กทม. 18 มิ.ย.- “ทนายเดชา” เผยคุยกับแม่แตงโมทุกวัน พร้อมระบุแม่ห้าม “อัจฉริยะ-ส.ส.เต้” ช่วยเหลือทางคดี ชี้ไม่ใช่ทนาย ไม่มีหลักฐาน ลั่นเหมือนโดนหลอก
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา อดีตทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม เปิดเผยถึงกรณีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ “ส.ส.เต้” หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ประกาศถอนตัวไม่ไปเกี่ยวข้องหรือช่วยเหลือเรื่องคดีการเสียชีวิตของแตงโม ว่า ล่าสุดวันนี้เพิ่งได้คุยกับคุณแม่ ซึ่งคุณแม่มองว่า 2 คนนี้ ทั้ง ส.ส.เต้ กับ นายอัจฉริยะ ไม่ใช่ทนาย ประกอบกับคุณแม่บอกว่านายอัจฉริยะไม่มีหลักฐานด้วย โดยคุณแม่ขอดูหลักฐานหลายรอบแล้วเขาก็ไม่มีหลักฐานให้ดู ซึ่งคุณแม่ก็คิดว่าเหมือนโดนนายอัจฉริยะหลอก ดังนั้นคุณแม่จึงไม่ต้องการให้ 2 คนนั้นเข้ามาช่วยเหลืออะไรเพราะเขาไม่ได้เป็นทนายและไม่มีหลักฐาน โดยคุณแม่ให้โอกาสตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่มีหลักฐานให้ดู
ส่วนประเด็นอื่นๆ ก็คงเป็นเรื่องที่นายอัจฉริยะไปฟ้องคดี โดยที่คุณแม่ไม่ได้อนุญาต ซึ่งคุณแม่ก็รู้สึกผิดหวัง รวมถึงคุณแม่ก็กลัวว่านายปอ จะคิดมากเพราะอยู่ดีๆ ไปฟ้องเขา ไม่ได้บอกเขา ซึ่งเรื่องนี้ทางคุณแม่บอกมาแบบนี้ เมื่อถามถึงกรณีที่คุณแม่เปลี่ยนไปร่วมกับทีมทนายชนบทในความเห็นของทนายเดชาต่อเรื่องนี้เป็นอย่างไรนั้น ทนายเดชา กล่าวว่า ก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากพี่ชนบทเขาก็เป็นทนายที่มีความรู้ทางกฎหมายดีกว่า ส.ส.เต้ และนายอัจฉริยะ ที่ไม่ได้เป็นทนาย ดังนั้นการที่จะได้ความรู้จากผู้ประกอบวิชาชีพดีกว่าอยู่แล้ว เพราะพวกนั้นเป็นแค่ทะแนะ
ทนายเดชา ยังกล่าวว่า ได้คุยกับคุณแม่ทุกวัน คุณแม่มีอะไรก็จะโทรมาเล่าในฐานะที่เป็นเพื่อนกัน ไม่ใช่ในฐานะที่เป็นทนาย และตนก็รู้เรื่องนี้มานาน เป็นเวลา 77 วัน ก็มองว่านานมากในการช่วยประสานตำรวจ อัยการต่างๆ ได้ เพราะว่าตนก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่ทั้งนี้ ส่วนตัวคงไม่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือกลับเข้าไปทำในคดีแตงโมนี้อีก
ทั้งนี้ ได้ให้คำแนะนำในฐานะเพื่อนไปว่า ขอให้คุณแม่ระวังตัวด้วย ทำอะไรก็ให้มีสติ และถ้ามีพยานหลักฐานก็อย่าไปฟ้องคนนั้นคนนี้ เพราะเดี๋ยวจะโดนฟ้องกลับ ส่วนอะไรที่จะดำเนินการในทางคดีก็ให้แจ้งกับพี่ชนบทไป ซึ่งเขาจะดูแลให้ อย่าไปทำอะไรเองโดยพลการ
ส่วนเรื่องราวต่อจากนี้ ทางคุณแม่เองก็คงไม่ให้ทั้ง ส.ส.เต้ กับนายอัจฉริยะ มาเกี่ยวข้องในคดีแตงโม ซึ่งเรื่องนี้คุณแม่บอกกับตนว่า เพิ่งทราบว่านายอัจฉริยะ ไม่ใช่ทนาย แต่ทำไมมาทำตัวเหมือนทนาย ส่วนเรื่องทางคดีต่อจากนี้ก็คงเป็นการดำเนินคดีในชั้นศาล คดีที่ฟ้องแล้วก็อาจจะต้องไปแก้ฟ้องหรือไปดำเนินการยกเลิกการมอบอำนาจต่างๆ ซึ่งต่อจากนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของทนายชนบท ส่วนอัยการก็รอวันที่ 23 มิถุนายนนี้ ว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง .-สำนักข่าวไทย