วอชิงตัน 11 พ.ค. – หน่วยข่าวกรองสหรัฐเตือนว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กำลังวางแผนทำสงครามยาวนานในยูเครน เพราะถึงแม้รัสเซียจะคว้าชัยชนะในภูมิภาคตะวันออกของยูเครนได้ ก็ไม่อาจยุติความขัดแย้งในครั้งนี้
แอวริล เฮนส์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐ กล่าวรายงานต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า ประธานาธิบดีปูตินยังคงมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายที่เหนือกว่าการยึดภูมิภาคดอนบาส แต่ก็ประสบปัญหาด้านขีดความสามารถทางทหารรัสเซียในตอนนี้ ซึ่งสวนทางกับความต้องการของเขา ทั้งยังระบุว่า ผู้นำรัสเซียอาจกำลังรอให้การสนับสนุนยูเครนของสหรัฐและชาติยุโรปลดน้อยลง เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อ ขาดแคลนอาหาร และราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้น อย่างไรก็ดี เฮนส์ตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีปูตินอาจหันไปใช้การโจมตีที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิมในสงครามครั้งนี้ แม้รัสเซียจะสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ก็ต่อเมื่อผู้นำรัสเซียเห็นว่ามีภัยคุกคามต่อประเทศก็ตาม ขณะที่สกอตต์ แบริเออร์ ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ กล่าวว่า ขณะนี้รัสเซียกับยูเครนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีฝ่ายใดเอาชนะกันได้
บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี ระบุว่า คำเตือนของหน่วยข่าวกรองสหรัฐมีขึ้นในขณะที่กองทัพรัสเซียยังคงบุกโจมตีภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน อย่างหนักหน่วงเพื่อยึดครองพื้นที่ดังกล่าว หลังยูเครนสามารถต้านทานการโจมตีกรุงเคียฟจนรัสเซียต้องถอนกำลังออกไปในที่สุด ในขณะเดียวกัน กองทัพยูเครนอ้างว่าสามารถยึดพื้นที่ของ 4 เมืองในแคว้นคาร์คิฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน คืนจากรัสเซียได้แล้ว ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยว่า ยูเครนประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อย ๆ จากการขับไล่กองทัพรัสเซียออกจากภูมิภาคคาร์คิฟ ซึ่งถูกรัสเซียเปิดฉากโจมตีอย่างหนักมาตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์. -สำนักข่าวไทย