กรุงเทพฯ 30 มี.ค. – ปฏิบัติการค้นหาผู้ติดใต้ซากอาคาร สตง. ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผ่านมาเกือบ 54 ชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ยังไม่พบผู้รอดชีวิตเพิ่ม ส่วนยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 11 รายแล้ว
แม้ในช่วงค่ำการขุดซากปูนคอนกรีตและเหล็กที่ยังกองเป็นภูเขาสูงเกือบ 50 เมตร จะทำได้ยากลำบากขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ลดความพยายาม สับเปลี่ยนกำลังคนเข้ามาช่วยกันปฏิบัติภารกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในโซน A และโซน D ที่ยังคงใช้เครื่องจักรหนักขุดเศษซากปรักหักพัง เพื่อเปิดทางให้การค้นหาทำได้ง่ายขึ้น
ส่วนบรรยากาศตลอดทั้งวันที่ผ่านมา ครอบครัว ญาติ และเพื่อนของทั้งแรงงานชาวไทย ชาวเมียนมา และกัมพูชา ยังคงมาเกาะติดเฝ้ารอกันอยู่ตลอด หวังว่าจะได้พบสมาชิกในครอบครัว หรือเพื่อนที่ยังมีชีวิตรอด

อย่างเช่น น.ส.กรรณิกา ที่พาแม่และลูกทั้ง 2 คน รวมถึงญาติเกือบ 20 คน เดินทางจาก จ.กำแพงเพชร มาปักหลักเฝ้ารอการค้นหาสามี คือ นายโยธิน หัวหน้าช่างไฟ ที่ทำงานอยู่ชั้น 24 ของอาคารแห่งนี้ โดยเฝ้ารอมาตั้งแต่เมื่อวาน ผ่านมาจนถึงตอนนี้ยังไม่พบ แต่ก็ยังไม่หมดหวัง ขอให้มีปาฏิหาริย์ ได้พบสามีผู้เป็นเสาหลักของครอบครัวอีกครั้ง
ขณะที่ปฏิบัติการตลอดทั้งมาวันนี้ นอกจากมีการใช้เครื่องจักรหนักเข้าร่วมทำงานกับทีมค้นหา ทีมกู้ภัยในเขตเมือง และทีม K-9 USAR Thailand แล้ว ยังมีการนำโดรนและเทคโนโลยีเครื่องสแกนที่มีความแม่นยำ สำรวจความลึกได้ 20 เมตร เข้ามาช่วยค้นหาด้วย โดยผู้เชี่ยวชาญได้นำเครื่องสแกนดังกล่าวขึ้นเครนไปสแกนตามซากปรักหักพัง เพื่อหาจุดที่ยังมีผู้ติดค้างอยู่ภายใน ช่วยให้การทำงานเป็นไปได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
พร้อมทั้งนำหุ่นยนต์กู้ภัย iRAP(ไอราฟ) Robot เข้ามาช่วยสแกนโครงสร้างภายในทั้งหมด เพื่อนำออกมารวมกับทีมที่สแกนโครงสร้างภายนอก ให้เห็นภาพรวมของพื้นที่ ออกมาเป็นแบบ 3 มิติ เพื่อประเมินว่าปลอดภัยในการเข้าค้นหา โดยเฉพาะบริเวณโครงสร้างส่วนยอดของซากอาคารที่ถล่ม เนื่องจากพบว่าตรงกลางมีลักษณะเป็นโพรง จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งลงพื้นที่มาติดตามการค้นหา บอกว่าขณะนี้ค้นหาผู้รอดชีวิตและร่างของผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่สามารถใช้เครื่องจักรหนักลุยเข้าไปได้อย่างเต็มที่ เพราะยังมีความหวังว่าจะยังมีผู้รอดชีวิตอยู่ ซึ่งเราจะพยายามช่วยเหลืออย่างสุดกำลัง ตอนนี้ได้ระดมอุปกรณ์เครื่องมือเครนขนาด 500-600 ตัน เข้ามาเพิ่ม เพื่อช่วยยกคานหนักที่อยู่ด้านบนออก
ขณะที่ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่มาเก็บตัวอย่างวัสดุและเหล็กเส้นที่ใช้ในการก่อสร้าง หลังนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งแต่งตั้งให้กรมโยธาฯ สอบสวนว่าสาเหตุอาคารถล่มในครั้งนี้ว่าเกิดจากอะไร และมีตัวแทนกระทรวงอุตสาหกรรมเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
สำหรับข้อมูลอัปเดตจากกองอำนวยการร่วม ล่าสุดพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย รวมนำร่างออกมาได้ทั้งหมดแล้ว 11 ราย บาดเจ็บ 8 คน และยังสูญหายอีก 76 คน.-สำนักข่าวไทย