กรุงเทพฯ 6 ก.ค. – ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ขยายผลจากคดีฆาตกรรมลูกจ้างบริษัทรับเหมางานก่อสร้างของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในจังหวัดสงขลา จับกุมขบวนการลักลอบขนย้ายแรงงานผิดกฎหมาย คาดเป็นเครือข่ายใหม่ ที่ใช้เส้นทางภาคใต้ ส่งแรงงานไปประเทศที่สาม
พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลการจับกุมขบวนการลักลอบขนย้ายแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นการขยายผลมาจากกรณีการพบศพ นายหมัดดล บินสัน ลูกจ้างบริษัทรับเหมางานก่อสร้างของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา บริเวณป่าละเมาะ ใกล้สนามกอล์ฟ ในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งบริเวณดังกล่าว เป็นแหล่งพักพิงแรงงานต่างด้าวที่จะลักลอบเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมือง 6 จึงร่วมกับตำรวจภูธรภาค 9 สืบสวนหาตัวคนร้าย จนสามารถจับกุมชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง 109 คน ซึ่งในจำนวนนี้เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมดังกล่าว ได้ที่บ้านเช่าหลังหนึ่งไม่ไกลจากจุดพบศพ โดยมีผู้ก่อเหตุ เป็นชาวเมียนมาทั้งหมด ที่ตำรวจออกหมายจับได้ 4 หมาย คาดสาเหตุมาจากการชิงทรัพย์
นอกจากนี้ จากการสืบสวนยังพบว่า แรงงานชาวเมียนมาทั้งหมดเดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติด้านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยจ่ายเงินให้นายหน้ารายละประมาณ 50,000-60,000 บาท จากนั้นนายหน้าจะประสานเครือข่ายพื้นที่ชั้นในจัดหารถเพื่อขนย้ายแรงงาน ก่อนนำไปพักคอยที่จังหวัดสงขลา และพาออกนอกประเทศ ผ่านทางอำเภอแว้งหรืออำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส
ซึ่งภายหลังจับกุมขบวนการดังกล่าวได้หยุดการเคลื่อนไหวประมาณ 3 สัปดาห์ จากนั้นจึงดำเนินการอีกครั้ง จนเจ้าหน้าที่สามารถขยายผลจับกุมกลุ่มผู้ให้การช่วยเหลือคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองได้แล้วรวม 19 คน จากผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 33 คน พร้อมทั้งตรวจยึดยานพาหนะ 13 คัน โทรศัพท์มือถือ 28 เครื่อง พบมีเงินหมุนเวียนประมาณ 14 ล้านบาท ซึ่งตำรวจจะติดตามผู้กระทำความผิดที่เหลือต่อไป โดยพยายามขยายผลให้ถึงนายหน้าที่อยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และนายทุน หรือตัวการหลักต่อไป ซึ่งพบว่า ขบวนการนี้ เป็นเครือข่ายใหม่ ลักษณะนำแรงงานไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่พบมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบนำแรงงานเข้าประเทศทางภาคตะวันออก ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองยังจับกุมนายจาง (สงวนนามสกุล) สัญชาติไต้หวัน ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” และผู้ต้องหาตามหมายจับสำนักอัยการไทเป ข้อหา “ฉ้อโกง” โดยจับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ในซอยอาภาศิริ ย่านห้วยขวาง กรุงเทพฯ หลังเจ้าหน้าพบเห็นชายคนดังกล่าว มีรูปพรรณคล้ายกับผู้ต้องหาของทางการไต้หวัน จึงทำการตรวจสอบจนพบว่า นายจาง เป็นบุคคลที่ทางการไต้หวันต้องการตัว จากคดีฉ้อโกงเงินซื้อขายบิตคอยน์ จำนวนกว่า 200 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 234 ล้านบาท จึงเข้าจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย. -สำนักข่าวไทย