ปชน. ยื่นร่างแก้ รธน. รายมาตราต่อรัฐสภาแล้ว รวม 17 ฉบับ

กทม.​ 14 พ.ย.- “สส.ปชน.” ยื่นร่างแก้ รธน. รายมาตรา ต่อรัฐสภาแล้ว รวม 17 ฉบับ พบหลากหลายประเด็น เขี่ย “สว.” พ้นทางแก้ รธน. ให้สิทธพรรคฝ่ายค้านได้ตำแหน่ง ปธ.-รองปธ.สภาฯ ติดทางด่วน สอบ “ป.ป.ช.” จับตา “ประธานรัฐสภา” นัดประชุมวิป 3 ฝ่าย เคาะวันพิจารณา


ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ถึงความเคลื่อนไหวต่อการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังจากที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ว่าเตรียมนัดประชุมคณะกรรมการประสานงาน (วิป) 3 ฝ่าย คือ วุฒิสภา สส.รัฐบาล และ สส.ฝ่ายค้าน ในช่วงต้นเดือนธ.ค. ก่อนที่จะเปิดสมัยประชุมสภาฯ ซึ่งมีวาระพิจารณากำหนดกรอบการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีผู้เสนอต่อรัฐสภา

ทั้งนี้ในการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต่อรัฐสภา นั้น ล่าสุด สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ได้เผยแพร่รายละเอียดต่อการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ในสภาฯ ชุดที่ 26 มีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบรายมาตรา เข้ามาแล้ว รวม17 ฉบับ ซึ่งเป็นของ ฉบับที่สส.พรรคประชาชน เข้าชื่อเสนอทั้งหมด ได้แก่


1.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยสาระสำคัญ คือ ตัดเงื่อนไขที่ต้องใช้เสียง สว.​ร่วมโหวตเป็นจำนวนตามเกณฑ์กำหนด โดยเปลี่ยนใช้เสียง สส. เห็นชอบทั้งหมด และมีเงื่อนไข คือ ต้องได้เสียง สส.เห็นชอบ ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของสมาชิกที่มีอยู่ของสภา

2.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 ว่าด้วยการแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตัดประเด็นเงื่อนไขกรณีต้องไม่มีสมาชิกพรรคที่ดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ หรือ รองประธานสภาฯ ออกไป เพื่อให้ผู้นำฝ่ายค้านฐานะพรรคการเมืองหลักในฝ่ายค้านสามารถมีตำแหน่งรองประธานสภาฯ หรือ รองประธานสภาฯ ได้

3.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 ว่าด้วยหน้าที่และอำนาจของ คณะกรรมาธิการ โดยเพิ่มอำนาจให้ สอบสวนข้อเท็จจริงได้ จากเดิมที่กำหนดหน้าที่เพียง สอบหาข้อเท็จจริง


4.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 199 ว่าด้วยขอบเขตอำนาจศาลทหาร ที่กำหนดกรอบอำนาจให้ศาลทหารพิจารณาพิพากษาคดีอาญาของผู้กระทำความผิดเป็นบุคคล เฉพาะในระหว่างการประกาศสงคราม

5.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 50 ว่าด้วยหน้าที่ของบุคคล ซึ่งแก้ไข (5) ที่กำหนดให้มีหน้าทที่รับราชการทหารตามที่กฎหมายบัญญัติ เป็น รับราชการทหารเมื่อมีภัยสงครามหรือเหตุที่ประเทศเผชิญสงครามในระยะเวลาอันใกล้ตามที่กฎหมายกำหนด

6.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 25 ว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย ซึ่งตัดข้อห้ามการใช้สิทธิและเสรีภาพ ประเด็นที่จะกระทบกระเทือนหรือเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐออกไป

7.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 34 ว่าด้วยการขยายการใช้สิทธิและเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นของประชาชน ที่ไม่ให้กฎหมายใดจำกัดการแสดงความคิดเห็นที่เป็นการติชม ด้วยความเป็นธรรม อีกทั้งยังกำหนดให้บุคคลมีเสรีภาพทางวิชาการ และกำหนดบทคุ้มครองการศึกษาอบรม การเรียนการสอน การวิจัย การเผยแพร่งานวิจัยตามหลักวิชาการที่ไม่ขัดต่อหน้าที่พลเมืองหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน

8.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 29 ว่าด้วยสิทธิการขอประกันตัวผู้ต้องหา หรือจำเลยในคดีอาญา ที่แก้ไขให้การคุ้มครองสิทธิที่จะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวอย่างรวดเร็ว และเหตุที่ไม่ปล่อยตัวชั่วคราว กำหนดบทบัญญัติเป็นกรณีเฉพาะว่า เพราะมีพฤติการณ์อันเชื่อได้ว่าหากปล่อยตัวชั่วคราวจะทำให้เกิดกรณีหลบหนี หรือ เหตุอื่น

นอกจากนั้นได้เพิ่มข้อความในวรรคท้ายขึ้นใหม่ โดยกำหนดระยะเวลาคุมขังของผู้จำเลย ห้ามเกิน 1 ปี ทั้งในศาลชั้นต้น หรือ ชั้นของศาลอุทธรณ์ กรณีไม่ถูกพิพากษาให้ลงโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป

9.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 27 ว่าด้วยการเสมอภาคทางเพศ ซึ่งได้แก้ไขในวรรคสองให้ บุคคลทุกคน ไม่ว่าเพศ เพศสภาพ เพศวิถี หรือ อัตลักษณ์ทางเพศใดมีสิทธิเท่าเทียมกัน

10. ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลุ่มมาตราว่าด้วยสิทธิของประชาชนและชุมชนด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้เพิ่มเติมให้สิทธิของบุคคลดำรงชีพอยู่อย่างปกติและต่อเนื่องในสิ่งแวดล้อมที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ ยั่งยยืนและไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัย สวัสดิภาพ หรือคุณภาพชีวิตของประชาชน

นอกจากนั้นแล้วยังได้เพิ่มบทว่าด้วยหน้าที่ของรัฐที่ต้องคุ้มครอง ส่งเสริม และรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประชาชนดำรงชีพอยู่ได้อย่างปกติ ต่อเรื่องในสิ่งแวดล้อมที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ ยั่งยืนและไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ อนามัยยหรือคุณภาพชีวิต และยังกำหนดเงื่อนไขของการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่ให้องค์กรอิสระ ประกอบด้วย เอกชน สถาบันอุดมศึกษาเป็นผู้ดำเนินการ

11.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลุ่มมาตราว่าด้วยการศึกษา ซึ่งกำหนดให้บุคคลได้รับการศึกษาที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพ เป็นเวลาอย่างน้อย 15 ปี ตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

    12.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลุ่มมาตราว่าด้วยสิทธิในการรับทราบข้อมูล ข่าวสารสาธารณะ ซึ่งเพิ่มบทบัญญัติที่ว่าด้วย การได้รับคุ้มครองจากรรัฐในกรณีเปิดเผยหรือแจ้งเบาะแสการทุจริตภาครัฐ พร้อมทั้งกำหนดให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลหรือข่าวสารของรัฐ ยกเว้นความลับทางราชการ ในรูปแบบที่ง่ายต่อการใช้งาน

    13.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 236 ว่าด้วยการยื่นตรวจสอบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ให้อำนาจ สมาชิกรัฐสภาดำเนินการผ่านประธานรัฐสภา ซึ่งได้กำหนดให้ ประธานรัฐสภาหลังได้รับเรื่องต้องส่งให้ประธานศาลฎีกาทันที โดยตัดเงื่อนไขที่ ประธานรัฐสภาต้องใช้ดุลยพินิจว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทำตามที่ถูกกล่าวหา ออก

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ พรรคประชาชน โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อรัฐสภามาแล้ว 4 ฉบับ คือ

    • 1.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลุ่มมาตราว่าด้วยคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ คือ รัฐมนตรี สส. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งตัดคุณสมบัติที่ว่าด้วยต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงออก และเชื่อมโยงไปยังกระบวนการตรวจสอบ ของ ป.ป.ช. ในการตรวจสอบผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ทำผิดจริยธรรมร้ายแรงด้วย
    • 2.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการลบล้างผลพวงรัฐประหาร เมื่อ 22 พ.ค.2557 และการป้องกันและต่อต้านรัฐประหาร
    • 3.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการยกเลิกแผนยุทธศาสตร์ชาติและยกเลิกแผนการปฏิรูปประเทศตามหมวด 16 การปฏิรูปประเทศ
    • 4.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ยกเลิกมาตรา 279 และเพิ่มสิทธิให้บุคคลที่ได้รับความเสียหายจากคำสั่ง การกระทำของ คสช. หรือ หัวหน้า คสช. มีสิทธิฟ้องร้องต่อศาลเพื่อเรียกค่าเสียหายได้

    ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขของการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ กำหนดให้ ประธานรัฐสภาต้องพิจารณาความถูกต้องของรายละเอียดการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จ และบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระภายใน 15 วัน ส่วนจะพิจารณาในช่วงเวลาใดของสมัยประชุมนั้นตามการปฏิบัติปกติจะขึ้นอยู่กับการหารือของวิป3 ฝ่าย.-319 -สำนักข่าวไทย

    ดูข่าวเพิ่มเติม

    Top Viewed • อ่านมากสุด

    ดูทั้งหมด

    “ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

    กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

    รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

    นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

    มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

    กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

    ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

    สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

    ข่าวแนะนำ

    “สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ลุยสางปัญหาวงการสงฆ์

    พุทธมณฑล 16 ก.ค.- “สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ผอ.พศจ.ทั่วประเทศตบเท้าเข้าฟัง หลังเกิดประเด็นฉาว “สีกากอล์ฟ” บอกขอฟังปัญหาก่อนเพื่อแก้ให้ตรงจุด ชี้ถูกสั่งให้มาสางปัญหาแต่ปัญหามีเยอะเหลือเกิน ยกรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 แจง รัฐต้องช่วยแก้ปัญหา นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบนโยบายการดำเนินงานแก่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมีนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงและผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาทั่วประเทศเข้ารับฟัง ณ อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ห้องประชุม มส.เดิม) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม หลังเกิดประเด็น สีกากอล์ฟ ที่มีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องจนทำให้มีการลาสิกขาบทไปแล้วถึง 9 รูป โดยนายสุชาติ กล่าวว่า ตนมาวันนี้อยากขอฟังภารกิจของสำนักงานพระพุทธศาสนา ในสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เพราะตอนนี้ตนได้มารับงานดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นอย่างที่ตนได้เคยให้ข่าวไว้ว่ารับน้องใหม่แรงเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไรยินดีที่จะเข้ามาสางปัญหา เพราะถูกส่งให้เข้ามาสางปัญหาโดยเฉพาะ แต่ก็มีปัญหาให้สางเยอะไปหน่อย แล้วตนอยากฟังว่าการดำเนินงานที่ผ่านมามีปัญหาหรือติดขัดอะไรบ้าง มีอะไรให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขให้ถูกจุด เพราะว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 5 […]

    “ภูมิธรรม” ขออดทนอดกลั้นเหตุกัมพูชายั่วยุ อย่าฟัง “ฮุนเซน”

    บน.6 ดอนเมือง 16 ก.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่นรัฐบาลไม่พอใจกัมพูชามากอยู่แล้ว ขอประชาชน-ทหาร อดทนเหตุยั่วยุต่างๆ อย่าฟัง “ฮุนเซน” แค่ “พ่อนายกฯ เขมร” อยากแก้ปัญหา แต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุความวุ่นวายที่ประสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ วานนี้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิด ซึ่งทราบว่ามีการยั่วยุ โดยพยายามสั่งให้เจ้าหน้าที่ไทยระมัดระวังและอดทนอดกลั้นให้มากที่สุด รวมถึงพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่ก็ต้องคอยระวัง เพราะกัมพูชาจะใช้กลยุทธ์วิธีแบบนี้ในการทำให้เกิดการประทะกัน เกิดความรุนแรง ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในเรื่องระหว่างประเทศได้ กำลังพลของไทยส่วนใหญ่เข้าใจ ยืนยันว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ใช้กำลังแก้ปัญหา และไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเราทำให้เกิดความรุนแรง เพื่อจะเอาพื้นที่กลับมา สำหรับปราสาทตาเมือนธม ก็มีมาตรการในการป้องปรามอยู่แล้ว เปิดบางส่วนปิดบางส่วน ก็ต้องดูเป็นพื้นที่ และเป็นอำนาจในการควบคุมดูแลของแม่ทัพภาคที่ 2 เมื่อถามว่ากังวลจะมีเหตุซ้ำรอยหรือไม่ เพราะกัมพูชายั่วยุมา ส่วนฝ่ายไทยก็มีอดีตทหารพรานไปชกหน้าทหารกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ต้องพยายามอย่าปลุกความเกลียดชัง สิ่งที่เราห่วงใยคือการปะทะแล้วจะเลยเถิดไปถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนชาวไทยที่อยู่แนวชายแดน และทหารหาญ เพราะถ้ากระทบขึ้นมาก็ไม่ดี “รัฐบาลไม่พอใจกัมพูชาอย่างมากอยู่แล้ว และในแง่การดำเนินการทางการทูต รัฐมนตรีต่างประเทศก็ได้ดำเนินการแต่ละขั้นตอน […]

    “สีกากอล์ฟ” อิดโรย-ยกมือไหว้ขอโทษ ก่อนเข้าห้องขังกองปราบฯ

    16 ก.ค. – “สีกากอล์ฟ” ปิดปากเงียบตอบคำถามสำนึกผิดหรืออยากขอโทษในสิ่งที่ทำลงไปหรือไม่ พร้อมยกมือไหว้ขอโทษ ก่อนถูกคุมตัวเข้าห้องขังกองปราบฯ ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ควบคุมตัว น.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ เข้ามาควบคุมตัวที่ห้องควบคุมขัง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าสำนึกผิดหรืออยากจะขอโทษในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปหรือไม่ สีกากอล์ฟไม่ตอบคำถามใดๆ เพียงแค่ยกมือไหว้เท่านั้นจากการสังเกตพบว่าสีกากอล์ฟมีท่าทีอิดโรยและเครียดมาก ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. แจ้งข้อหาสีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ใน 3 ข้อหา คือ ม.147 เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, รับของโจร, สมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน ก่อนแถลงจับกุมว่ พบลักษณะของการกรรโชกทรัพย์อดีตท่านเจ้าคุณอาชว์ จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวน แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเราต้องทำก่อนคือการจัดการปัญหาเรื่องวินัยสงฆ์ เพราะถ้ารูปต่างๆ หลุดออกไป อาจทำให้เกิดความเสื่อมเสียไปเป็นอย่างมาก จากการตรวจสอบพบว่าสีกากอล์ฟมีความสัมพันธ์กับอดีตเจ้าคุณอาชว์ ช่วงเดือน พ.ค. 2567 ก่อนที่จะห่างกันไป แต่กลับมาอ้างว่ามีลูกที่เจ้าคุณอาชว์ พร้อมขอค่าเลี้ยงดูเลี้ยง 7.2 ล้านบาท ตกเดือนละ […]

    อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

    กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]