กรมฝนหลวงฯ แก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือสำเร็จ

กรุงเทพฯ 25 มี.ค. – กรมฝนหลวงฯ ประสาน 2 หน่วยปฏิบัติการ แก้วิกฤติปัญหาหมอกควันทางภาคเหนือสำเร็จ


นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า จากปัญหาหมอกควันและไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย ทำให้เกิดฝุ่นละอองที่เป็นมลพิษ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน สิ่งแวดล้อม ตลอดจนพื้นที่การเกษตรด้วยนั้น กรมฝนหลวงฯ  ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าวและมีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ จึงดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวงยับยั้งปัญหาหมอกควันใน 9 จังหวัดทางภาคเหนือ ได้แก่ ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน ตาก พะเยา และแม่ฮ่องสอนอย่างเร่งด่วน

นายสุรสีห์ กล่าวว่า จากการปฏิบัติการฝนหลวงยับยั้งหมอกควันวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา มีการบินปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ประสบปัญหา  โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือจังหวัดพิษณุโลก ปฏิบัติการฝนหลวงยับยั้งหมอกควันในพื้นที่จังหวัดแพร่และน่าน และหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่ ปฏิบัติการในพื้นที่จังหวัดลำพูนและลำปาง โดยใช้อากาศยานชนิด CASA จำนวน 2 ลำ ซึ่งผลจากการปฏิบัติการพบว่าสามารถยับยั้งปัญหาหมอกควันในพื้นที่ 9 จังหวัด รวมพื้นที่เป้าหมายในภาคเหนือได้ คือ พื้นที่ประสบปัญหาในจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน น่าน แพร่ พะเยา และตาก มีค่ามาตรฐานฝุ่นละอองในอากาศ หรือ PM10 อยู่ที่ 41 – 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร วันนี้ (25 มี.ค.) มีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งลดลงจากระดับที่มีผลต่อสุขภาพประชาชนที่ 121 – 350 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (24 มี.ค.) อย่างไรก็ตาม ยังคงมีบางพื้นที่ในจังหวัดเชียงรายและแม่ฮ่องสอนที่ยังประสบปัญหาหมอกควัน โดยมีค่า PM10 อยู่ที่ 168 และ 143 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งกรมฝนหลวงฯจะเร่งดำเนินการช่วยบรรเทาต่อไป


สำหรับการสลายลูกเห็บ แบ่งการปฏิบัติการออกเป็น 2 ภารกิจ เน้นปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภาคเหนือ และช่วยแจ้งเตือนสถานการณ์ที่จะเกิดลูกเห็บในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีการติดตามสภาพอากาศจากเรดาห์ตรวจอากาศและแจ้งข่าวสารผ่านอาสาสมัครฝนหลวงในพื้นที่ให้กับประชาชนด้วย และขอให้ประชาชนที่อาจประสบปัญหาหมอกควัน หลีกเลี่ยงกิจกรรมในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุมหรือสวมหน้ากากปิดจมูก  ส่วนพื้นที่ที่ประสบปัญหาพายุลูกเห็บ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้งและใต้ต้นไม้ใหญ่ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น