ภูเก็ต 25 ก.ค.- ภูเก็ต ยามค่ำคืน นักท่องเที่ยวทั้งไทย และต่างชาติยังเดินเที่ยวงาน “ถนนคนเดินภูเก็ต หลาดใหญ่” อย่างคึกคัก แม้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตรวจพบชายชาวไนจีเรียป่วย “ฝีดาษวานร” เป็นรายแรก ขณะที่ สสจ.ภูเก็ต ยังเฝ้าระวังกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมในช่วง 3 เดือน เกือบ 8 แสนคน
บรรยากาศย่านเมืองเก่าภูเก็ต ยังคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เดินเที่ยวชมกิจกรรม “ถนนคนเดินภูเก็ต หลาดใหญ่” ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกวันอาทิตย์บริเวณถนนถลางและซอยรมณีย์ แม้สัปดาห์ที่แล้วจะมีการตรวจพบชายชาวไนจีเรีย อายุ 27 ปี ป่วยด้วยโรคฝีดาษวานรคนแรกของไทย และหลบหนีออกนอกประเทศก่อนจะไปถูกจับที่ประเทศกัมพูชา แต่ไม่กระทบกับการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต โดยนักท่องเที่ยวยังให้ความสนใจหาซื้อสินค้าทำมือ งานศิลปะ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย สินค้าที่ระลึก ตลอดจนอาหารและเครื่องดื่มกันอย่างคึกคัก โดยสังเกตได้ว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยและผู้ค้าแต่ละแผงค้า ยังสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าต่างบอกว่า คนที่มาเที่ยวถนนคนเดินส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะอินเดียกับอาหรับ เดินทางมาเป็นครอบครัว และทุกคนไม่ได้กังวลกรณีที่พบผู้ป่วยฝีดาษลิงที่ภูเก็ต เพราะเป็นโรคที่ติดต่อได้ยาก หากไม่ไปคลุกคลีหรือสัมผัสกับผู้ป่วย
สำหรับการติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยฝีดาษวานรที่หลบหนีไปกัมพูชานั้น นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้ได้เก็บตัวอย่างผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพิ่มจากครั้งแรกอีก 19 ราย และส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการแล้วทั้งหมด เบื้องต้นผลตรวจออกมาแล้วเป็นลบ จำนวน 2 ราย อีก 17 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ คาดว่าจะทราบภายใน 2-3 วันนี้ ระหว่างนี้ต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และกักตัวให้ครบ 21 วันแล้วเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการอีกครั้ง
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสะสมเข้าจังหวัดภูเก็ตผ่านทางท่าอากาศยานภูเก็ต ระหว่างเดือน พ.ค.-23 ก.ค.65 พบว่ารวม 792,560 คน โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามามากที่สุด ได้แก่ อินเดีย 76,475 คน, ออสเตรเลีย จำนวน 28,604 คน, สิงคโปร์ 27,673 คน, อังกฤษ 17,354 คน และมาเลเซีย 13,142 คน. -สำนักข่าวไทย