กรมโยธาธิการและผังเมือง 18 พ.ค. – อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ยืนยันการสร้างเขื่อนแก้ไขปัญหาน้ำกัดเซาะชายฝั่งทุกโครงการ ผ่านการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากพื้นที่อย่างรอบด้าน
นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง (ยผ.) ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลในรูปแบบการใช้โครงสร้างทางวิศวกรรม ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลอย่างเป็นระบบ โดยกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติที่ยึดหลักวิชาการ ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลพื้นฐานและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมจริงทุกพื้นที่ บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เริ่มจากหน่วยงานระดับท้องถิ่นเสนอขอโครงการมายังกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อคัดเลือกและจัดลำดับความสำคัญตามระดับความรุนแรง ซึ่งต้องสอดคล้องกับข้อมูลของกรมทรัพยากรและชายฝั่งทะเล จากนั้นจะว่าจ้างที่ปรึกษาดำเนินการศึกษาและจัดทำรายงานศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (IEE) จากพื้นที่จริงอย่างรอบด้าน เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงพื้นที่ที่สะท้อนสภาพปัญหา สำหรับนำมากำหนดแผนงานและมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม รวมถึงติดตามตรวจสอบเฝ้าระวังผลกระทบในระยะยาวหลังก่อสร้างเสร็จ อีกทั้งกำหนดให้มีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อนำข้อคิดเห็นไปทบทวนปรับปรุงรูปแบบการดำเนินงานที่เหมาะสม สอดคล้องกับศักยภาพและความต้องการใช้ประโยชน์ของประชาชนในพื้นที่
นายพรพจน์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่า กลุ่ม Save หาดแม่รำพึงบางสะพาน กลุ่ม Beach for life ระบุรายงานผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมหาดแม่รำพึง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในประเด็นหัวข้อสาธารณสุข เป็นข้อมูลของจังหวัดสงขลา โดยลอกการศึกษาของพื้นที่อื่นมาใส่ในรายงาน ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในพื้นที่นั้น กรมโยธาธิการและผังเมืองได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ขอเรียนชี้แจงว่า โครงการดังกล่าวได้ดำเนินการว่าจ้างบริษัท เอส ที เอส เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด จัดทำรายงานศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (IEE) ตั้งแต่ปี พ
.ศ. 2561-2562 ซึ่งได้ดำเนินการส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลพื้นฐาน และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากพื้นที่จริงในทุกขั้นตอน แต่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนเกิดจากความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ในการจัดส่งไฟล์รายงานการศึกษาฯ ซึ่งเป็นฉบับ (ร่าง) โดยมิได้ตรวจสอบความถูกต้องให้เรียบร้อยสำหรับรายงานผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมหาดแม่รำพึงฉบับ (จริง) ข้อมูลมีความถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ และสอดคล้องกับข้อเท็จจริงเชิงพื้นที่ทุกประการ
“ในการนี้ กรมโยธาธิการและผังเมือง ต้องขอโทษในความคลาดเคลื่อนดังกล่าว และขอขอบคุณกลุ่ม Save หาดแม่รำพึงบางสะพาน และกลุ่ม Beach for lifeเป็นอย่างสูง ที่ร่วมตรวจสอบรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมหาดแม่รำพึง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งกรมโยธิการและผังเมือง ได้กำหนดจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ชายฝั่งทะเล ตำบลแม่รำพึง อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 11 มิถุนายน 2565 เวลา 13.00 น. ณ อาคารอเนกประสงค์ ที่ว่าการอําเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงขอเชิญชวนกลุ่ม Save หาดแม่รำพึงบางสะพาน กลุ่ม Beach for life และองค์กรเครือข่ายต่างๆ ที่สนใจเข้าร่วมการประชุมฯ ในวันดังกล่าว เพื่อให้ได้ข้อสรุปรูปแบบโครงการก่อสร้างและแนวทางแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ก่อให้เกิดประโยชน์ในภาพรวม บนพื้นฐานที่ไม่เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง มุ่งเน้นการสร้างความสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล ควบคู่กับการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ริมชายฝั่งทะเลอย่างเต็มศักยภาพและเท่าเทียมกัน” อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าว
อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวอีกว่า ประชาชนหรือองค์กรเครือข่ายใดที่ต้องการข้อมูลรายงานผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (IEE) ภายใต้โครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ของกรมโยธาธิการและผังเมือง สามารถติดต่อได้ที่สำนักสนับสนุนและพัฒนาตามผังเมือง (กลุ่มงานพัฒนาพื้นที่ตลิ่งริมแม่น้ำและริมทะเลทั่วประเทศ) หมายเลขโทรศัพท์ 02-299-4720.-สำนักข่าวไทย.