ายศูนย์ฝึกอบรมจากกรุงเทพฯ มาตั้งอยู่บริเวณสนามบินอู่ตะเภา จึงเตรียมงบประมาณ 5,000 ล้านบาท รองรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน บนเนื้อที่ 200 ไร่ เพื่อผลิตบุคลากรให้ทันกับความต้องการของสายการบิน
ขณะที่นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่หน่วยธุรกิจบริการการบิน และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังลงนามร่วมกับแอร์บัสแล้ว เตรียมขยายศูนย์ซ่อมมายังสนามบินอู่ตะเภา โดยร่วมมือกับแอร์บัสถ่ายทอดเทคโนโลยีรองรับสายการบินทั่วเอเชียมาใช้บริการซ่อมในศูนย์ดังกล่าว จากปัจจุบันซ่อมหลายร้อยลำ คาดว่าจะเพิ่มจำนวนการซ่อมเครื่องบินอากาศยานนับหมื่นลำ เมื่อรัฐบาลมุ่งเน้นพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา.-สำนักข่าวไทย