17 พ.ย. – คนสนิทนำกาแฟ 2 แก้ว เข้าเยี่ยม “กฤษอนงค์” ที่กองบังคับการปราบปราม เผยเจ้าตัวมีอาการเครียดเล็กน้อย กินข้าวไม่ได้
เวลา 12.07 น. คนสนิทของ น.ส.กฤษอนงค์ หรือเจ๊พัช เดินทางมายังอาคารกองบังคับการปราบปราม เพื่อติดต่อขอเยี่ยม น.ส.กฤษอนงค์ พร้อมนำกาแฟ 2 แก้วและน้ำเปล่า 2 ขวด มามอบให้ โดยบอกกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ เพียงแค่ว่า ตนนำกาแฟมาเยี่ยม เพราะพัชกินแต่กาแฟ ไม่ได้ต้องการอะไรเป็นพิเศษ
ต่อมาเวลาประมาณเที่ยงครึ่ง ชายคนดังกล่าวได้ออกมาคุยโทรศัพท์ข้างนอกก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วกลับเข้าไปในห้องควบคุมตัวอีกรอบ ทำแบบนี้ประมาณ 2 ครั้ง ซึ่งมีสีหน้าที่เคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่หลังจากนั้นจะพบว่ามีผู้หญิงอีกคนหนึ่งเดินเข้าไปในอาคารแล้วไปคุยกับชายคนดังกล่าว เป็นเวลาประมาณ 5 นาทีเศษ โดยทั้งคู่พยายามที่จะหลบมุมผู้สื่อข่าวคุยบริเวณหลังฉาก ก่อนจะติดต่อกับตำรวจเพื่อขอเข้าไปในห้องควบคุมตัวอีกครั้ง
กระทั่งเวลา 13.02 น. ชายคนดังกล่าวได้เดินออกมาจากห้องควบคุมตัว โดยพยายามที่จะเดินหนีการพูดคุยกับสื่อมวลชน บรรดาสื่อมวลชนจึงวิ่งเข้าไปสอบถามพูดคุยกับชายคนดังกล่าวถึงการมาเยี่ยม น.ส.กฤษอนงค์ ชายคนดังกล่าวระบุเพียงแค่ว่า “พี่พัชยังโอเคอยู่ครับ” ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามต่อไปว่า เจ๊พัชมีอาการเครียดไหม ชายคนดังกล่าวบอกว่า “เครียดนิดหน่อยครับ” ส่วนประเด็นที่ว่ามีการพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดการต่อสู้หรือไม่ ชายคนดังกล่าวบอกเพียงแค่ว่า “ไม่ใช่ ตนมาเยี่ยมเฉยๆ” พร้อมกับกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ตนไม่ใช่ทนายความ จึงไม่ทราบเรื่องการต่อสู้และการประกันตัว พี่พัชไม่ได้ฝากข้อความอะไร ตนแค่มาเยี่ยมเท่านั้น ปกติพี่พัชกินแต่กาแฟเลยเอากาแฟมาเยี่ยม ไม่ได้มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษและพี่พัชกินข้าวไม่ได้”
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าแล้วชายคนดังกล่าวมีความสัมพันธ์อะไรกับเจ๊พัช ชายคนนั้นบอกเพียงแค่ว่าตนแค่มาเยี่ยมพี่พัชเฉยๆ ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวยังได้ถามอีกว่า ในขณะที่จับกุมที่บ้านพัก ชายคนดังกล่าวทราบเรื่องหรือไม่และทำไมชายคนดังกล่าวถึงอยู่ที่บ้านขณะจับกุม ชายคนดังกล่าวบอกเพียงแค่ว่า “ครับ แค่นี้นะครับ” ก่อนจะเดินหนีวงนักข่าวออกไป
ส่วนผู้หญิงคนที่มาเยี่ยมเจ๊พัชในตอนหลังนั้น ปรากฏว่าได้แยกตัวออกไปในขณะที่กำลังถูกสัมภาษณ์ อนึ่ง ระหว่างที่ชายคนดังกล่าวได้เดินออกมานั้น พบว่าได้ถือถุงกล่องข้าว 2 กล่อง ซึ่งเป็นข้าวกล่องที่ทางตำรวจสั่งเอาไว้เป็นมื้อเช้าและมื้อเที่ยงกลับออกมาด้วย.-414-สำนักข่าวไทย