กรุงเทพฯ 22 ก.ค. – นักวิชาการให้คะแนนฝ่ายค้านอภิปรายดีกว่า 3 ครั้งที่ผ่านมา ข้อมูลพรรคก้าวไกลแน่นและลึกกว่าพรรคเพื่อไทย เป็นการวางยุทธศาสตร์ปักหมุดความคิดกลุ่มนิวโหวตเตอร์ เพื่อการเลือกตั้งปีหน้า
ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงภาพรวมของฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งที่ดีที่สุดของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 4 ครั้ง ในรอบ 4 ปี มีความพร้อมทางด้านเนื้อหา หลายประเด็นอาจเป็นเรื่องเก่าที่หลายคนรู้อยู่แล้ว แต่ฝ่ายค้านมีการวางเกมทางยุทธศาสตร์ เพื่อจัดเตรียมการเลือกตั้งในปีหน้า เพื่อให้นิวโหวตเตอร์ที่เพิ่งสนใจการเมือง ซึ่งน่าจะมีถึง 1 ล้านคน ได้ทบทวนข้อมูลต่างๆ นำไปสู่การขยายแนวร่วม หรือฐานเสียงทางการเมืองที่คล้อยตามการอภิปรายของฝ่ายค้าน เพราะสิ่งที่ฝ่ายค้านนำมาอภิปรายกลายเป็นไวรัล เช่น กรณีคลิปนายอนุทิน ชาญวีรกูล หาเสียงกัญชาเสรี ที่ถูกแชร์จำนวนมาก
การอภิปรายครั้งนี้ยังเห็นว่าความหนักแน่นของเนื้อหาระหว่างพรรคเพื่อไทยและก้าวไกล แตกต่างกัน พรรคเพื่อไทยอาจจะเน้นในเรื่องการสร้างวิวาทะหรือวาทกรรม แต่พรรคก้าวไกล ประสบความสำเร็จที่ทำให้รัฐมนตรีที่ถูกซักฟอกถึงขั้นเสียรูปมวย เช่น กรณีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ที่ต้องใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง มาตอบคำถาม หรือนายจุติ ไกรฤกษ์ ต้องใช้ระยะเวลา หรือตอบคำถามได้ไม่ครบตามที่ฝ่ายค้านสงสัย
ขณะรัฐมนตรีที่ถูกซักฟอก คุณภาพการชี้แจงประเด็นต่างๆ ลดลง บางคนตอบไม่เคลียร์ เลี่ยงที่จะไม่ตอบ บางคนต้องขอเวลาไปเตรียมตัวเพื่อมาตอบคำถาม
ส่วนการลงมติในวันพรุ่งนี้ไม่น่าจะมีใครโดนน็อกหลางสภาฯ แต่ต้องจับตามองไปที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญ ว่าจะเป็นไปตามที่หลายคนคาดการณ์หรือไม่ หรือจะเป็นเพียงมวยล้มต้มคนดู ส่วนที่ 2 คือท่าทีของพรรคเล็ก ซึ่งไม่น่าจะนำไปสู่ความพลิกผันได้ ขณะเดียวกันอาจจะมีความหวั่นไหว โดยเฉพาะในพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคประชาธิปัตย์ นายจุติ ไกรฤกษ์ ที่อยู่ในสถานะง่อนแง่น ไม่รู้ว่าหลังจากการโหวตลงคะแนนในพรุ่งนี้ จะนำไปสู่การเขย่าหรือร้องขอปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่
ในส่วนของนายกรัฐมนตรีคงจะมีผู้ประสานงานที่จะให้คะแนนไม่ออกมาน่าเกลียด ไม่เช่นนั้นจะมีแรงกดดันและวิกฤติศรัทธาทางการเมืองก็เป็นได้.-สำนักข่าวไทย