โคลัมโบ 10 ก.ค.- ประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา และนายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเหของศรีลังกาตัดสินใจลาออกแล้ว หลังจากประเทศเกิดความวุ่นวายมากที่สุดนับตั้งแต่มีการประท้วงรัฐบาลมาหลายเดือน เมื่อผู้ประท้วงพากันบุกบ้านพักของผู้นำทั้งสองคน
นายกรัฐมนตรีวิกรมสิงเห วัย 73 ปี ประกาศว่าจะลาออกทันทีที่มีรัฐบาลชุดใหม่แม้ว่าผู้ประท้วงต้องการให้ลาออกทันทีก็ตาม ขณะที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรประกาศทางโทรทัศน์ในอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมาว่า ได้แจ้งต่อประธานาธิบดีราชปักษา วัย 73 ปีว่า แกนนำในสภาได้ประชุมและมีมติขอให้ลาออก ประธานาธิบดีตกลงจะลาออกในวันพุธที่ 13 กรกฎาคมเพราะต้องการส่งมอบอำนาจอย่างราบรื่น ดังนั้นขอให้ประชาชนเห็นแก่ประเทศชาติด้วยการอยู่ในความสงบ ด้านสมาชิกสภาพรรคฝ่ายค้านเผยว่า สมาชิกสภามีมติเป็นเอกฉันท์ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดีและดำเนินการเรื่องตั้งรัฐบาลชั่วคราว
ศรีลังกาเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 2491 ประชาชนขาดแคลนสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน และมีการประท้วงมาหลายเดือน จนกระทั่งผู้ประท้วงจำนวนมากมุ่งหน้าเข้ากรุงโคลัมโบเมื่อวันเสาร์ เกิดการปะทะกับตำรวจปราบจลาจลที่พยายามสกัดขบวน มีคนบาดเจ็บมากกว่า 30 คน จากนั้นผู้ประท้วงได้บุกเข้าไปในบ้านพักประธานาธิบดี ตามด้วยการบุกบ้านพักนายกรัฐมนตรีและจุดไฟเผา สถานีโทรทัศน์เอกชนแห่งหนึ่งเผยว่า ทีมข่าว 6 คนถูกตำรวจทุบตีบาดเจ็บระหว่างรายงานเหตุการณ์ที่บ้านพักนายกรัฐมนตรี ขณะที่สภาการแพทย์ศรีลังกาแจ้งว่า โรงพยาบาลต่าง ๆ กำลังขาดแคลนเวชภัณฑ์และไม่สามารถดูแลผู้บาดเจ็บจำนวนมากจากการประท้วงได้.-สำนักข่าวไทย