ทำเนียบฯ 24 พ.ค.- ครม. อนุมัติโครงการ “ที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามา-ธนารักษ์” วงเงินลงทุน 1,345 ล้านบาท
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี อนุมัติให้กรมธนารักษ์และบริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ดำเนินโครงการ “ที่พักผู้สูงอายุ รามา-ธนารักษ์” บนที่ดินราชพัสดุ จังหวัดสมุทรปราการ กรอบวงเงิน ประมาณ 1,345.934 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการฯ เมื่อมีผู้เช่า(Leasehold) ห้องพักแล้วทั้งหมดเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันมีผู้สูงอายุสนใจจองสิทธิเช่าห้องพักอาศัยแล้ว 1,310 ราย โดยผู้สูงอายุที่เข้าร่วมโครงการ จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น สิทธิการพักอาศัย 30 ปี สิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพ
สาระสำคัญของโครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุรามา-ธนารักษ์ มีดังนี้ วัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีที่พักอาศัยพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เหมาะสมสำหรับการดำรงชีวิต รวมทั้งยังเป็นการพัฒนาและใช้ประโยชน์จากที่ดินราชพัสดุที่ว่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเปิดโอกาสทางธุรกิจและช่องทางการหารายได้ให้กับธพส. และรัฐ
ผังโครงการ ฯ ประกอบด้วย (1) อาคารพักอาศัยรวม 8 ชั้น จำนวน 7 อาคาร มีห้องพักรวมทั้งสิ้น 921 ห้อง (2) อาคารให้บริการ ส่วนกลาง (3) อาคารสำนักงาน และพื้นที่พาณิชย์ คุณสมบัติและเงื่อนไขของผู้เข้าร่วมโครงการ มีสัญชาติไทยอายุไม่ต่ำกว่า 58 ปีนวันจองสิทธิ์และหรือมีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ณ วันที่เข้าพักอาศัยจริง ต้องเป็นผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงช่วยเหลือพึ่งพาตัวเองได้ดี มีรายได้หลังเกษียณอย่างน้อย 30,000 บาทต่อเดือนโดยอาจจะเป็นรายได้โดยตรงของผู้สูงอายุเช่นเงินบำนาญ หรือเงินสนับสนุนจากบุตรหลานก็ได้ สิทธิประโยชน์ในการเข้าพักที่พักอาศัย : สิทธิที่พักอาศัย 30 ปี ไม่สามารถซื้อขายหรือโอนสิทธิ์ให้บุคคลอื่น เว้นแต่ขายคืนให้ผู้บริหารโครงการ ฯ และไม่ตกทอดทายาท
สิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพ (1) กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินในระดับปฐมภูมิที่ไม่รุนแรง สามารถใช้ห้องพยาบาลตลอด 24 ชั่วโมง (2)กรณีเข้าสู่ภาวะต้องพึ่งพิงแต่ยังสามารถอาศัยอยู่ในห้องพักได้ โดยมีญาติหรือผู้ดูแล (3) กรณีไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และต้องการดูแลในระยะยาว จะได้รับสิทธิการอยู่ในสถานบริบาลผู้สูงอายุรามาธิบดี เมื่อห้องว่าง(4) กรณีเข้าสู่ภาวะผู้ป่วยระยะท้ายที่คาดว่าจะเสียชีวิตภายในระยะเวลา 3 เดือน สามารถใช้บริการสถานบริบาลผู้ป่วยระยะท้ายใน Hospice Zone สิทธิประโยชน์ด้านสินเชื่อและเงื่อนไขผ่อนเป็นพิเศษ ตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคารที่เข้าร่วมโครงการกรอบงบ ฯ การลงทุนโครงการ จำนวน 1,345.934 ล้านบาท โดยใช้งบลงทุนของ ธพส.
ประมาณการค่าใช้จ่าย : ผู้สูงอายุต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ประกอบด้วย (1) ค่าเช่าสิทธิ์ที่ห้องพักเริ่มต้นที่ 1.82 – 3 ล้านบาท (2) ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง เดือนละ 2,000 บาท (3)และค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ เดือนละ 2,000 บาท (4) เงินทุนสำรองในการดำรงชีพขณะอยู่ในโครงการ จำนวน 300,000 บาท (5) ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ชำระตามจริง การเปิดรับจองสิทธิ์ตามประกาศหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของการของคณะกรรมการบริหารโครงการฉบับที่ 1 / 63 :โดยผู้สูงอายุสนใจจองสิทธิ์เช่าห้องพักอาศัยจำนวน 1,310 คน
การเข้าพักอาศัยและการออกจากโครงการ ฯ ธพส. จะส่งมอบห้องพักให้ผู้สูงอายุตามที่ได้รับจองสิทธิ์ไว้เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ กรณีประสงค์จะออกจากโครงการ ฯ ก่อนกำหนด สิทธิการพักอาศัยจะถูกระงับและไม่ตกทอดแก่ทายาท และหากเสียชีวิต โดยคู่สมรสสามารถพักอาศัยในโครงการ ฯ ต่อไปได้ จนครบตามสัญญา
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า คณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติ (8 พฤศจิกายน 2559) เห็นชอบมาตรการการสร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Senior Complex) บนที่ราชพัสดุ 4 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีนครนายก เชียงราย และเชียงใหม่ ซึ่งการสร้างที่พักอาศัยทั้ง 4 แห่งบนที่ราชพัสดุดังกล่าวอยู่ระหว่างดำเนินการ ต่อมาได้มีการจัดทำบันทึกข้อตกลงโครงการศูนย์ที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุแบบครบวงจร (Senior Complex) ร่วมกัน6 ฝ่ายระหว่างกรมธนารักษ์ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) มหาวิทยาลัยมหิดล โดยคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี จังหวัดสมุทรปราการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) บนที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สป.623 (บางส่วน) และ สป.646 (บางส่วน) ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เนื้อที่ประมาณ 72 – 1 – 97 ไร่
ประกอบด้วย ศูนย์เรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุแบบครบวงจรและบริบาลผู้ป่วยระยะท้าย (Hospice Zone) (มหาวิทยาลัยมหิดลเช่าที่ราชพัสดุ) พื้นที่สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการพักฟื้นหรือฟื้นฟูสุขภาพ (Nursing Home Zone) (อยู่ระหว่างดำเนินการ) และที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Senior Housing Zone) ภายใต้ชื่อโครงการ “ที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามาฯ – ธนารักษ์” (โดยบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างและบริหารโครงการฯ) บนเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ซึ่งจะเป็นโครงการนำร่อง เพื่อพัฒนาที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ จัดสร้างสถานที่เพื่อให้ผู้สูงอายุที่ดูแลตัวเองได้มีที่พักอาศัยพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เหมาะสมสำหรับการดำรงชีวิต มีระบบการดูแลสุขภาพและสวัสดิการอื่น ๆ แบบครบวงจร .-สำนักข่าวไทย