ชลบุรี 27 ก.ค. – คนร้ายทุบกระจกห้างดังกลางเมืองชลบุรี ลักโทรศัพท์มือถือหลายเครื่อง พร้อมเงินสดจากตู้บริจาคในห้าง เปิดกล้องวงจรปิดพบเป็น รปภ.ของห้างนั่นเอง ประสานเจ้าหน้าที่รวบตัวหลังเลิกงาน
ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายใส่ชุดดำ สวมไอ้โม่งคลุมหน้าสะพายกระเป๋าเดินลัดเลาะเข้าทางข้างห้างบิ๊กซีโฮมโปร หลังจากนั้นได้ทุบกระจกเข้าไปภายในห้างบิ๊กซี คนร้ายก้มหลบกล้องวงจรปิดเข้าไปขโมยโทรศัพท์มือถือภายในร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือในห้างแล้วหลบหนีไป
วันนี้ (27 ก.ค.) พ.ต.อ.ชนะไชย เกษมวงศ์ ผกก.สภ.เสม็ด พร้อมเจ้าหน้าที่จับกุมนายสุพจน์ อายุ 40 ปี จ.สุโขทัย ทำงานเป็น รปภ.ในห้างดังกล่าว โดยจับกุมใน “ข้อหาลักทรัพย์ของผู้อื่นในเวลากลางคืนในเคหะสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยเข้าช่องทางที่ไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยการมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหน้าหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุมบุกรุกในเวลากลางคืนทำให้เสียทรัพย์หรือรับของโจร” พร้อมของกลาง รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน 3 กษ 3441 ชลบุรี พร้อมเงินสด รวมเป็นเงิน 5,640 บาท โทรศัพท์ 6 เครื่อง ชุดเสื้อผ้าที่ใส่ในวันก่อเหตุ กระเป๋าสะพายสีเข้ม หมวกไอ้โม่งสีดำ โดยจับได้ที่ลานจอดรถพนักงานห้างบิ๊กซีโฮมโปร อ.เมือง จ.ชลบุรี และพาไปค้นที่ห้องเช่าเลขที่ 89/9 ห้องที่ 7 หมู่ 8 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี
พ.ต.อ.ชนะไชย เปิดเผยว่า ห้างบิ๊กซีโฮมโปร ได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความว่ามีคนร้ายทุบกระจกร้านเคเอฟซี ภายในห้าง แล้วคนร้ายใส่ชุดสีดำเดินลัดเลาะหลบกล้องวงจรปิดเข้าไปในร้านจำหน่ายโทรศัพท์และลักโทรศัพท์มือถือไปจำนวน 6 เครื่อง และมีการงัดตู้บริจาค ที่อยู่ภายในห้างเอาเงินสดด้านในไปทั้งหมด ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายคือนายสุพจน์ ผู้ต้องหาที่ทำงานเป็น รปภ.ของห้างแห่งนี้ จึงมีการซุ่มรอเวลา ที่ลานจอดรถ กระทั่งนายสุพจน์ เลิกงานเดินมาที่ลานจอดรถ ตำรวจจึงแสดงตัวจับกุม พร้อมค้นในรถพบเงินสดทั้งธนบัตรและเหรียญจำนวนมาก ซึ่งนายสุพจน์ รับสารภาพว่างัดจากตู้บริจาคในห้างและเป็นคนในกล้องวงจรปิดจริง จากนั้นได้พาไปค้นที่ห้องเช่าพบของกลาง โทรศัพท์มือถือหลายเครื่อง โดยนายสุพจน์ เคยถูกจับคดีลักทรัพย์หลายคดีพ้นโทษมาเมื่อเดือน ก.พ.65 และได้มาสมัครทำงานเป็น รปภ.ที่ห้าง กระทั่งก่อหตุผิดซ้ำ หลังสอบสวน ตำรวจคุมตัวส่ง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. -สำนักข่าวไทย