ดีเอสไอ 29 ต.ค.- บช.ก. เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี “อัจฉริยะ” เข้าเรือนจำพร้อมพนักงานสืบสวน
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าพบนายจิระวัฒน์ แสงภักดี (โค้ชแล็ป) ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 25 ต.ค.67 ว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบนายอัจฉริยะ เข้าพบโค้ชแล็ปในเรือนจำฯ เป็นพนักงานสืบสวน ไม่ใช่พนักงานสอบสวน โดยมีญาติของฝ่ายถูกกล่าวหาติดต่อมา ตนไม่มีรายละเอียด ทราบแต่ว่ามีการเปิดให้เยี่ยมญาติ และถ้าเรือนจำฯ อนุญาต นายอัจฉริยะ ก็สามารถเข้าเยี่ยมได้
เมื่อถามว่า การเข้าห้องสอบสวนในเรือนจำฯ บุคคลไม่ใช่เจ้าหน้าที่สามารถเข้าได้หรือไม่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ เผยว่า ถ้าไม่ใช่การสอบสวน ไปเพียงการพูดคุยหาข้อเท็จจริงปกติทำได้ ซึ่งวันนั้นตำรวจเข้าไปก็ไม่ได้สอบปากคำ แต่พูดคุยเรื่องทั่วไป
พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่ามีทีมดำเนินการตรวจสอบ และต้องชี้แจงได้ในภายหลัง ถ้าผลการตรวจสอบออกแล้ว ตนไม่ได้ตรวจสอบเองยังตอบได้ไม่ชัดเจน
เมื่อถามว่าจุดเริ่มต้นมาจากกรณีอ้างว่ามีตำรวจ ปคบ. จะรีดเงินไม่ให้ออกหมายจับโค้ชแล็ป 9 ล้านบาท ภรรยาโค้ชแล็ปและเพื่อนรุ่นพี่โค้ชแล็ป ได้ประสาน นายอัจฉริยะ เข้าในเรือนจำฯ เพื่อเซ็นมอบอำนาจ ซึ่งตำรวจได้สอบถามกับทางภรรยาและเพื่อนรุ่นพี่โค้ชแล็ปหรือไม่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ เผยสั้นๆ ว่า ประเด็นดังกล่าวยังไม่ทราบข้อเท็จจริง และว่านายอัจฉริยะ ไม่ได้เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ทั้ง ราชทัณฑ์และตำรวจ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีคำตอบ ว่าทุกอย่างเป็นไปตามข้อบังคับและระเบียบหรือไม่
ถ้าเป็นในกรณีการสอบสวนปากคำผู้ต้องหาจะต้องเป็นการได้รับอนุญาตจากการระบุตัวโดยผู้ต้องหาเท่านั้น คือเป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจ ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะให้ใครเข้าร่วมรับฟังในการสอบปากคำ เป็นสิทธิ์ตามกฎหมายของผู้ต้องหา. 119.-สำนักข่าวไทย