รัฐสภาเห็นชอบ “นายกฯ” นั่งประธาน ก.ตร.

รัฐสภา 16 มิ.ย.- เสียงรัฐสภาข้างมากเห็นชอบ “นายกฯ” นั่งประธาน ก.ตร. ตามร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ


การประชุมรัฐสภา ที่มีนายชวน หลีกภัย  ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญัญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ…. ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ ที่มี พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ส.ว. ในฐานะรองประธาน กมธ. ทำหน้าที่ประธานกมธ. พิจารณาแล้วเสร็จในวาระสองต่อเนื่อง โดยที่ประชุมได้พิจารณาในประเด็นสำคัญ คือ  คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยร่างมาตรา 14 กมธ.ยังคงกำหนดให้ นายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่ง ประธาน ก.ตร. และตัดตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงยุติธรรม อัยการสูงสุด และเลขาธิการสำนักศาลยุติธรรม ออกจากกบทบัญญัติที่เสนอในวาระรับหลักการ

สำหรับการอภิปรายของส.ส.ในมาตราดังกล่าวทักท้วงและไม่เห็นด้วย ต่อการกำหนดให้ นายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งประธาาน ก.ตร. เนื่องจากกังวลว่าจะเปิดช่องให้ฝ่ายการเมืองแทรกแซงการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจได้


โดยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย อภิปรายว่า ไม่เห็นด้วยให้นายกรัฐมนตรีใ นฐานะฝ่ายการเมืองดำรงตำแหน่งดังกล่าว เพราะที่ผ่านมาพบการใช้อำนาจ และตำแหน่งเพื่อแทรกแซงโยกย้าย โดยไม่คำนึงถึงหลักการอาวุโส ความรู้ความสามารถ และเพื่อให้การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจเป็นไปตามความรู้ ความสามารถและความเหมาะสมในความอาวุโส เห็นควรให้บุคคลในวงการตำรวจ เช่น ผบ.ตร. หรือ อดีต ผบ.ตร. ทำหน้าที่ดังกล่าว

ขณะที่ตำแหน่งของก.ตร.นั้น ยังมีผู้เสนอให้มีสัดส่วนจากภาคประชาชน ตัวแทนประชาชนที่มาจากการเลือกตั้ง รวมถึงนายกสภาทนายความมีส่วนร่วม  แต่ในการลงมติปรากฎว่า เสียงข้างมากเห็นชอบกับการแก้ไขของกมธ.

จากนั้น ที่ประชุมรัฐสภาได้พิจารณามาตรา 15 ว่าด้วยหน้าที่และอำนาจของ ก.ตร. ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาก่อนลงมติให้เป็นไปตามการแก้ไขของกมธ.เสียงข้างมากที่กำหนดให้ ก.ตร.  ออกข้อกำหนด นโยบาย มาตรฐาน ที่เกี่ยยวเนื่องกับข้าราชการตำรวจ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการพิจารณาของร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ตามที่ประชุมคณะกรรมการประสานรัฐสภา เมื่อ 15 มิถุนายน เบื้องต้นได้กำหนดระยะเวลาประชุม วันที่ 16 – 17 มิถุนายน และวันที่ 24 มิถุนายน แต่หากไม่แล้วเสร็จจะพิจารณาเพิ่มวันประชุมในวันอังคาร ทั้งนี้วิปขอให้ส.ส.ใช้เวลาอภิปรายเนื้อหาให้กระชับ ไม่ซ้ำกับการอภิปรายของบุคคลอื่น เพื่อลดเวลาอภิปรายของสมาชิก และเร่งการทำงานในภาพรวม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง