กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – นักวิจัยจุฬาฯ คิดค้น “มณีแดง” ช่วยชะลอวัย ทดลองในหนูย้อนวัยได้ 40 ปี คาดจะผลิตมณีแดงเป็นยาได้ปลายปี 66 และทดลองในมนุษย์ได้ในปี 67 หวังมณีแดงจะเป็นผลิตภัณฑ์ยาที่สร้างรายได้ให้ประเทศไทยมหาศาล รวมทั้งเป็นความหวังของมนุษยชาติในการแก้ปัญหาสังคมผู้สูงอายุ
ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท อินโนบิก (เอเชีย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ปตท. เพื่อพัฒนาและวิจัยโมเลกุลมณีแดง ร่วมกัน
โมเลกุลมณีแดง เป็นนวัตกรรมต้านเซลล์ชรา คืนวัยหนุ่มสาว อันเป็นการค้นพบต้นเหตุหรือต้นน้ำของวัยชรา ครั้งแรกของโลก โดยทีมนักวิจัยของจุฬาฯ นำโดย ศ.นพ.อภิวัฒน์ มุทิรางกูร อาจารย์ประจำคณะกายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ทำการวิจัยต่อเนื่องมากว่า 20 ปี และในช่วง 2-3 ปีหลัง มีการวิจัยเจาะจงมากขึ้น เพื่อนำโมเลกุลมณีแดงมาใช้ในการรักษาโรคที่เกิดจากความชรา และใช้ในการฟื้นฟูเซลล์ชราให้กลับมาอ่อนเยาว์มากขึ้น
ศ.นพ.อภิวัฒน์ กล่าวว่า การวิจัยเรื่องนี้ทำต่อเนื่องมากว่า 20 ปี ทำให้ทีมนักวิจัยค้นพบว่าในดีเอ็นเอของมนุษย์จะมีรอยแยกอยู่ ซึ่งรอยแยกนี้มีหน้าที่ปกป้องดีเอ็นเอให้แข็งแรง แต่ว่ารอยแยกดีเอ็นเอจะมีจำนวนลดลงเมื่อมนุษย์มีอายุมากขึ้น ทำให้ดีเอ็นเอถูกทำลายได้ง่าย ส่งผลเกิดเซลล์ชราที่ทำให้มนุษย์แก่ชรา รวมทั้งอาจกลายพันธุ์นำไปสู่โรคมะเร็ง และทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในผู้สูงอายุ เช่น ความดันโลหิตสูง กระดูกผุ สมองเสื่อม ทั้งยังเป็นเหตุให้ร่างกายเสื่อมประสิทธิภาพในการซ่อมแซมตัวเอง มีผลให้แผลของผู้ป่วยเบาหวานหรือแผลไฟไหม้หายยาก
จากการวิจัยทำให้พบว่ามียีนที่เรียกว่า “มณีแดง” หรือ Red Gems อยู่ในดีเอ็นเอ โดยมณีแดงทำหน้าที่สร้างรอยแยกในดีเอ็นเอ เปรียบเสมือนวิศวกร ที่คอยสร้างรอยแยกเพื่อปกป้องดีเอ็นเอ เพราะเมื่อมนุษย์อายุมากขึ้น รอยแยกจะหายไป แต่มณีแดงจะสร้างรอยแยกขึ้นมา ทำให้เซลล์ที่ได้รับมณีแดงจะมีดีเอ็นเอที่แข็งแรงขึ้น คงทน ไม่ถูกทำลายได้ง่าย กลไกความชราก็จะหยุดลง เซลล์ที่ชราแล้วจะค่อยๆ กลับมาแข็งแรงในระดับก่อนวัยชราอีกครั้งหนึ่ง
ที่ผ่านมาการทดสอบในหนูวัยชรา อายุ 30 เดือน ด้วยการให้มณีแดงภายในระยะเวลา 2 เดือน พบว่าหนูชรากลับมามีสภาพอ่อนเยาว์เหมือนหนูอายุ 7 เดือน มีความแข็งแรงและกระตือรือร้นขึ้น ถ้าเทียบช่วงอายุหนูกับคน ก็เหมือนคนอายุ 70 ปี อายุลดลงมาเหลือ 25 ปี
นอกจากนี้ยังทดลองในหนูที่มีแผลเบาหวานและแผลไฟไหม้ พบว่าแผลเบาหวาน แผลไฟไหม้หายดี เหมือนกับไม่เคยเป็นแผลมาเลย อีกทั้งไขมันในช่องท้องและพังผืดในตับได้ลดหายไปด้วย อีกทั้งตอนนี้กำลังทดสอบเกี่ยวกับโรคภายในร่างกายที่เกิดจากความชราในหนูทดลองที่เป็นโรคสมองเสื่อมแบบอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน และปอดเป็นพังผืด ซึ่งโรคเหล่านี้เกิดจากความชรา คาดว่าเมื่อโรคเหล่านี้หากใช้มณีแดงรักษาที่ต้นเหตุหรือต้นน้ำ คือทำเซลล์ชราให้เป็นเซลล์หนุ่มสาวได้ จะทำให้โรคเหล่านี้หายได้ เช่น ถ้าโรคเหล่านี้เกิดตอนอายุ 60 ปี ถ้าย้อนเซลล์ร่างกายกลับไปตอนอายุ 40 ปีได้ โรคเหล่านี้น่าจะหายไปด้วย ทีมวิจัยยังได้ทดลองในหมูแรกเกิด และทดสอบคุณภาพเนื้อเมื่อหมูมีน้ำหนัก 100 กิโลกรัม พบว่ามีเนื้อสัมผัสที่นุ่มขึ้น แน่นขึ้น
ปัจจุบันได้ทดลองมณีแดงกับลิงแสม ซึ่งมีสรีระใกล้เคียงกับมนุษย์ เพื่อดูในเรื่องความปลอดภัย พบว่าลิงแสมทุกตัวปลอดภัยดี และไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ถือว่าวิจัยมาได้ครึ่งทางแล้ว อีกเพียง 1 เดือน น่าจะรู้ผลที่แน่ชัดในลิงแสม จากนั้นจะรอผลอีกประมาณ 6 เดือน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดี คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะเริ่มผลิตยามณีแดง ที่จะใช้ในคนได้ คาดว่าจะเป็นช่วงเดือนตุลาคม 2566 และถ้าใช้ในคนได้จะสามารถใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ ที่คิดไว้เบื้องต้นจะมีการพัฒนาเป็นครีมทาหน้า รักษาแผลไฟไหม้ และใช้รักษาสัตว์ก่อน ถือเป็นความหวังของมนุษยชาติในการแก้ปัญหาสังคมผู้สูงอายุ
ขณะที่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท อินโนบิก (เอเชีย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ปตท. เข้ามาสนับสนุนงานวิจัยนี้ได้ประมาณ 1 ปีแล้ว สนับสนุนทุนวิจัยแล้วประมาณ 100 ล้านบาท และจะสนับสนุนในด้านการลงทุน การผลิต และจัดจำหน่าย ซึ่งวันนี้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ทำบันทึกข้อตกลงกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัททั้งสองพร้อมสนับสนุนการวิจัยในครั้งนี้ เป็นการแปลงความรู้จากงานวิจัยไปสู่ผลิตภัณฑ์ เพราะเล็งเห็นว่าประเทศไทยจะเป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาสังคมสูงวัย และจะสามารถทำให้คนไทยเข้าถึงมณีแดงได้ หากได้รับการรับรองจากสำนักคณะกรรมการอาหารและยา ให้เป็นยารักษาโรคและส่งเสริมสุขภาพแล้ว
นายบุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด กล่าวว่า มณีแดง ถือได้ว่าเป็นการค้นพบความลับทางวิทยาศาสตร์ ความลับทางการแพทย์ เป็นนวัตกรรมต้านเซลล์ชรา แต่การพัฒนายังต้องผ่านอีกหลายขั้นตอน โดยเฉพาะการทดลองในคน การเข้ามาของ ปตท. และบริษัทอินโนบิก จะช่วยสนับสนุนเพื่อให้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ทางการค้าในระดับสากลได้ เริ่มตั้งแต่การส่งนักวิจัยของอินโนบิกมาร่วมวิจัยกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ เทคโนโลยี การทำการตลาด เชื่อว่าการค้นพบครั้งนี้จะเป็นโอกาสของประเทศไทย อนาคตจะเป็นศูนย์กลางการแพทย์ของภูมิภาคและของโลก ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย สร้างรายได้มหาศาล.-สำนักข่าวไทย