ทางหลวงฯ ชี้แจงเหตุวัสดุก่อสร้างร่วงหล่นลงบนถนนพระราม 2 

กรุงเทพฯ 19 ก.ค.- กรมทางหลวง ชี้แจงกรณีวัสดุก่อสร้างร่วงหล่นลงบนถนนพระราม 2 สั่งหยุดงานก่อสร้างบริเวณดังกล่าว พร้อมเยียวยารับผิดชอบค่าเสียหาย   


นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่คลิปกรณีวัสดุก่อสร้างร่วงหล่นลงบนถนนพระราม 2 ทำให้รถได้รับความเสียหาย นั้น กรมทางหลวง โดยสำนักก่อสร้างสะพานได้ทำการตรวจสอบแล้ว ขอเรียนชี้แจงว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 65 เวลาประมาณ 18.00 น. ในพื้นที่โครงการก่อสร้างทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 สายธนบุรี–ปากท่อ (ถนนพระราม 2) ตอน ทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย ตอน 2 ที่ กม.17+500 (ขาเข้า กทม.) จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งสาเหตุเกิดจากผู้รับจ้างได้เข้าไปเตรียมความพร้อมในการติดตั้งชิ้นส่วนสะพาน ระหว่างการดำเนินงาน ได้เกิดอุบัติเหตุชิ้นส่วนนั่งร้านเหล็กสำหรับรับขา Launching truss ด้านหน้า ร่วงหล่นลงมาบนถนน ระหว่างนั้นมีรถกระบะสีดำทะเบียน ชอ 3536 กรุงเทพมหานคร วิ่งมาในบริเวณดังกล่าว ไม่สามารถหยุดรถได้ทัน ทำให้รถเหยียบทับชิ้นส่วนนั่งร้านเหล็ก และมีรถยนต์นั่งส่วนบุคคลได้รับความเสียหาย รวมจำนวน 3 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 3 คน 

ทั้งนี้ ทางกรมทางหลวง ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้สั่งการให้ผู้รับจ้างเข้าพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และดำเนินการเคลื่อนย้ายรถคันที่เสียหายออกจากบริเวณที่เกิดเหตุโดยทันที เพื่อลดผลกระทบด้านการจราจร ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน และช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ เพื่อทำการรักษาและตรวจร่างกาย ซึ่งล่าสุดผลการตรวจร่างกายพบว่า มีรอยฟกช้ำตามร่างกายเล็กน้อย พร้อมทั้งให้ผู้รับจ้างดูแลผู้เสียหายและดำเนินการเจรจารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ณ สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร ซึ่งผู้รับจ้างยินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดตามที่ผู้เสียหายเรียกร้อง และยินดีที่จะให้ผู้บาดเจ็บไปตรวจร่างกายอีกครั้งหนึ่ง 


นายสราวุธกล่าวต่อว่า กรมทางหลวง ขออภัยในความไม่สะดวกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอเรียนว่า ที่ผ่านมากรมทางหลวงได้เน้นย้ำเรื่องมาตรการความปลอดภัยในระหว่างการก่อสร้างอย่างสูงสุดมาโดยตลอด เพื่อไม่ให้ประชาชนผู้ใช้ทางได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยขณะนี้ได้สั่งให้โครงการหยุดงานก่อสร้างบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยอย่างละเอียดและพิจารณามาตรการเสริมความปลอดภัยในด้านต่าง ๆ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง