เชียงใหม่ 19 ก.ค. – แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง จนทำให้มีผู้ติดเชื้อทั่วประเทศเพิ่มสูงขึ้น และในจังหวัดเชียงใหม่พบผู้ป่วยโควิด-19 และผู้ป่วยกลุ่มสีแดงเพิ่มขึ้น แต่ยืนยันสามารถรับมือได้ เพราะความรุนแรงไม่หนักเท่าสายพันธุ์เดลต้า ยังมียาฟาวิพิราเวียร์และเตียงเพียงพอรองรับผู้ป่วย
นพ.วรัญญู จำนงประสาทพร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่ว่า มีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นไปจนถึงเดือนสิงหาคม สาเหตุมาจากการกลายพันธุ์ของโรคและการเปิดประเทศที่หลายกิจกรรมเริ่มผ่อนคลายแล้ว สำหรับสายพันธุ์ BA4, BA5 ยังไม่รุนแรงเท่าเดลต้า เพราะการใช้เตียงน้อยกว่าเดลต้า ร้อยละ 0.3 แต่การกระจายตัวจะมีมากกว่า ทำให้ภาพรวมผู้ติดเชื้อของประเทศเพิ่มขึ้น และในจังหวัดเชียงใหม่ปัจจุบันมีผู้ป่วยไม่เกินวันละ 1,000 คน เชื่อว่าไม่มากไปกว่า 2,000 คน ส่วนการเจ็บป่วยรุนแรงพบมีบ้าง เพราะยังมีผู้ไม่ได้รับวัคซีนอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มบอบบางและในโรงเรียนยังมีเด็กบางส่วนยังต้องเฝ้าระวัง ส่วนเรื่องยาขณะนี้ในจังหวัดมียาฟาวิพิราเวียร์ 30,000 เม็ด ยังสามารถกระจายได้ครอบคลุมให้กับกลุ่มเสี่ยงที่มีความรุนแรงของโรค เชื่อว่าเพียงพอระหว่างรอองค์การเภสัชกรรมผลิตยาเพิ่ม เช่นเดียวกับเตียงรองรับผู้ป่วยก็มีเพียงพอแม้ปัจจุบันผู้ป่วยสีแดงเพิ่มขึ้นจาก 10 ราย เป็น 20 รายแล้ว แต่บางโรงพยาบาลอาจให้บริการได้ไม่เต็มที่ เพราะมีผู้ป่วยกลุ่มอื่นด้วย ส่วนการฉีดวัคซีนตอนนี้เร่งฉีดให้ครอบคลุม เพราะเชียงใหม่ก็มีกลุ่มเปราะบางอยู่มากพอสมควร จึงขอความร่วมมือทุกคนให้ป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในสถานที่แออัดต้องสวมหน้ากากอนามัย
พร้อมฝากเตือนประชาชนจากโรคติดต่อไข้เลือดออก ที่มียุงลายเป็นพาหะ จะระบาดหนักในช่วงฤดูฝน เชียงใหม่พบอัตราการป่วยเป็นอันดับ 4 ของประเทศ จึงขอความร่วมมือทุกคนดำเนินการ 3 เก็บ คือ เก็บบ้าน เก็บขยะและเก็บน้ำ เพื่อลดการแพร่พันธุ์ของยุงลาย ซึ่งเป็นพาหะตัวร้ายในการทำให้ผู้ป่วยเป็นไข้เลือดออก ทั้งนี้ จังหวัดได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เร่งดำเนินการฉีดยาป้องกันยุงลายในทุกพื้นที่แล้ว และหากพบคนในครอบครัวมีไข้สูงให้รีบพบแพทย์ทันที. -สำนักข่าวไทย